"บิ๊กโจ๊ก"บุกอุดรฯแถลงตร.ชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเตอร์เน็ต (TICAC) บุกจับเครือข่ายค้ามนุษย์ 3 คดีรวด เผยน่าห่วงเด็กเป็นเหยื่อทารุณกรรมและค้ามนุษย์มากขึ้น
วันนี้ (7 ก.ย.65) เวลา 20.00 น. ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร,รอง ผอ.ศพดส.ตร., นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ต.ภิษณุ อุณหเสรี ผบ.ภ.จว.อุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวผลการดำนเนินทลายเครือข่ายค้ามนุษย์ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 จำนวน 3 คดี เอี่ยวค้ามนุษย์และกระทำชำเราเด็ก ประกอบด้วย
คดีที่ 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด TICAC ได้รับรายงานจาก ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือเด็กหายและเด็กถูกละเมิดแห่งชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา (NCMEC) ว่ามีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กชื่อ "MaoNamHer oh" มีการอัพโหลดสื่อลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ผู้ใช้บัญชีดังกล่าวคือ นายรชต อายุ 26 ปี อาศัยอยู่ที่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขออนุมัติศาลเพื่อออกหมายค้น หอพักสุขสบายเพลส 2 ห้องหมายเลข 302 บ้านกอกซอย 10 ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จว.ขอนแก่น พบนายรชต อาศัยอยู่ภายในห้องดังกล่าว นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งเป็นของผู้ต้องหาเอง ภายในโทรศัพท์ดังกล่าวพบสื่อลามกอนาจารเด็กจำนวนมาก โดยผู้ต้องหารับว่า ได้ดาวน์โหลดภาพและคลิปวิดีโอสื่อลามกอนาจารเด็กมาจาก เว็บไซต์ VK และใน google มาเก็บไว้ในมือถือของตน
นอกจากนี้ ยังตรวจพบคลิปภายในโทรศัพท์ดังกล่าว ที่มีภาพของนายรชต กระทำอนาจารเด็กผู้หญิงโดยจากการสืบสวนทราบว่า ผู้หญิงในคลิปคือ ด.ญ,แพร (นามสมมติ) อายุ 14 ปีเศษ พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อประมาณเดือน มี.ค.64 ผู้ต้องหาได้นัดหมายให้ ด.ญ.แพร ออกมาพบตน จากนั้นผู้ต้องหาได้พาไปที่ห้องพักแห่งหนึ่งใน ต.น้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น และผู้ต้องหาได้กระทำชำเรา ด.ญ,.แพรฯ จนสำเร็จความใคร่ พร้อมกับถ่ายคลิปเก็บไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น คำเนินคดี โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน "กระทำการค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์จากการ ผลิต สื่อสามก ซึ่งเป็นการกระทำต่อบุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี, พรากและพาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารตาเพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร, กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมีใช่ภริยาของตน, ครอบครองสื่อสามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยซน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น"
คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 29 ส.ค.65 เวลาประมาณ 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งพบเด็กหญิงชื่อ ด.ญ.ปลา (นามสมมุติ) อายุประมาณ 10 ปี เป็นบุคคลไม่ทราบสัญชาติ พูดจาสื่อสารภาษาไทยได้ มาขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบให้การช่วยเหลือ และได้ร่วมกับ พมจ.อุดรธานี ร่วมกันซักถามเบื้องต้นทราบว่าเมื่อประมาณเดือน เม.ย.65 ด.ญ.ปลาได้ถูกนายเทพเสรี ไปซื้อตัวเด็กจากแม่และพ่อเลี้ยงที่ อ.แม่สาย เชียงราย โดยให้เงินตอบแทน แล้วนำมาอยู่ด้วยที่ อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยมี น.ส.อรสินี เป็นผู้คอยดูแลเด็กอยู่ตลอดเวลา ขณะที่พักอาศัยด้วยกัน ด.ญ.ปลา ได้ถูกนายเทพเสรี และ น.ส.อรสินี ล่วงละเมิดทางเพศ รวมถึงดุด่า ทุบตีเด็ก และยึดบัตรประจำตัวไว้ จนเมื่อวันที่ 29 ส.ค.65 เวลาประมาณ 17.00 น. ขณะที่ น.ส.อรสีนี เผลอ ด.ญ.ปลา จึงแอบหนีออกมาจากห้องพักและไปขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเร่งทำการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน และสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ แจ้งข้อกล่าวหาทั้งสองคนในความผิดฐาน "ร่วมกันพรากผู้เยาว์ และร่วมกันหน่วงเหนียวกักขังผู้อื่น และร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี"
นอกจากนี้ จากการที่แม่และพ่อเลี้ยงของ ด.ญ.ปลา ได้ทำการขายลูกของตนเองให้กับผู้อื่นนำไปแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดอุดรธานี ออกหมายจับมารดา และพ่อเลี้ยงของด.ญ.ปลา เพิ่มเติม และได้จับกุมตัวทั้งสองคน ดำเนินคดีในความผิดฐาน "ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และเป็นการกระทำแก่เด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด" และได้รวมรวมพยานหลักฐาน แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในความผิดฐาน "ร่วมกันค้ามนุษย์" เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
คดีที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด TICAC ได้รับรายงานจาก ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือเด็กหายและเด็กถูกละเมิดแห่งชาติ ของประเทศสหรัฐอเมริกา (NCMEC) ว่ามีผู้ใช้งานโซเซียลมีเดียรายหนึ่ง มีการอัพโหลดสื่อลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เป็นจำนวนมาก จึงได้ส่งข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ TICAC ทำการสืบสวน พบว่าผู้ใช้งานดังกล่าวคือ นายธนัญญา อายุ 31 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขออนุมัติศาล เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ TICAC ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดอุดรธานี เข้าตรวจค้นบ้านพักใน อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี พบนายธนัญญา พร้อมกับของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง ภายในพบภาพอนาจารเด็กกว่า 4,000 ภาพ และคลิปอนาจารอีกจำนวน 3 คลิป มีเด็กที่ตกเป็นเหยื่อรวมกันจำนวนมากถึง 17 ราย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมนายธนัญญา ดำเนินคดีในความผิดฐาน ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กฯ และกระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 13 ปีฯ และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม ข่มขืนและกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปีฯ และ กระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.น้ำโสม ภ.จว.อุดรธานี ดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร และรอง ผอ.ศพดส.ตร. กล่าวว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ TICAC ได้รับการประสานข้อมูลจากศูนย์ประสานงานช่วยเหลือเด็กหายและเด็กถูกละเมิดแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (NCMEC) ก็ได้เร่งดำเนินการออกสืบสวนติดตามและจับกุมผู้ต้องหาโดยเร่งด่วนทันที ซึ่งกระทำมาอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ จนมาถึงพื้นที่ ภาค 4 ซึ่งคดีที่มีการจับกุมนี้ ยังมีผู้ที่กระทำผิดที่มีพฤติกรรมที่ภายนอกจะได้รับความไว้วางใจในการเข้าใกล้ชิดตัวเด็ก แต่ได้อาศัยความใกล้ชิดและความไว้วางใจดังกล่าวในการกระทำอนาจารและแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศจากตัวเด็ก รวมทั้งคดีที่ผู้ปกครองของเด็กยินยอมที่จะขายตัวเด็กเอง เพื่อแลกกับเงินจำนวนหนึ่ง ดังนั้น เมื่อได้ทราบข้อมูลการกระทำผิดจึงต้องรีบเข้าช่วยเหลือและดำเนินคดีผู้กระทำผิดโดยเร็ว ในส่วนของเด็กและเยาวชนที่เป็นเหยื่อนั้น จะมีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสหวิชาชีพและเจ้าหน้าที่ พม.จังหวัด เพื่อเข้าให้การช่วยเหลือและดูแลคุ้มครองเด็กตามกระบวนการต่อไป
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี