“วันเข้าพรรษา” ในปี 2565 นี้ตรงกับวันที่ 14 ก.ค. 2565 ซึ่งนอกจากวันดังกล่าวจะเป็นวันสำคัญทางศาสนาพุทธ อันเป็นศาสนาที่คนไทยส่วนใหญ่นับถือแล้ว ในประเทศไทยยังกำหนดให้เป็น “วันงดดื่มสุราแห่งชาติ” อีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมามีการจัดกิจกรรมรณรงค์ “ลด-ละ-เลิกเหล้า” โดยถือเอาวันเข้าพรรษาเป็นฤกษ์ตั้งต้น ในขณะที่พระภิกษุสงฆ์อาศัยช่วงเข้าพรรษาที่อยู่ประจำวัดใดวัดหนึ่งตลอด 3 เดือน ศึกษาหลักธรรมอย่างจริงจัง ฆราวาสก็สามารถอาศัยช่วงเวลาเดียวกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองให้ห่างไกลจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้
ซึ่งในทุกปีเมื่อใกล้ถึงวันเข้าพรรษา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จะจัดกิจกรรมสร้างความตระหนักถึงพิษภัยของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ก็เพิ่งจัดเสวนา เรื่อง “แกะปม 4 ชีวิต..เหยื่อพิษสุรา(รุนแรง)” ณ รร.แมนดาริน สามย่านกรุงเทพฯ ชวนเหยื่อและผู้ที่เคยทำผิดพลั้งซึ่งเชื่อมโยงกับแครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มาบอกเล่าบทเรียนไว้เป็นอุทาหรณ์
ประธานเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ เจษฎา แย้มสบาย เล่าว่า ตนและภรรยาขี่รถจักรยานยนต์กลับจากขายของ จอดรอสัญญาณไฟจราจร ถูกรถที่คนขับเมาเหล้าพุ่งชนจากด้านหลัง ลากไปไกล 15 เมตร ได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องกลายเป็นบุคคลทุพพลภาพ ต้องขายทรัพย์สินทุกอย่างเพื่อนำเงินมารักษาตัว ขณะที่คู่กรณีซึ่งยินยอมจ่ายเงินเยียวยา 150,000 บาท แต่ชดเชยให้จริงเพียง 40,000 บาทในเดือนแรก แล้วค่อยๆ ลดเหลือหลักพัน เป็นหลักร้อย สุดท้ายไม่สามารถติดต่อได้
จากคนปกติกลายเป็นคนพิการต้องนั่งวีลแชร์ เจษฎา เคยคิดไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วเพราะรู้สึกว่าเป็นภาระครอบครัว ถึงขั้นพยายามทำร้ายตนเองหลายครั้ง แต่ได้ฮึดสู้เพื่อลูกสาว หลังจากร่วมงานกับมูลนิธิเมาไม่ขับ สสส. ได้เรียนซ่อมโทรศัพท์มือถือ และเปิดร้านรับซ่อมที่บ้าน จนมีรายได้เข้ามาบ้าง จึงอยากฝากว่า “ทุกครั้งที่จับพวงมาลัยขอให้มีสติอย่าประมาท ดื่มไม่ขับ ต้องนึกถึงเสมอว่าอาจเป็นต้นเหตุทำร้ายคนอื่นจนพิการหรือเสียชีวิต”
เช่นเดียวกับ นันทิยา พุ่มสุวรรณ เหยื่อคนเมาที่ก่อความรุนแรงในครอบครัว เผยชีวิตเคยตกนรกทั้งเป็นกับอดีตสามีที่ทั้งชอบดื่มเหล้าและเสพยาเสพติด ซึ่งเมื่อมีอาการเมาไม่ว่าเหล้าหรือยาก็มักจะลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายตน และแม้จะถูกดำเนินคดีฐานเสพยาเสพติด เมื่อออกจากเรือนจำมาอดีตสามีรายนี้ก็ยังไม่เลิกพฤติกรรมเดิมๆ กระทั่งถึงจุดที่ทนไม่ไหวแล้วคือถูกใช้มีดฟันเข้าที่มือจนเส้นเอ็นขาด เคราะห์ดีที่ญาติมาช่วยไว้ได้จึงขอแยกทางแบบลาขาดเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ “หากครอบครัวไหนมีสิ่งเสพติด มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาเกี่ยวข้องมันจะเปลี่ยนจากรักเป็นความรุนแรงทันที”
จากเหยื่อสู่ผู้ที่เคยทำผิดพลาดและไม่อยากให้ใครเดินซ้ำรอย ชัยพฤกษ์ มีแท่ง กล่าวว่า เริ่มหัดดื่มเหล้าตั้งแต่อายุ 14 ปี เพราะมองว่าดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เป็นเรื่องปกติ “พอเข้าเรียนอาชีวะมีเพื่อน มีรุ่นพี่ ชวนกันดื่ม มีการใช้ความรุนแรง รุ่นพี่ให้ทำอะไรพร้อมทำทุกอย่าง แม้กระทั่งการปล้นเพื่อหาเงินซื้อเหล้า” รวมถึงตีรันฟันแทงกับนักศึกษาต่างสถาบัน แต่จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตคือ ตนถูกตำรวจจับจากการใช้ปืนยิงคนเพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคู่อริ
ซึ่งเมื่อมองย้อนกลับไป คิดว่าหากในช่วงวัยรุ่นตัดสินใจไม่ดื่ม ไม่คึกคะนอง เหตุการณ์เลวร้ายก็คงไม่เกิด แม้วันนี้จะได้รับอิสรภาพ กลับมาใช้ชีวิตกับครอบครัว แต่ตราบาปยังติดอยู่ในใจตลอดว่าเราเกือบจะฆ่าลูก ฆ่าพ่อ หรือสามีของครอบครัวคนอื่น “หากย้อนเวลากลับได้คงไม่ทำเช่นนั้น” ได้แต่หวังว่าจะไม่มีใครก้าวพลาดแบบตน ศักดิ์ศรีไม่มีอยู่จริง เพราะในวันที่เราพลาด เราอยู่ในคุก ไม่เหลือใครเลยนอกจากครอบครัว รักเพื่อนได้ต้องรักตนเองด้วย
รวมถึง จักรพันธ์ กลั่นเรืองแสง ที่กล่าวว่า “จากเดิมที่อยากดื่มเพียงเพื่อสังสรรค์ แต่เวลาผ่านไปกลับยิ่งดื่มหนักขึ้นจนเป็นคนติดเหล้า ถึงขั้นต้องดื่มทุกเช้า กระทั่งสุขภาพเริ่มแย่ลง เวียนหัว อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายเป็นสีดำ ตาเหลือง หน้าคล้ำ ท้องบวมโต และเมื่อไปตรวจแพทย์ก็ระบุว่าโรคตับแข็ง ซึ่งด้วยความกลัวตายจึงตั้งใจเลิกดื่มอย่างเด็ดขาด” แม้ช่วงแรกมีอาการอยากดื่ม แต่ต้องเอาชนะใจตัวเอง มุ่งมั่นและตั้งใจ เห็นคุณค่าของชีวิต จนสามารถผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ และเลิกดื่มเหล้าได้ในที่สุด “แม้ปัจจุบันต้องทนทุกข์เพราะเหล้าทำลายชีวิต ทำลายตับไปแล้ว ต้องกินยาต่อเนื่อง แต่ก็ยังดีที่ได้ชีวิตใหม่และครอบครัวกลับคืนมา”
รักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ กล่าวว่า กิจกรรมในครั้งนี้มีความสำคัญ นำไปสู่การขับเคลื่อนสังคม กระตุ้นเตือนอันตรายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มไม่ขับ การสกัดนักดื่มหน้าใหม่ และกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มการดื่มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิง กลุ่มผู้ดื่มประจำ กลุ่มผู้ดื่มหนัก และกลุ่มเยาวชน
ในเทศกาลเข้าพรรษาปี 2565 นี้ สสส. ขอเชิญชวนให้ประชาชนใช้ช่วงเข้าพรรษา เป็นจุดเริ่มต้นปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลด ละ เลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และลดพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำลายสุขภาพและร่างกาย เพื่อตนเองและครอบครัว!!!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี