เปิดค่าหัว-ชีวิต-เส้นทาง‘โรฮีนจา’ จุดหมายอินโดฯทำไมโผล่สตูล
8 กันยายน 2565 ความคืบหน้ากรณีโรฮีนจา 2 จุดใน จ.สตูล รวมกว่า 51 คน (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ผงะ!เจออีก 41 โรฮีนจา อยู่ในสภาพหิวโหย เร่งสอบโยงชุดผวา‘เรือแตก’หรือไม่) เบื้องต้นกลุ่มชาวโรฮีนจาให้การกับตำรวจน้ำ ส.รน.3 กก.9 บก.รน. ว่า เดินทางมาจากค่ายกูตูฮาลีม ในประเทศบังกลาเทศ โดยมากับเรือหลายลำ ระบุจำนวนไม่ได้ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 เดือน มีจุดหมายปลายทางคือประเทศอินโดนีเซีย เสียค่าใช้จ่ายคนละ 350,000 ตากา คิดเป็นเงินไทยประมาณ 134,000 บาท เมื่อมาถึงสถานที่เกิดเหตุ ผู้ควบคุมเรือซึ่งเป็นชาวเมียนมา 8 คน แจ้งว่าถึงอินโดนีเซียแล้ว จึงปล่อยพวกตนที่เกาะใน จ.สตูล ของไทย
หญิงชาวโรฮีนจาที่เดินทางมากับลูกชาย กล่าวว่า หนีจากค่ายผู้ลี้ภัย UNHCR ในประเทศบังกลาเทศ โดยมีคนมารับไปลงเรือที่มีคนดูแล บนเรือลำนี้มีผู้ร่วมเดินทางมากกว่า 100 คน ซึ่งเดินทางมาแล้ว 18 วัน แต่ละวันได้รับประทานอาหาร 2 มื้อ ระยะหลังอาหารเหลือน้อย ได้วันละมื้อเท่านั้น กระทั่งไม่กี่วันที่ผ่านมา เริ่มขาดแคลน คนดูแลเรือจึงให้ลงจากเรือ ว่ายน้ำขึ้นเกาะ โดยบอกว่าเกาะนี้เป็นประเทศอินโดนีเซีย ที่ต้องการเดินทางไป ส่วนสาเหตุที่หลบหนี เพราะต้องการไปทำงานหาเงินส่งลูกเรียนหนังสือ แต่บางคนต้องการเดินทางไปทำงานที่มาเลเซีย
ทั้งนี้ จากการสอบสวน พบว่า มีผู้หนีออกจากค่ายผู้ลี้ภัยเพียง 10 คน ที่เหลือนายหน้ารับตัวจากท่าเรือในรัฐยะไข่ ประเทศเมียนมา โดยนายทุนชาวอินโดนีเซีย จ่ายเงินค่าเดินทางชาวโรฮีนจาให้นายหน้ามากกว่าคนละ 134,000 บาท แต่เมื่อเรือเข้าน่านน้ำมาเลเซีย ก็ถูกผลักดัน ทำให้คนนำพาและคนขับเรือ ต้องหันหัวเรือกลับเข้าน่านน้ำไทย
ขณะที่ความช่วยเหลือจากหลากหลายหน่วยเริ่มทยอยเข้ามาบรรเทาทุกข์ ทั้งเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล โดยนาวาตรีหญิงโนสมา หลีเส็น นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล มอบหมายให้เหล่ากาชาดนำสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันเข้ามอบให้ พร้อมชมรมแม่บ้านมหาดไทย และหลากหลายหน่วยงานที่ทราบข่าวได้นำความช่วยเหลือมาให้กับชาวโรฮีนจา
ด้าน พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและดูแลความเรียบร้อยที่จุดพักพิงชาวโรฮีนจา ในกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 436 (ตชด.436) อ.เมือง จ.สตูล เมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา พร้อมเปิดเผยว่ากระบวนการสอบสวนซักถามเพิ่งเริ่ม ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกฝ่ายในการวบรวมพยานหลักฐานว่าเข้าข่ายค้ามนุษย์หรือไม่ ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตหรือไม่ว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ในปีเดียวถึง 2 ครั้งแล้วนั้น เรื่องนี้ต้องพูดคุยกันให้มากขึ้นในกลุ่มน่านน้ำ ซึ่งในส่วนของตำรวจมีข้อจำกัด ต้องพูดคุยในส่วนที่มีศักยภาพทางทะเลทุกฝ่าย รวมถึงเอกชนก็ต้องมาพูดคุยกันใหม่
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี