เงินทองยิ่งหายากกว่าจะเก็บได้แต่ละบาท!!!! ที่จ.อุดรธานี คุณลุงวัย 54 ปี สุดระทมใจหอบเงิน 100,000 บาทที่ไปฝากธนาคาร สุดท้ายเจ้าหน้าที่ฯแจ้งมาตอนค่ำอ้างนับเงินได้แค่ 90,000 บาท และให้มาเซ็นยอมรับเอาเงินออกจากบัญชี ทุกข์ใจหนักกินไม่ได้นอนไม่หลับเงินหมื่นหาย ลูกๆไม่ยอม สุดท้ายตกลงกันไม่ได้ จนท.แบงก์บอกถ้าอยากได้ให้ฟ้องศาลเอา พร้อมเตือนเป็นอุทาหรณ์ทั้งสองฝ่าย
วันนี้ (5 ก.ย.65) ผู้สื่อข่าวจ.อุดรธานี ได้รับการร้องเรียนจากนายนิพนธ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ชาวบ้านที่อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ว่า มีเรื่องราวที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น เมื่อพ่อตาหอบเงินแสนไปฝากธนาคารแห่งหนึ่งสาขาในอ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 22 ส.ค.65 ที่ผ่านมา แต่ช่วงค่ำเจ้าหน้าที่ฯ ธนาคารโทรมาบอกว่า เงินฝากไม่ครบเหลือแค่ 90,000 บาทให้มาเซ็นเอาเงินออกจากบัญชี แต่ตนเองในฐานะลูกเขยและลูกๆ อีกหลายไม่ยอม เพราะพ่อตายืนยันนับเงินได้จำนวน 100,000 บาทไปฝากจริงๆ ก่อนไปฝากหลายคนก็ช่วยกันนับ จนถึงขณะนี้ตกลงกันไม่ได้ ขอดูกล้องวงจรปิดจากธนาคารก็ยังไม่ชัดเจน และธนาคารพยายามให้พ่อตาเซ็นยอมรับสภาพให้ถอน 10,000 บาทให้จงได้ ยังไม่มีข้อสรุป และ ตนเองความไม่ชอบมาพากลในเรื่องนี้จึงฝากไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับชาวบ้านที่นำเงินไปฝากธนาคาร
โดยนายนิพนธ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า นายสาวถี อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นพ่อตาตนเองได้นำเงินจำนวน 100,000 บาทซึ่งเป็นเงินที่พ่อตาและลูกสาวเก็บหอมรอมริบเพราะที่บ้านเปิดเป็นร้านขายขนมและขายของ พ่อตาหอบเงินแสนไปฝากธนาคารแห่งหนึ่ง สาขา อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 22 ส.ค.65 เวลาประมาณ เที่ยงเศษ โดยภาพวงจรปิดของธนาคาร ได้ยื่นเงิน เป็นธนบัตรแบงค์พัน แบงค์ร้อยยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ธนาคาร จากนั้นพ่อก็หันหลังเดินไปนั่งอยู่เก้าอี้ โดยไม่ได้ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ ผ่านไปประมาณ 10 นาที เจ้าหน้าที่ฯ ก็ยื่นสมุดเงินฝากธนาคารให้พ่อตา พ่อตาเปิดดูมีการรันตัวเลขเงินฝาก เป็นเงินจำนวน 100,000 บาทจากนั้นก็ขับรถกลับบ้าน แต่ปรากฎว่าตอนเย็นเวลาทุ่มเศษของวันที่ 22 ส.ค.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฯ ธนาคารฯ ก็โทรมาบอกพ่อตาว่า เงินที่ฝากมีแค่ 90,000 บาท พ่อตาตนเองก็ตกใจทำไมเป็นแบบนี้ก็นับครบอยู่
ต่อมาก็มีเจ้าหน้าที่ธนาคารออกมาหาที่บ้านให้พ่อตาเซ็นต์เพื่อธนาคารจะได้เอาเงิน 10,000 บาทออกมาจากบัญชี แต่พ่อและลูก ๆ ไม่ยอม ต่อมาวันที่ 30 ส.ค.65 พ่อลูกๆ ได้เดินทางไปที่ธนาคารสาขาใหญ่ในตัวจ.อุดรธานี โดยทางผจก.แจ้งว่ามีเงินไม่ครบ และชี้แจงว่า เงินที่เจ้าหน้าที่ธนาคารนับเป็นธนบัตรใบละ 1,000 บาท จำนวน 62 ใบ รวม 62,000 บาท และธนบัตรใบละ 100 บาท จำนวน 280 ใบรวมเป็นเงิน 28,000 บาท รวมยอดทั้งสิ้น 90,000 บาท และทาง ธนาคารพยายามให้พ่อเซ็นยอมรับเพื่อจะเอาเงิน 10,000 บาทออกจากบัญชี แต่พ่อและลูกๆ ไม่ยอม ตนเองสงสัยผิดปกติตั้งแต่ตอนแรก ไปขอกล้องวงจรปิดจากธนาคารก็ให้มาเพียงด้านหน้าและเหมือนภาพตัดต่อ เริ่มสงสัยจึงขอตัวเต็มไปอีกแต่ที่ได้ภาพมาก็ยังไม่เต็ม ตนเองไม่รู้เรื่องแบบนี้จึงได้ถ่ายเป็นคลิปโทรศัพท์มา เบื้องต้นยังไม่ตกลงกันไม่ได้ เจ้าหน้าที่ฯ ธนาคารบอกว่า ถ้าอยากให้ให้ไปฟ้องเอา คงต้องให้ศาลท่านตัดสิน
"ตอนนี้พ่อตาผม สภาพจิตใจแย่มาก คิดมาก นอนไม่หลับ กินข้าวน้อยลง ผมไปถามพ่อตาแล้วยืนยันว่าเอาเงินแสน นับครบมั้ย พ่อตาผมก็บอกว่า พ่อตาและแม่ยาย และลูกชายอีกคนพากันนับถึง 3 ครั้ง ครบ 100,000 บาทก่อนจะนำมาฝากธนาคาร ผมคงไม่ว่าใครผิดใครถูก แต่อยากฝากเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์ถึงคนฝากให้ยืนดูการนับเงินอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์เลย ส่วนพนักงานธนาคารก็ขอให้เช็คดีๆ ว่าเงินครบหรือไม่ครบ ถ้าไม่ครบก็ให้ทักท้วงตอนนั้นเลย ไม่ใช่ผ่านมา 6-7 ชม.ค่อยมาแจ้ง และหากเงินหายแค่ 500 หรือ 1,000 คงไม่ได้ว่า แต่นี่หายเป็นหมื่น มันหนักสำหรับพวกเรากว่าจะหาเงินได้ และเป็น แบบนี้ใครก็รับไม่ได้ ผมว่ามันแปลกเกินปกติ เจ้าหน้าที่มาเจรจาที่บ้านให้พ่อตาเซ็นต์ พ่อตาก็ยังยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเอง จนเขาบอกว่าจะแจ้งความเพื่อให้ไกล่เกลี่ยกัน จนถึงตอนนี้ก็ตกลงกันไม่ได้" นายนิพนธ์กล่าวตอนท้าย
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายสาวถี อายุ 54 ปี เปิดเผยว่า ยืนยันว่าเอาเงินจำนวน 100,000 บาท ไปฝากธนาคารจริงๆ เราช่วยกันนับหลายคนก่อนเอาเงินไป พอไปถึงธนาคารก็ยื่นให้เจ้าหน้าที่ฯ ก็เลยไปนั่งเก้าอี้เพราะปวดขา พอเสร็จเจ้าหน้าที่ฯ ก็เรียกให้ไปเอาสมุดบัญชี เปิดสมุดบัญชีดูเห็นเงินฝาก 100,000 บาทก็กลับมาบ้าน พอตกเย็น เจ้าหน้าที่ฯ โทรมาบอกว่าเงินไม่ครบมีแค่ 90,000 บาท เงินพ่อขาดอยู่ 10,000 บาท ให้มาเซ็นต์ยินยอมที่ธนาคารว่าเอาเงินเข้าแค่ 90,000 บาท ซึ่งพ่อตกใจมาก คิดว่ามันแปลก หากไม่ครบ ทำไมถึงไม่ทักท้วงตั้งแต่อยู่ธนาคาร ธนาคารต้องรับผิดชอบ เพราะหากตนฝากเงินไม่ครบทำไมไม่ท้วงตอนนั้น ตนขอยืนยันนับเต็มแสนแน่นอน และก็เคยมาฝากที่ธนาคารแห่งนี้บ่อยไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ตอนนี้ทุกข์ใจเงินหายตั้งหมื่นบาท
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี