เกิดเหตุสลด ด.ญ.วัย 2 ขวบน้องชาย 6 เดือนถูกพ่อเลี้ยงวัย 21 ปีทุบตีจนหามส่งโรงพยาบาล สุดท้ายแพทย์ยื้อชีวิตไม่ทัน ผู้เป็นพี่วัย 2 ขวบเสียชีวิต แพทย์เผยผลชันสูตรเบื้องต้นพบตับแตก ม้ามแตก เลือดคลั่งในกระเพาะ ส่วนน้องชายวัย 6 เดือนที่ญาติอุ้มไปส่งพี่สาวที่ รพ. แพทย์พบผิดสังเกตขอตรวจร่างกายพบถูกทำร้ายสะบักสะบอมไม่แพ้กันต้องนำตัวเข้ารับการรักษาทันที ตำรวจเค้นสอบพ่อเลี้ยงนานกว่า 7 ชม. ยอมรับว่าทุบตีลูกเลี้ยง 2 คนจริง

วันที่ 16 ส.ค.65 นางจันสุดา อินอิ่ม อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/4 ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก พร้อมครอบครัว ได้ไปรับศพ ด.ญ.ญาณิน สุโกสิ หรือ น้องข้าวฟ่าง อายุ 2 ขวบ หลานสาวที่เสียชีวิต แล้วแพทย์ให้นำศพจากนิติเวชโรงพยาบาลมหาวิทยานเรศวร มาทำการบำเพ็ญที่ศาลาธรรมสังเวช วัดจุฬามณี ต.ท่าทอง อ.เมืองพิษณุโลก หลังจาก น้องข้าวฟ่างถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เมื่อเย็นวานที่ผ่านมาเนื่องจากอาการหมดสติ แพทย์ทำการช่วยเหลือแต่สุดท้ายได้เสียชีวิต 

ผลชันสูตรศพเบื้องต้นพบน้องข้าวฟ่างเสียชีวิตเพราะตับแตก ม้ามแตก เลือดคลั่งในกระเพาะ ซึ่งขัดแย้งกับญาติที่นำส่งโรงพยาบาลว่าน้องมีอาการสำลักนมจนไม่หายใจ แพทย์จึงแจ้งให้ ร.ต.อ.นิพนธ์ สุทธหลวง รอง สว.(สอบสวน) สภ.ชุมชนมหาวิทยาลัยนเรศวร มาร่วมชันสูตรและทำการสอบสวนบิดาและมารดาของเด็ก รวมทั้งญาติผู้เกี่ยวข้องเพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตของน้องข้าวฟ่าง และอาการบาดเจ็บของน้องบาสที่แท้จริง

โดยหลังจากแพทย์ได้ทำการผ่าชันสูตร ด.ญ.ข้าวฟ่าง แล้ว นางจันสุดา ผู้เป็นย่า ได้นำร่างของหลานสาวมาตั้งบำเพ็ญกุศล พร้อมกับให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า หลังจากแม่ของน้องข้าวฟ่าง ได้เลิกรากับลูกชายของตนก็ไปมีแฟนใหม่ แต่ก็ยังอยู่ห้องเช่าติดกันและได้รับน้องข้าวฟ่างไปอยู่ด้วย ต่อมาแม่ของน้องข้าวฟ่าง ได้มีลูกชายกับแฟนใหม่อีก 1 คน ชื่อน้องบาส (นามสมมุติ) ปัจจุบันอายุ 6 เดือนเท่านั้นและได้เลิกกับแฟนใหม่ก่อนจะได้แฟนอีกคน ซึ่งเป็นคนที่ 3 และได้มาอยู่ด้วยกันที่ห้องเช่าติดกับตน 

ที่ผ่านมาตนเห็นหลานสาวเข้าออกบ้าน โดยที่ทางแม่น้องข้าวฟ่าง ไม่ให้มายุ่งเกี่ยว ตนก็อยากนำหลานมาเลี้ยงเอง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจนกระทั่งเมื่อช่วงตี 4-5 ที่ผ่านมา ตนได้ยินเสียงเด็กร้องอยู่นาน ก็ไม่ได้สงสัยอะไร จน 5 โมงเย็น แม่น้องข้าวฟ่าง โทรมาบอกว่าน้องข้าวฟ่างเข้าโรงพยาบาล เนื่องจากหมดสติ ซึ่งตนก็ตกใจกำลังจะเดินทางไปดูหลาน แต่สุดท้ายแม่น้องข้าวฟ่างโทรมาบอกว่า น้องเสียแล้ว ทำให้ตนเสียใจเป็นอย่างมาก จึงรีบไปโรงพยาบาล แพทย์ได้ทำการสอบถามเพิ่มเติมว่าน้องข้าวฟ่างถูกกระทำด้วยหรือไม่ เนื่องจากผลชันสูตรไม่ใช่การสำลักนมแต่อย่างใด แต่ร่างกายถูกของแข็งทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ตนก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างที่สงสัย 

น.ส.ดาวรุ่ง เถาว์พันล้อม อายุ 33 ปีน้าที่สนิทกับแม่น้องข้าวฟ่าง เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเวลา 4 โมงเย็นวานนี้(15 ส.ค.) ทางพ่อเลี้ยง ได้โทรมาหาตนบอกน้ามาดูหลานหน่อย ไม่รู้เป็นอะไรปลุกไม่ตื่น เมื่อไปถึงพ่อเด็กก็อุ้มออกมาส่งให้ แต่พอจับตัวน้องตัวเย็นเจี๊ยบแขนห้อยไม่หายใจแล้วจึงรีบบอกพี่ชายให้ขับรถด้วยความเร็วนำตัวส่ง รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร 

"นี่ขนาดรีบเหยียบฝ่าไฟแดงจากบ้านไปโรงพยาบาล 5 นาที ยังไม่ทัน น้องเสียชีวิตแล้ว ตอนไปรับก็คิดว่าหลานป่วยไม่คิดว่าหลานจะเสียชีวิตดูแล้วเสียชีวิตมานานหลายชั่วโมงแล้ว แพทย์แจ้งผลว่าเสียชีวิต เด็กตับแตก ม้ามแตก เลือดคลั่งในกระเพาะ ศีรษะเป็นแผล แพทย์ก็สงสัยว่าเป็นแบบนี้ได้อย่างไร รู้สึกไม่เข้าใจว่าทำได้อย่างไง เท่าที่สัมผัส พ่อเลี้ยงรักเด็ก 2 คนนี้มาก เวลาแม่เด็กไปทำงานที่ร้านสะดวกซื้อก็ป้อนน้ำ ล้างก้นน้องเวลาถ่าย ดูแลอย่างดี ส่วนน้องตัวเล็กวัย 6 เดือน (น้องบาส) แพทย์ก็เห็นร่องรอยช้ำที่ร่างกาย ขณะพาไปด้วยที่โรงพยาบาล แพทย์เลยนำไปตรวจก็พบว่าตับอักเสบ แขนหัก ขาร้าว หน้าตาบวมเขียวช้ำก็รับเข้าทำการรักษาทันที

เบื้องต้น พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำตัวพ่อเลี้ยงของเด็ก อายุ 21 และแม่วัย 17 ปีมาทำการแยกสอบสวนเพื่อหาความจริงที่เกิดเหตุ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยใช้เวลานานเกือบ 7 ชม. พ่อเลี้ยงเด็กยอมรับว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุทุบตีน้องข้าวฟ่างจริง โดยอ้างว่าน้องข้าวฟ่าง ซุกซนไปหยิบปลั๊กไฟบ้าง สิ่งของอื่นบ้าง แต่ก็ไม่คิดว่ารุนแรงและเป็นเหตุให้เสียชีวิต ส่วนน้องบาสวัย  6 เดือนนั้นใช้เพียงท่อนแขนตีไปลำตัวเท่านั้น ซึ่งเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จึงได้นำมาตัวสอบสวนเพิ่มอีกครั้ง ก่อนจะสรุปสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง - 003