‘ปคม.-ตร.ทางหลวง’ดักสกัดจับ‘พม่าเถื่อน’ครึ่งร้อย นั่งมาเต็มรถบัส เตรียมส่งให้รถตู้กระจายต่อ สารภาพจ่ายค่าหัวเฉียด 3 หมื่นบาท ให้นายหน้าพาลอบเข้าไทย

10 มีนาคม 2565 พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ผบก.ปคม.) ได้รับแจ้งข่าวจากสายลับ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (กก.2 บก.ปคม.) นำโดย พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.2 บก.ปคม. , พ.ต.ท.เกียรติก้อง ทองคำ รอง ผกก.2 บก.ปคม. , พ.ต.ท.พัฒน์ชพล มีนวลสิน สว.กก.2 บก.ปคม. , พ.ต.ต.วรพล เลิศวิริยะพงศ์ สว.กก.2 บก.ปคม. ร่วมกับเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา)) วางแผนสกัดจับแรงงานต่างด้าวหลบหนี เข้าเมืองผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายโรคโควิด และป้องกันการค้ามนุษย์ในภาคแรงงาน

จนกระทั่งเวลาประมาณ 04.00 น. เจ้าหน้าที่พบรถบัสขนแรงงานขับมาตามถนนเอเชีย กม.14 บริเวณ จ.พระนครศรีอยุธยา มุ่งหน้ากรุงเทพฯ จึงได้เรียกให้หยุดรถ จากการตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายอยู่ภายในรถทั้งหมด 53 คน จึงได้จับกุมนายสำราญ และนายไพเราะ คนขับรถ พร้อมของกลางรถบัสโดยสาร 6 ล้อ หมายเลขทะเบียนตาก ที่ใช้ในการนำพาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง

จากการสอบถามแรงงานต่างด้าวที่ถูกจับกุม ให้การเบื้องต้นว่า ได้จ่ายเงินค่านำพาหลบหนีเข้าประเทศไทยให้กับนายหน้าฝั่งเมียนมาคนละ 26,000-28,000 บาท โดยนายหน้าฝั่งเมียนมาบอกว่าจะพาเข้าประเทศไทยและหางานให้ทำ

ส่วนผู้ต้องหาคนไทยที่เป็นคนขับรถบัสโดยสาร รับสารภาพว่า ได้รับค่าจ้างให้ขับรสบัสขนแรงงานต่างด้าวจาก จ.สิงห์บุรี เข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล เที่ยวละ 20,000 บาท ซึ่งจากแนวทางการสืบสวนสอบสวนพบเพิ่มเติมว่าหลังจากรับแรงงานทั้งหมดแล้ว จะนำไปส่งในเขตเชียงราก จ.ปทุมธานี แล้วจะมีรถตู้ประมาณ 10 คันมารอรับแรงงานทั้งหมดไปกระจายตามพื้นที่ต่างๆต่อไป

-005