วันที่ 23 สิงหาคม 2565 เวลา 14.30 น. ที่ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี นายกัณฐัศว์  พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง พร้อมด้วย นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ นำสิบตรีทหารหญิงที่ถูก ส.ต.ท.หญิง ทำร้าย เดินทางมาที่ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ชำนาญ บุญเหมาะ สารวัตรเวร พนักสภ.ชะอำ เพิ่มเติมเนื่องจากมีบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีเพิ่มขึ้นอีก โดยระบุว่าเป็นคนที่ร่วมทำร้ายผู้เสียหาย ซึ่งมีความรุนแรงพอกัน โดยมี พ.ต.อ.วายุภักษ์ วงศ์ศักดิรินทร์ผกก.สภ.ชะอำ ร่วมสอบ

นายกัณฐ์ศว์ เปิดเผยว่า การแจ้งความดำเนินคดีครั้งนี้เป็นการแจ้งความข้อหาเพิ่มเติมเนื่องจากก่อนหน้านี้ สิบตำรวจโทหญิง พร้อมเพื่อนชายคนสนิท ซึ่งเป็นน้องชายนักการเมืองท้องถิ่น จ.ราชบุรี ได้เดินทางมาท่องเที่ยวที่อำเภอชะอำเข้าพักที่คอนโดชื่อดังแห่งหนึ่งโดย นำสิบตรี หญิงที่ถูกทำร้ายร่างกายมาด้วย ขณะเข้าพักสิบตำรวจโทหญิงได้ลงมือทำร้ายร่างกายสิบตรีทหารหญิง และต่อมา เพื่อนชายคนสนิทที่ร่วมเดินทางมาด้วยได้ลงมือทำร้ายร่างกายสิบตรีหญิงแทน โดยอ้างว่ากลัวว่า ส.ต.ท.หญิงจะเจ็บมือ

โดยฝ่ายชายได้มีการใช้เครื่องช๊อตไฟฟ้า ช๊อตที่บริเวณหลังคอ และขาแล้วแช่จนเนื้อไหม้ ใช้เก้าอี้ฟาดจนเก้าอี้หัก และลงมือโดยไม่ใช้อาวุธด้วย การกระทำเช่นนี้เป็นเหตุผลที่สังคมไทยรับไม่ได้ กลัวเพื่อนสนิทหญิงตนเองเจ็บมือแต่ไม่กลัวคนถูกกระทำบาดเจ็บ แถมขณะที่ผู้บาดเจ็บกำลังนั่งซัดเลือดอยู่ฝ่ายชายยังมีการเร่งให้ เช็ดเลือดไม่เช่นนั้นจะทำร้ายอีกการกระทำเช่นนี้ไม่น่าจะใช่การกระทำของมนุษย์ตนรับไม่ได้แล้วเชื่อว่าสังคมไทยก็รับไม่ได้เช่นกัน

ด้าน ส.ท.หญิงผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ขณะที่ตนถูกฝ่ายชายทำร้ายฝ่ายหญิงจะยืนดูด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่มีการห้ามปรามแต่อย่างใด นอกจากนี้ในบางช่วงเวลาที่ ส.ต.ท.หญิงไม่อยู่ ฝ่ายชายจะเรียกตนมาทำร้ายร่างกายอีกด้วย 

ฝ่ายนายไพศาล กล่าวว่า เรื่องนี้จะไม่จบแค่การทำร้ายร่างกายขอให้จับตามองให้ดีว่าใครเป็นผู้นำ ส.ต.ท.หญิงคนนี้เข้ารับราชการและเข้ารับโดยถูกต้องตามระเบียบกฎหมายหรือไม่ และการ การให้ ส.ต.ทหารหญิงไปช่วยราชการกระทำได้อย่างไร เรื่องนี้ตนตามจิกไม่ปล่อยแน่

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องพร้อมพันตำรวจเอกวายุภักษ์ผก.สภ. ชะอำกำลังดำเนินการสอบสวน 

ทั้งนี้หลังจากสอบสวนที่ สภ.ชะอำเสร็จ นายกัณ จะนำ ส.ต.ทหารหญิง เดินทางไปแจ้งความเพิ่มที่ สภ.หัวหิน จ.ประจวบฯ ในกรณีที่ถูกใช้อาวุธปืนตบหน้า และจ่อจี้หัว