วันที่ 31 สิงหาคม เวลา 14.00 น. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด จะพา น.ส.สา (นามสมมติ) อายุ 26 ปี เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สืบพงษ์ กรุณา รอง ผกก.(สอบสวน) กก.3 บก.ปคม. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับขบวนการค้ามนุษย์ หลังถูกหลอกให้ไปทำงานโรแมนซ์สแกมที่ประเทศฟิลิปปินส์ แล้วถูกใส่กุญแจมือ ทำร้ายร่างกาย ช็อตไฟฟ้า รวมถึงถูกข่มขู่ถ่ายคลิปโป๊ไว้แบล็คเมล์ หากต้องการกลับประเทศต้องเสียเงินค่าไถ่ตัว 1 แสนบาท
นายเอกภพ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อประมาณวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้ติดต่อหางานในเฟซบุ๊ก จนพบกับขบวนการดังกล่าว ที่มีการอ้างว่ามีงานถูกกฎหมายที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยเป็นงานตอบแชทลูกค้าเกี่ยวกับบิตคอยด์ จึงหลงเชื่อและเดินทางร่วมกับผู้เสียหายรายอื่นในวันที่ 12 สิงหาคม แต่เมื่อไปถึงกลับพบว่าไม่ใช่งานเกี่ยวกับบิตคอยด์ตามที่กล่าวอ้าง แต่เป็นงานในลักษณะโรแมนซ์สแกม และถูกยึดโทรศัพท์มือถือ โดยที่ทำงานมีคนไทยอีกประมาณ 30-40 คน ผู้เสียหายกับเพื่อนรวม 11 คน จึงขอกลับประเทศ แต่กลับถูกทางนายจ้างใส่โซ่ตรวนกักขัง ทำร้ายร่างกาย ใช้ไฟช็อต บางรายถูกซ้อมจนสลบแล้วถูกเอาหัวกดน้ำ อีกทั้งยังถูกบังคับให้หาเงินมาเป็นค่าไถ่ตัวคนละ 1 แสนบาท สุดท้ายผู้เสียหายต้องติดต่อไปที่บ้านเพื่อขอให้เอาเงินมาไถ่ตัว จนออกมาได้ 8 คน เหลืออีก 3 คน จากนั้นได้ติดต่อมายังสายไหมต้องรอด
ตนจึงประสานไปจนถึงเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงมะนิลา จนสามารถช่วยเหลือเหยื่ออีก 3 คนได้ในวันนี้ ตนจึงพามาแจ้งความเพื่อจับกุมขบวนการดังกล่าว ทั้งนี้ เหยื่ออีก 8 คน ไม่กล้าแจ้งความ เพราะทางนายจ้างมีการถ่ายคลิปโป๊ไว้แบล็คเมล์เพื่อป้องกันแจ้งความ นอกจากนี้ ในวันพรุ่งนี้ (1 กันยายน) จะพาผู้เสียหายไปกระทรวงยุติธรรม ทำเรื่องคุ้มครองพยาน จึงขอฝากเหยื่อที่เหลือให้เข้าแจ้งความไว้
ขณะที่ น.ส.สา กล่าวว่า ตนได้เสิร์ชหางานในกลุ่มเฟซบุ๊ก "หางานต่างประเทศ" และเพจ "หางานในประเทศฟิลิปปินส์" จนพบงานดังกล่าว อ้างว่าเดินทางและกินอยู่ฟรี มีเงินเดือนให้ 3 หมื่นบาท และมีค่าคอมมิชชั่นให้ โดยเป็นงานตอบแชทลูกค้าเกี่ยวกับบิตคอยด์ ซึ่งตนเองก็เอะใจอยู่บ้าง แต่ทางขบวนการมีการส่งภาพการทำงานมาให้จึงหลงเชื่อ โดยเดินทางไปที่กรุงมะนิลาวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา และเริ่มทำงานวันรุ่งขึ้น โดยสถานที่ทำงานละกษณะคล้ายออฟฟิศทั่วไป มีโซนคนไทย คนจีน คนมาเลเซีย และจะมีคนของแต่ละชาติเป็นหัวหน้าคอยคุมพนักงาน นอกจากนี้ยังมี รปภ. ถือปืนคุมอยู่ด้านหน้า ซึ่งช่วงแรกสามารถใช้โทรศัพท์มือถือได้ แต่ห้ามใช้ในเวลาทำงาน หลังเลิกงานนายจ้างจะเป็นคนซื้อของให้ ไม่สามารถเดินทางไปไหนเองได้
น.ส.สา กล่าวอีกว่า โดยลักษณะงานคือให้ทักแชทคนรวยตามสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อทำการหลอกลวง หลังพวกตนทราบความจริง ผ่านไป 1 อาทิตย์จึงขอนายจ้างกลับบ้าน แต่กลับถูกคนจีนทำร้ายร่างกาย โดยตนเองถูกถีบ ถูกใช้สายไฟและเข็มขัดฟาด ถูกช็อตไฟฟ้า ถูกใส่กุญแจมือกันหลบหนี โดนที่คนไทยที่คุมพนักงานไม่ทำอะไร คาดว่าน่าจะเป็นลูกน้องของคนจีน จากนั้นถูกบังคับทำสัญญาวางข้อเสนอจ่ายเงิน 1 แสนบาทเพื่อแลกกับการปล่อยตัว
อีกทั้งยังถูกถ่ายคลิปโป๊ไว้แบล็คเมล์อีกด้วย รวมแล้วไปอยู่ที่ฟิลิปปินส์ทั้งหมดประมาณ 20 วัน นอกจากนี้ ในวันที่ตนเดินทางกลับ ยังถูกข่มขู่ว่าห้ามทำอะไร หากอยากจะช่วยเพื่อน ให้ช่วยหาเงินเท่านั้น หากไปแจ้งความจะให้ลูกน้องที่ไทยมาหาถึงบ้าน อย่างไรก็ตาม ยังมีคนไทยตกข้างอยู่อีกประมาณ 40 คน แต่ไม่ถูกทำร้ายเพราะไม่ได้ขอนายจ้างกลับประเทศ จึงขอฝากไว้ว่า หากจะหางานที่ต่างประเทศ ขอให้คิดให้ดี ไม่อยากให้ต้องมาเจอเช่นนี้ โดยมีข้อสังเกตุคือการกินอยู่ฟรี และเดินทางฟรี
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสอบปากคำประกอบพยานหลักฐาน ก่อนรายงานผู้ยังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : อ่านด่วน!ลากไส้พฤติกรรมแก๊งตุ๋นทำงาน‘เมียนมา เขมร ฟิลิปปินส์’ รัฐเตือนระวัง‘ไม่ตรงปก’
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี