วันที่ 15 สิงหาคม 2565 วานนี้(14 ส.ค.) ร.ต.ท.ตตินัย ประมงค์ รองสสารวัตร(สอบสวน) สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิตภายในวัดแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ย่านถนนนิพัทธ์สงเคราะห์ 2 เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา
หลังจากลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.อัครวุฒ ธานีรัตน์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ ตำรวจฝ่ายสืบสวนและฝ่ายปราบปรามสภ.หาดใหญ่ และชุดสืบสวนของตำรวจภูธรจ.สงขลา ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน9 แพทย์โรงพยาบาลหาดใหญ่และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีหาดใหญ่
พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายทราบชื่อ นายธรรมฤทธิ์ อายุ 47 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณสวนป่าด้านหลังโรงเรียนพระปริยัติธรรม ภายในวัด สภาพนอนคว่ำหน้านุ่งกางเกงขายาวสีน้ำตาลสวมเสื้อกีฬาสีแดง โดยร่างมีแผ่นไวนิลทับเอาไว้มีเท้าโผล่ออกมา จากการชันสูตรศพในเบื้องต้นพบว่ามีร่องรอยของการถูกทำร้าย ที่ศรีษะมีรูคล้ายถูกแทงด้วยของแข็ง ที่ลำคอมีผ้าขาวม้ารัดอยู่ และมีร่องรอยของการลากศพเข้ามาทิ้งไว้ในสวนป่า
และห่างจากจุดพบศพราว 15 เมตรซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าโรงเรียนพบคราบเลือดอยู่ด้วย เสียชีวิตมาแล้วอย่างน้อย 6 โมงชั่วโมง เบื้องต้นน่าจะถูกทำร้ายและใช้ผ้าขาวม้ารัดคอจนเสียชีวิตและลากศพมาทิ้งไว้บริเวณสวนป่าของวัด
สอบถามพระในวัด บอกว่า ที่แรกตอนเวลาประมาณ 6 โมงครึ่งพระที่ออกเดินบิณบาตรมาเห็นคนนอนอยู่แต่ไม่ได้เอะใจคิดว่าเมา แต่พอกลับจากบิณฑบาตรก็เห็นยังนอนอยู่จึงเข้าไปดูก็พบว่าเสียชีวิต และเมื่อช่วง4 ทุ่มเมือคืนนี้พระในวัดขอพบความผิดปกติมาจากบริเวณจุดเกิดเหตุเพราะมีเสียงหาเห่าเสียงดังผิดปกติไม่เหมือนทุกคืน
ขณะเกิดเหตุแม่และพี่ชายของ นายธรรมฤทธิ์ ได้เดินทางมาดูศพที่เกิดเหตุและบอกว่ามีบ้านพักอยู่ในละแวกเกิดเหตุ โดยนายธรรมฤทธิ์ ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและมีอาการทางประสาท ปกติก็จะอยู่บ้านไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร และไม่เคยเข้ามาภายในวัดโดยเฉพาะบริเวณจุดที่พบศพ
ปกติก็อาศัยอยู่กับแม่และพี่ชายที่บ้านพัก แต่เมื่อวานนี้แม่ไม่อยู่บ้านไปปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม โดยอาศัยอยู่กับพี่ชายและพี่ชายก็ออกจากบ้านไปขับแกร๊ปไบค์ตั้งแต่ช่วง 5 โมงเย็น กลับเข้าบ้านตอน 4 ทุ่ม ทีแรกก็คิดว่าน้องชายนอนอยู่ในบ้าน แต่เดินไปเดินมาก็ไม่เห็น จึงพยายามออกตามหาแต่ก็ไม่พบสุดท้ายก็มาพบกลายเป็นศพอยู่ภายในวัด
โดยทั้งแม่และพี่ชายบอกว่าเชื่อว่า นายธรรมฤทธิ์ จะถูกทำร้ายจนเสียชีวิต แต่ไม่รู้ว่ามาจากสาเหตุใดเพราะปกติก็จะอยู่แต่ภายในบ้านไม่เคยมาแถวนี้ รวมทั้งกระเป๋าสตางค์ที่พกเป็นประจำหายไปด้วย
หลังเกิดเหตุทางตำรวจชุดสืบสวนทั้งของสภ.หาดใหญ่และชุดสืบสวนตำรวจภูธรจ.สงขลา เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่บริเวณบ้านพักจนมาถึงวัด รวมถึงกล้องวงจรปิดภายในวัด เพื่อดูว่า นายธรรมฤทธิ์ ผู้ตายเดินออกจากบ้านมาตอนไหน มากับใคร เพื่อหาตัวผู้ต้องสงสัย แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุเหตุจูงใจของคนร้ายได้ว่าต้องการประสงค์ต่อทรัพย์หรือว่าทำร้ายด้วยสาเหตุใด และทำไมถึงลงมือทำร้ายจนเสียชีวิตภายในวัด
ต่อมา คนร้ายที่ก่อเหตุได้เข้ามอบตัวกับตำรวจชุดสืบสวนสภ.หาดใหญ่และชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลาแล้ว โดยเดินทางเข้ามอบตัวที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ที่ทำการย่อยหาดใหญ่
คนร้ายรายนี้คือ นายภิญโญ อายุ 48 ปี เป็นเด็กวัดและอาศัยอยู่ภายในวัดโดยทางวัดได้พาเข้ามอบตัว จากการสอบสวนก็ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือทำร้าย นายธรรมฤทธิ์ จนเสียชีวิต และทำเพียงคนเดียว
จากการสอบสวนในเบื้องต้นนายภิญโญ ให้การว่า ช่วงดึกเมื่อคืนนี้เห็นนายธรรมฤทธิ์ นั่งอยู่ภายในวัดและได้ยินเสียงโทรศัพท์คุยกับเพื่อนว่าจะบุกมาปล้นวัดให้พวกพวกเข้ามาได้เลยเพราะเจ้าหน้าอาวาสและพระหลับหมดแล้ว
ทันทีที่ได้ยินว่าจะปล้นวัดตนก็ใช้ไม้หน้าสามฟาดเข้าไปที่ศรีษะ 3 ครั้ง และใช้ผ้าขาวม้ารัดคอแล้วลากไปทิ้งบริเวณสวนป่าด้านหลังโรงเรียนพระปริยัติธรรม และไม่ได้แตะต้องทรัพย์สินอะไรภายในตัวของนายธรรมฤทธิ์ และไม่ได้หลบหนีไปไหนยังคงอยู่ในวัด ก่อนที่จะเข้ามอบตัวกับตำรวจ เหตุที่ทำไปเพราะได้ยินผู้ตายพูดคำว่าจะมาปล้นวัดคำเดียวก็ลงมือทันทีเพราะในวัดมีเงิน 4-5 แสนบาท
จากนั้น ตำรวจชุดสืบสวนสภ.หาดใหญ่และชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ได้ควบคุมตัว นายภิญโญ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่จุดเกิดเหตุซึ่ง นายภิญโญ ให้ความร่วมมือชี้จุดเกิดเหตุและพฤติการณ์ในการลงมือก่อเหตุทุกขั้นตอน
เริ่มจากเดินไปพบ นายธรรมฤทธิ์ นั่งอยู่ที่ม้านั่งหินอ่อนหน้าโรงเรียนพระปริยัติธรรม และได้ยินพูดว่าจะปล้นวัดจึงใช้ไม้ตีไปที่ศรีษะ 3 ครั้งใช้ผ้าขาวม้ารัดคอและลากศพไปหลังโรงเรียน จากนั้นก็เอากระเป๋าสตางค์ไปทิ้งในคูน้ำทำลายหลักฐานไม่ให้รู้ว่าเป็นใคร และเดินออกจากวัดไป ก่อนที่จะกลับเข้ามาในวัดอีกครั้งเพื่อใช้แผ่นไวนิลคลุมร่างเอาไว้และออกจากวัดไป
โดยหนึ่งในหลักฐานสำคัญที่ตำรวจสามารถตามแกะรอยจนรู้ตัวคนร้ายคือภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าวัดที่เห็น นายภิญโญ เดินออกและเดินเข้าวัดในช่วง4 ทุ่มครึ่งของคืนเกิดเหตุ โดยใช้เวลาในการลงมือราวครึ่งชั่วโมง
ซึ่งการทำแผนผ่านพ้นไปได้ด้วยดีทุกขั้นตอนไม่มีเหตุความวุ่นวายเกิดขึ้นและตำรวจได้นำตัวไปควบคุมที่สภ.หาดใหญ่ และแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี