เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 26 ส.ค.65 พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี (ผบก.ภ.จว.) และ พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงค์เกตุใจ ผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี พร้อมกำลังตำรวจได้นำตัวนายชัยณรงค์ อายุ 59 ปี ชาว อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดราชบุรี ที่ จ.220/2565 ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2565 มาแถลงข่าวและคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านทองออโรร่า ในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาบ้านโป่ง จ.ราชบุรี หลังจากสามารถจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 24 ส.ค.65 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2565 เมื่อเวลา 18.44 น.ปรากฏมีคนร้ายเป็นชายวัยกลางคนขับขี่รถจักรยานยนต์ บุกเดี่ยวเข้ามาชิงทองภายในห้างเพชรทองออโรร่า สาขาบิ๊กซีบ้านโป่ง ได้สร้อยคอทองคำจำนวน 9 เส้น 18 บาท รวมมูลค่า กว่า 5.4 แสนบาทหนีหายลอยนวล
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า หลังจากคนร้ายก่อเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ได้ติดตามจับกุมคนร้ายจากการแกะรอยภาพจากกล่องวงจรปิด พร้อมทั้งพยาน และล่องลอยที่ทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ พบพฤติกรรมของคนร้าย ตรวจอัตลักษ์บุคคล และรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย จนสืบทราบว่า คือ นายชัยณงค์ มีอาชีพเป็น รปภ.ในไร่แห่งหนึ่งใน อ.บ้านโป่ง เป็นผู้ต้องหาหมายจับศาลจังหวัดราชบุรี ที่ จ220/2565 ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2565 ในข้อหาชิงทรัพย์ผู้อื่น โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านพักในตำบลบ้านใหม่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี พร้อมของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ฮ้อออนด้าเวฟไอ สีขาวคาดดำ หมายเลขทะเบียน 1กช 558 กาญจนบุรี เสื้อยืดสีดำ กางเกงยีน หมวกแก๊บสีดำ เข็มขัด รองเท้าผ้าใบสีดำ โทรศัพท์จำนวน 1 เครื่อง และสร้อยคอทองคำ จำนวน 6 เส้นรวม 13 บาท
หลังจากจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุจริง โดยก่อนเกิดเหตุได้มีการมาดูลาดลาว จนมั่นใจถึงการก่อเหตุจากนั้นจึงมาลงมือเข้าชิงทรัพย์โดยเลือกช่วงเวลา 18.00 น.เนื่องจากเวลาดังกล่าวมีคนพลุกพล่านน้อยทำให้สะดวกต่อการก่อเหตุ โดยการขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดที่บริเวณด้านข้าง ประตูทางเข้าออกด้านของตัวห้างสรรสินค้า จากนั้นเดินเข้ามาที่ร้านทองดังกล่าว จากนั้นโชว์ปืนที่พกติดกับเอวให้พนักงานหญิงดู ก่อนจะจู่โจมเข้าไปคว้าทองภายในตู้ตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ปรากฏในภาพข่าว
หลังจากได้สร้อยคอทองคำไปแล้วจึงรีบออกจากห้างสรรพสินค้าและรีบขับขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ซึ่งในช่วงเวลานั้นไม่มีคนเข้าออก หลบหนีไปตามเส้นทางคลองชลประทาน พร้อมทั้งเอาปืน ซึ่งเป็น (ปืนปลอมที่ทำจากไม้) ที่พกมาโยนทิ้งลงในน้ำ และกลับบ้านพักทำตัวตามปกติ และหลบหนีไปอยู่ในหายพื้นที่เพื่อหลบการจับกุม โดยได้สร้อยคอทองคำไปจำนวน 9 เส้น 18 บาท มูลค่ากว่า 5.4 แสนบาท จากนั้นนำไปขาย จำนวน 3 เส้น รวม 6 บาทได้เงินมาจำนวน 1.3 แสนบาทเศษ โดยนำเงินไปใช้หนี้พนัน และ ใช่จ่ายทั่วไป ทำให้เหลือทองเพียง 6 เส้น 12 บาท ก่อนจะมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว
พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาติดการพนัน ทั้งออนไลน์และการพนันในพื้นที่ จนเป็นหนี้จำนวนมากจึงตัดสินใจเข้ามาก่อเหตุดังกล่าว แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ ต้องนำมาสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง และจะนำตัวไปชี้จุดที่ขายทองเพื่อติดตามนำของกลางกลับมา หากตรวจพบการกระทำความผิดเพิ่ม หรือ ผู้สมรู้ร่วมคิดก็จะนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้ยังตรวจพบประวัติของนายชัยณงค์ ผู้ต้องหา มีประวัติคดีอาญาจำนวน 3 คดี คดีที่ 1 ถูกจับกุมในคดีอาญาที่ 78/2551 เมื่อปี 2551 ข้อหาเสพยาเสพติดฯ พื้นที่ สภ.เขาดิน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี คดีที่ 2 ถูกจับกุมในคดีอาญาที่ 1750/2550 เมื่อวันที่ 27 พ.ย.2550 ข้อหา ผู้ใดอยู่ในวงเล่นอันขัดต่อบทพระราชบัญญัติฯ (พ.ร.บ.การพนัน) พื้นที่ สภ.บ้านโป่ง และ คดีที่ 3 ถูกจับกุมในคดีอาญาที่ 194/2553 เมื่อวันที่ 1 ก.พ.2553 ข้อหา ทำอาวุธปืน หรือ เครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ในพื้นที่ สภ.บ้านโป่ง
ผบช.ภาค 7 กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางตำรวจได้มีมาตรการเข้มข้นในการปราบปรามผู้กระทำความผิด โดยมีการสร้างเครือข่าย ตาสับปะรด และ กลุ่มไลน์ร้านทอง เพื่อให้ช่วยแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย และ ภาพ คลิป ข้อมูลของผู้ก่อเหตุ เพี่อที่จะติดตามจับกุทผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนร้านทองช่วงนี้คนร้าย หรือ ผู้ก่อเหตุมักจะเลือกร้านทองที่มีช่องโหว่ มีแต่พนักงานสุภาพสตรี และไม่มีเครื่องป้องกัน โดยเพราะการเก็บการโชว์สินค้าที่สามารถเข้าไปเอื้อมถึงได้ จึงอยากให้มีการเพิ่มการระมัดระวังและมาตรการป้องกันให้มากกว่านี้ - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี