แม้โลกจะมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นน้ำ แต่แหล่งอาหารส่วนใหญ่ตลอดจนที่อยู่อาศัย และที่ทำกินของมนุษย์อยู่บนบกองค์การสหประชาชาติ (UN) จึงหยิบยกขึ้นมาเป็นหนึ่งในเป้าหมายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs 15) “Life On Land” ที่ว่าด้วยเรื่องชีวิตบนบก สู่การทำให้เกิดความสมดุลและยั่งยืน ขณะที่แม้จังหวัดกาญจนบุรี หรือ “เมืองกาญจน์” จะอยู่ในพื้นที่เขาหินปูน ที่ระบายน้ำได้ดี ไม่ท่วมขัง แต่อาจทำการเกษตรปลูกพืชไม่ได้ผลผลิตดีเท่าที่ควร หากขาดการออกแบบการทำการเกษตรที่เหมาะสม
ผศ.ดร.นงนุช สังข์อยุทธ์ ผู้ช่วยรองอธิการบดีฝ่ายวิทยาเขตกาญจนบุรี ด้านบริการสังคมและชุมชนสัมพันธ์ และอาจารย์ประจำสาขาวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี ที่ผ่านมาได้นำองค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี มาทำประโยชน์เพื่อการพัฒนาชุมชนตำบลวังกระแจะ และตำบลลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จนได้รับการยกย่องเป็นหมู่บ้านต้นแบบหมู่บ้านสมุนไพรและเกษตรปลอดภัยไทรโยค
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผศ.ดร.นงนุช ได้อุทิศตัวลงพื้นที่ใช้ชุมชนเป็นห้องแล็บเพื่อศึกษาโจทย์ปัญหาเร่งด่วนของชุมชนกลับมาสร้างสรรค์สู่งานวิจัยคุณภาพ โดยได้มีบทบาทหลักในฐานะผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาการเกษตรมาอย่างต่อเนื่อง จนมีผลงานเด่นเป็นที่ประจักษ์มากมาย หนึ่งในนั้นคือ การทำให้เกษตรกรไร่มันสำปะหลังสามารถเพิ่มผลผลิตได้กว่าสองเท่าจากการแนะนำวิธีการปรับปรุงหน้าดิน
โดยใช้ “แม่ปุ๋ย” ซึ่งเป็นแหล่งรวมธาตุอาหารที่จำเป็นต่อหน้าดิน มาผสมในอัตราส่วนที่เหมาะสมและปรับค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ในทุกรอบการปลูก ด้วยการเอาใจใส่ติดตามจนบังเกิดผล นอกจากนี้ ยังได้นำเอาศาสตร์พระราชาเรื่อง การใช้ประโยชน์จากการปลูกหญ้าแฝก สู่การสร้าง “กระถางมีชีวิต” แก่ชุมชน ที่นอกจากช่วยรักษาความอุดมสมบูรณ์และความชุ่มชื้นให้กับหน้าดินแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนการผลิต จากการใช้น้ำได้น้อยลง ลดการกำจัดวัชพืชได้ และที่สำคัญไม่จำเป็นต้องปลูกหญ้าแฝกบ่อย ซึ่งช่วยประหยัดแรงงานได้อีกด้วย
รวมทั้งได้ส่งเสริมเกษตรกรในชุมชนทำการเกษตรแบบอินทรีย์ โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมี โดยใช้ข้อได้เปรียบของดินในพื้นที่เมืองกาญจน์ ซึ่งเป็นเขาหินปูนที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุแคลเซียม ทำให้สามารถปลูกพืชบางชนิดได้ผลผลิตที่โดดเด่นไม่เหมือนเช่นพื้นที่ใดๆ ในประเทศไทยไม้ผลเมืองกาญจน์ที่ขึ้นชื่อ อาทิ ทุเรียน เงาะ ลิ้นจี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมังคุด ซึ่งเปรียบเหมือน “ราชินีแห่งผลไม้” ของไทย
โดยพบว่าด้วยคุณสมบัติของดินอันอุดมไปด้วยแคลเซียมของพื้นที่เมืองกาญจน์ ทำให้ได้มังคุดที่มีรสชาติหวานอร่อยเนื้อสมบูรณ์ ไม่เป็นเนื้อแก้ว เป็นต้น นอกจากนั้น ผศ.ดร.นงนุช ยังได้ให้ข้อสังเกตที่เป็นประโยชน์ถึงพืชผักท้องถิ่นที่มักไม่ขึ้นในพื้นที่เคมี แต่ให้ผลดีในเขตป่าชุมชน ซึ่งเป็นพื้นที่อินทรีย์ ได้แก่ผักปลัง ผักกูด และผักหวานป่า ซึ่งเป็นการเพิ่มทางเลือกด้านอาหารปลอดภัยให้กับชุมชนได้ต่อไปอีกด้วย
นอกจากงานบริหารในฐานะผู้ช่วยรองอธิการบดีฝ่ายวิทยาเขตกาญจนบุรี ด้านบริการสังคมและชุมชนสัมพันธ์มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี แล้ว ผศ.ดร.นงนุช สังข์อยุทธ์ ยังดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมจังหวัดกาญจนบุรี (Agritech and Innovation Center; AIC) โดยพร้อมให้คำปรึกษา อบรมบ่มเพาะเกษตรวิถีใหม่ (Smart Farmers) แก่เกษตรกรในชุมชน ตลอดจนผลักดันการสร้างสรรค์นวัตกรรมและใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาคนรุ่นใหม่ สู่การเป็น “เกษตรไทยหัวใจอินทรีย์” ที่ยั่งยืนต่อ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี