4 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากพี่สาวของนายอธิวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี พนักงานร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ถูกชายรูปร่างใหญ่ อายุประมาณ 40 ปี ขับรถยนต์เก๋งสีดำ เข้ามาตบหน้า ตบกกหู ทำร้ายร่างกายน้องชายจนได้รับบาดเจ็บ ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง  

โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.20 น. หลังเกิดเหตุ ผู้ได้รับบาดเจ็บไปเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธร ให้ช่วยติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี จนถึงวันนี้ได้สอบถามไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตอบเพียงว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับสำนักงานขนส่ง เพื่อตรวจสอบเจ้าของรถคันดังกล่าว และทำหมากเรียกมาสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่ร้านสะดวกซื้อดังกล่าว พบกับนายอธิวัฒน์ เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนขับขี่รถจักรยานยนต์กลับมาจากส่งของให้ลูกค้า กำลังจะรอเลี้ยวเข้าร้านสะดวกซื้อ โดยชะลอรถอยู่เลนขวาและเปิดไปเลี้ยวก่อนถึงประมาณ 30 เมตร ก่อนเลี้ยวบังเอิญมีรถเก๋งคันดังกล่าวตามมาด้านหลัง เมื่อตนเลี้ยวผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว เปิดกระจกละตะโกนด่าตน แล้วตนก็ตอบไปว่า 'ผมเปิดไฟเลี้ยวแล้วนะพี่'

จากนั้นรถเก๋งคันดังกล่าวก็กลับมาจอดที่หน้าร้าน แล้วเดินเข้ามาหาตนและเรียกออกไปคุยหน้าร้าน 'ผมคิดว่าจะมาบอกอะไรกับผม แต่ผมไม่เดินไปไกล ยืนอยู่ที่หน้าร้าน ชายคนดังกล่าว เดินปรี่เข้ามาตบที่หู ตบเข้าที่แก้ม ประมาณ 5 ครั้ง แต่ผมก็ไม่ได้ต่อสู้อะไรเลย' 

หลังเกิดเหตุ รู้สึกหูอื้น ไม่ได้ยินเสียง ปากแตก มีบาดแผลช้ำตามร่างกาย ตนจึงได้แจ้งความกับตำรวจที่ สภ.เมืองนครปฐม พนักงานสอบสวนแนะนำไปใหไปตรวจร่างกาย แพทย์บอกว่า เยื่อในหูฉีกขาด ต้องรอแพทย์เฉพาะทางตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง จนถึงวันนี้หูข้างซ้ายยังไม่ค่อยได้ยินเลย

ทางด้านเจ้าของร้านโจ๊ก หน้าร้านสะดวกซื้อดังกล่าว เล่าให้ฟังว่า ขณะเกิดเหตุ ตนกำลังล้างชามอยู่ แต่ก็เห็นน้องที่ทำงานอยู่ร้านสะดวกซ้อ ขับรถ จยย. เปิดเลี้ยวมาก่อนถึงร้าน หลังจากเลี้ยวเข้ามาจอด ก็มีรถเก๋งที่ตามมา ตะโกนด่าน้องเขา แล้วก็ขับรถเลยไป สักครู่ก็วนกลับมา และเข้าไปหาน้องเขาในร้านสะดวกซ้อ พอเดินกลับออกมากจากร้าน น้องเขาก็เดินตามออกมา ชายคนดังกล่าวก็เดินเข้ามาตบหน้าน้องหลายครั้ง โดยที่น้องเข้าไม่มีทางสู้เลย เพราะน้องเขาตัวเล็กมาก 

ส่วนชายคนดังกล่าวตัวใหญ่กว่าน้องหลายเท่า เชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องการขับรถกันบนถนน ในส่วนตัวรู้สึกว่ารุนแรงเกินไป ไม่น่าใช้อารมณ์ ผ่านแล้วก็ให้มันผ่านไป ที่สำคัญอยู่ที่สาธารณะ มีเด็กเห็นด้วย ลูกชายผมอยู่ด้วย อายุ 7 ขวบ กลัวเป็นภาพจำที่ไม่น่าจดจำสำหรับเด็ก 

หนุ่มร้านสะดวกซื้อบอกอีกว่า อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ติดตามจับตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ยืนยันไม่เคยรู้จักกับชายคนดังกล่าวมาก่อน ไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน แล้วมาทำผมแบบนี้ ไม่รู้จะต้องรักษาอาการบาดเจ็บอีกนานเท่าไหร่ จะมีผลกระบบกับการทำงานหรือไม่ .012