ชาวไทยโล่งอก ชิ้นส่วนจรวด “ลองมาร์ช 5 บี” ร่วงทะเลซูลูของฟิลิปปินส์ ไม่มีรายงานผู้ได้รับอันตราย หลังก่อนหน้านี้มีคำเตือนอาจกระทบหลายจังหวัด

เมื่อวันที่ 31ก.ค. 2565 สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสด้า (GISTDA) โดย ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีอวกาศ หรือ เอส-เทรค (S-TREC) แจ้งว่า เศษชิ้นส่วนของจรวดลองมาร์ช 5 บี ได้เริ่มเผาไหม้ ตั้งแต่อยู่เหนือน่านฟ้าของมหาสมุทรอินเดียตอนใต้ และได้ตกในบริเวณทะเลซูลูของประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อเวลา 23.53น.ของวันที่ 30ก.ค.2565 เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินแต่อย่างใด

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากจรวดลองมาร์ช 5 บี ได้เสร็จสิ้นภารกิจการนำเวิ่นเทียน (Wentian) ซึ่งเป็นโมดูลที่ 2 เชื่อมต่อกับสถานีอวกาศเทียนเหอ (Tianhe) เพื่อสนับสนุนให้นักบินอวกาศทำการทดลองวิจัยในอวกาศ ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2565 ซึ่งจิสด้าได้ติดตามสถานการณ์ โดยศูนย์วิจัยเทคโนโลยีอวกาศของจิสด้า ได้ใช้ระบบการจัดการจราจรอวกาศ (Space Traffic Management System) หรือ เซอร์คอน (ZIRCON) ที่ทีมนักวิจัยของจิสด้าพัฒนาขึ้น ทำการวิเคราะห์และคาดการณ์ ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากล

กระทั่งเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2565 จึงได้แจ้งเตือนชิ้นส่วนของจรวดดังกล่าว จะตกสู่พื้นโลกในวันที่ 31 ก.ค. 2565 และและอาจส่งผลกระทบกับประเทศไทย เนื่องจากวัตถุอวกาศนี้ผ่านประเทศไทยทุกวัน โดยวัตถุอวกาศดังกล่าวมีน้ำหนักประมาณ 21ตัน (ระหว่างที่วัตถุอวกาศกำลังตกสู่โลกนั้น จะมีน้ำหนักน้อยกว่านี้ เนื่องจากจะมีบางส่วนถูกเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศ) พร้อมเปิดเผยข้อมูลพื้นที่บางส่วนของประเทศไทยที่วัตถุอวกาศชิ้นนี้จะโคจรพาดผ่านในวันเสาร์ที่ 30 ก.ค. 2565 จำนวน 2รอบ ดังนี้ รอบแรกผ่านไปแล้วเมื่อช่วงเวลาประมาณ 02.00 นง ซึ่งโคจรจากฝั่งตะวันตกขึ้นไปยังตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของไทย ในบริเวณจังหวัด ราชบุรี นครปฐม พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ลพบุรี นครราชสีมา ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ส่วนรอบที่ 2 โคจรในช่วงเวลา 11:22:32 น.- 11:24:32น.จากทิศเหนือลงไปยังตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ผ่าน จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์และจ.สุรินทร์