อุตุฯเตือนทั่วไทยฝนยังตกหนัก
ช่วง4-7ก.ย.
เขื่อนเจ้าพระยาเร่งระบายน้ำเพิ่ม
11จว.ริมน้ำเฝ้าระวังทะลักท่วม
‘บิ๊กตู่’ลุยเยี่ยมจนท.-ชาวกรุงเก่า
ภูเก็ต!ฝนถล่มรถ-จยย.จมน้ำอื้อ
อุตุฯเตือน 46 จังหวัดทั่วไทย มีฝนตกหนัก ช่วง 4-7 กันยายนนี้ เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มระบายน้ำ 1,800-2,000 ลบ.ม./วินาที กรมชลฯเตือน 11 จังหวัดท้ายเขื่อน รับมือชาวกรุงเก่า ยิ้มสู้น้ำท่วมเผยรู้สึกชิน เพราะท่วมทุกปี ขณะที่บิ๊กตู่ ลงพื้นที่อยุธยา ติดตามสถานการณ์น้ำ ส่วนภูเก็ตฝนถล่มทำน้ำท่วมรถ-จยย.อื้อ
เมื่อวันที่ 2กันยายน กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ 7 วันข้างหน้าว่าร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกรวมทั้งกทม.และปริมณฑล และภาคใต้ตอนล่าง มีฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในระยะนี้
อุตุฯชี้4-7ก.ย.นี้ทั่วไทยฝนตกหนัก
อนึ่ง ช่วงวันที่ 4-7 กันยายน 2565 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยโดยเฉพาะในพื้นที่ 46 จังหวัด มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งสำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 1 เมตร ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 1 เมตร ส่วน กทม.และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มอีก
ด้านสถานการณ์น้ำเจ้าพระยา นายชวลิต ฉลอม ผอ.ส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สำนักงานชลประทานที่ 12 จ.ชัยนาท เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา เขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนอยู่ในอัตรา 1,800 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที และจะยังคงระบายในอัตรานี้จนถึงวันที่ 4 กันยายน จากนั้นจึงจะพิจารณาปรับเพิ่มตามสถานการณ์
กรมชลฯแจ้งเตือน11จังหวัดรับมือ
ขณะที่ กรมชลประทาน มีหนังสือแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 6 ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2565 ไปยัง ผวจ.11 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา ได้แก่ ชัยนาท อุทัยธานี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และ กทม.ให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์และแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เนื่องจากปริมาณน้ำที่ไหลจากเขื่อนเจ้าพระยา มีอัตราเพิ่มมากขึ้น
น้ำผ่านเขื่อนฯ2,000ลบ.ม./วินาที
คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2 จ.นครสวรรค์ มีปริมาณอยู่ระหว่าง 1,800-1,900ลบ.ม.ต่อวินาที แม่น้ำสะแกกรัง สถานี Ct19 มีปริมาณ 100ลบ.ม.ต่อวินาที และแม่น้ำลำสาขา มีปริมาณ 200ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งทำให้ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีปริมาณระหว่าง 2,100-2,200ลบ.ม.ต่อวินาที จึงจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ตั้งแต่วันที่ 4 กันยายนนี้ ในอัตรา 1,800-2,000ลบ.ม.ต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 40-50 เซนติเมตร ช่วงวันที่ 5-6 กันยายนนี้ หากมีปริมาณน้ำเหนือเพิ่มขึ้น ที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 2,000ลบ.ม.ต่อวินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไป
ริมเจ้าพระยายิ้มสู้แม้ท่วมถึงอก
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ยังคงเพิ่มขึ้นสูง โดยระดับน้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อยที่ผ่าน อ.เสนา เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งที่หมู่ 9 ต.หัวเวียง อ.เสนา บ้านเรือนที่อยู่ริมน้ำเริ่มถูกน้ำท่วมทำให้ชาวบ้านไม่มีที่อาศัย แต่ชาวบ้านยังยิ้มสู้และปรับตัวรับสถานการณ์น้ำ โดยต่างเผยว่า รู้สึกชินแล้วเพราะเจอน้ำท่วมทุกปี อญู่กับน้ำมาเป็นเดือนแล้ว หนนี้น้ำท่วมมิดบ้านแต่ก็ต้องอยู่ให้ได้ หลายคนอาศัยบนชั้น 2 และต้องลงมาเก็บของขึ้นทุกเช้า เพราะน้ำขึ้นนอกจากนี้ยังมีผู้สูงอายุหลายคนที่ไม่สามารถไปไหนได้ ต้องเตรียมหาเตียงหนุนสูงเพื่อหนีน้ำ เนื่องจากคาดว่าอีก 2-3 วัน น้ำจะท่วมสูงกว่านี้
บิ๊กตู่ติดตามสถานการณ์น้ำกรุงเก่า
อีกด้านหนึ่ง พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามสถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยาและการปฏิบัติงานของศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพในพื้นที่โดยเดินทางไปยังวัดกษัตราธิราชฯ พระเจดีย์ศรีสุริโยทัยและพระตำหนักสิริยาลัย ต.ประตูชัย รับฟังสถานการณ์น้ำ และเตรียมการป้องกันสถานที่สำคัญ
ขอบคุณกำลังพลช่วยปฏิบัติงาน
“พล.อ.ประยุทธ์ ได้ย้ำและแสดงความขอบคุณทหาร รวมถึงครอบครัวจาก 9 กองพันทหาร ที่หนุนเสริมเข้าช่วยสนับสนุนป้องกันน้ำท่วม จ.พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งขอบคุณเจ้าหน้าที่และจิตอาสาจากทุกหน่วยงาน ที่สนับสนุนการปฏิบัติงานร่วมดูแลปกป้องสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และโบราณสถาน โดยเน้นย้ำว่า หัวใจการทำงาน คือการทำหน้าที่ให้สำเร็จ มีความปลอดภัยและประชาชนมีความสุข” พล.อ.คงชีพ กล่าวและว่า ให้เฝ้าระวัง แจ้งเตือน เตรียมกำลังพลและเครื่องมือเข้าหนุนเสริมช่วยแก้ปัญหาวิกฤตในแต่ละพื้นที่ให้ทันสถานการณ์ หากจำเป็นต้องเตรียมพร้อมอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัยที่จัดไว้
พ่อเมืองอยุธยารับปริมาณเพิ่มสูง
ขณะเดียวกัน นายวีระชัย นาคมาศ ผวจ.พระนครศรีอยุธยาเปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ได้สอบถามถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยตนได้ตอบว่าขณะนี้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น น่าเป็นห่วง เนื่องจากเขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำมากขึ้น
บิ๊กตู่ขอโทษแฟนคลับไม่ได้ทักทาย
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ ในระหว่างการลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ครั้งนี้ ภายหลังมีชาวบ้านใน จ.พระนครศรีอยุธยา มารอต้อนรับและให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ ที่บริเวณหน้าวัดกษัตราธิราชฯ ซึ่งแสดงความไม่พอใจเพราะไม่ได้พบ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งทาง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ฝากเจ้าหน้าที่ขอโทษชาวบ้านแทนตนเอง พร้อมกับบอกว่าเปิดกระจกรถไม่ได้ เนื่องจากเป็นรถกันกระสุน อีกทั้งมาในนาม รมว.กลาโหม จึงไม่อยากให้มีการบิดเบือนเปรียบเทียบ แต่ส่วนตัวรู้สึกดีใจที่ได้เห็นหน้าประชาชน และได้โบกมือทักทายในรถแล้ว
ภูเก็ตฝนตกทำน้ำทะลักรถ40คัน
ที่ จ.ภูเก็ต ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ได้ทำให้น้ำท่วมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะฝั่งอ.ถลาง ท่วมรถยนต์ที่จอดอยู่ใต้คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งใกล้สนามบินภูเก็ต หมู่ 6 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง เสียหายไม่ต่ำกว่า 40 คัน และจักรยานยนต์อีกไม่ต่ำกว่า 20 คัน เนื่องจากเจ้าของเคลื่อนย้ายไม่ทัน โดยนายวรวิทย์ สีสาคูคราม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.ไม้ขาว กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานไปยังป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยภูเก็ต ให้เข้าสูบน้ำออกจากคอนโดฯ โดยเร็ว
ส่วนนายณรงค์ วุ่นซิ้วผวจ.ภูเก็ต พร้อมด้วย นายบัญชา ธนูอินทร์ นายอำเภอถลาง และคณะ ลงพื้นที่ อ.ถลาง เข้าสำรวจและให้ความช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งถูกน้ำท่วมขัง ตั้งแต่บ้านเมืองใหม่ บ้านในยาง บ้านสาคู และบ้านไม้ขาว โดยมีผลกระทบด้านการจราจรและการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ มีการตั้งโรงครัวที่วัดมงคลวราราม หรือ วัดในยาง ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน
สนามบินภูเก็ตให้เผื่อเวลาเดินทาง
สำหรับท่าอากาศยานภูเก็ตได้มีการแจ้งผู้โดยสารให้เผื่อเวลาในการเดินทางไปยังสนามบิน เนื่องจากมีสถานการณ์ฝนตกหนัก ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ เพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบิน โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 0-7635-1111
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี