ปัจจุบันเรากำลังก้าวสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ยุคที่มีการนำระบบและเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามามีบทบาทสำคัญมากในชีวิต
สังเกตได้จากพฤติธรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทั้งการซื้อของ การทำธุรกรรมการเงิน การใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะและอีกมากมาย อย่างเช่น การทำธุรกรรมทางการเงิน จากเมื่อก่อนหากต้องการโอนเงินไปยังผู้อื่น หรือขอเอกสารรับรองสถานภาพทางการเงิน ต้องไปดำเนินการที่ธนาคาร หรือผ่านตู้ ATM เท่านั้น แต่เดี๋ยวนี้สามารถทำได้อย่างง่ายดาย ผ่าน Mobile Banking สะดวกสบาย ดังนั้นหากธุรกิจไม่ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย จะแข่งขันอยู่ในตลาดได้ยาก จำเป็นจะต้องเรียนรู้ที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการกำหนดกลยุทธ์และต้องทำการศึกษา เรียนรู้ และเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อปรับตัวเข้าสู่การเป็นโลกยุคดิจิทัลมากขึ้น นำเอาเทคโนโลยี หรือเครื่องมือชนิดใหม่ๆ มาช่วยในการทำธุรกิจ 

นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธาน หอการค้าจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่าการจัดงานแสดงสินค้าและจับคู่ธุรกิจSMART BUSINESS EXPO 2022 ที่จะจัดขึ้น ระหว่างวันที่5-9 ตุลาคม 2556 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลและนำมาประยุกต์ใช้ดำเนินธุรกิจ เพิ่มศักยภาพให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้ในโลกยุคดิจิทัล ซึ่งปัจจุบันพบว่า มีธุรกิจเกิดใหม่จำนวนมาก ล้วนใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือเป็นอาวุธแข่งขันทางธุรกิจ หากธุรกิจใดไม่มีการปรับตัวให้เท่าทันเทคโนโลยี ก็ทำให้เสียเปรียบการแข่งขัน จนต้องล้มเลิกกิจการไปก่อนเวลาอันควร 

“ที่น่าสนใจพบว่า มีธุรกิจที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ จำนวนมากที่ประสบผลสำเร็จ สามารถขยายสาขา
อย่างรวดเร็ว บางรายพัฒนาเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีชื่อเสียง ซึ่งกลยุทธ์ที่ทำให้ธุรกิจเหล่านี้ประสบผลสำเร็จ มาจากความคิดสร้างสรรค์ นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ ช่วยลดต้นทุนธุรกิจได้มากกว่าคู่แข่ง สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าได้ตรงเป้าสร้างโอกาสเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ไวและมีประสิทธิภาพ”นายชาญณรงค์กล่าวและว่า 

ภายในงานแสดงสินค้าและจับคู่ธุรกิจ SMART BUSINESS EXPO 2022 จะมีผู้ประกอบการธุรกิจในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและส่วนกลาง รวมถึงภูมิภาคอื่นๆทั่วประเทศ ทั้งกลุ่มธุรกิจดิจิทัล ธุรกิจผู้ผลิตซอฟต์แวร์ ธุรกิจตัวแทนจำหน่าย สตาร์ทอัพ ตลอดจนสถาบันการเงินให้สินเชื่อธุรกิจ มาร่วมออกบูธแสดงสินค้าและบริการ ภายในงานนี้ไม่ต่ำกว่า  200 บูธ นอกจากนี้ ยังมีโซนจัดกิจกรรมสัมมนา เพื่อให้ความรู้ในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัลในประเด็นที่หลากหลายน่าสนใจอีกด้วย ส่วนรูปแบบของการจัดงานนั้น จะเป็นงานแสดงสินค้าในลักษณะ B to B หรือธุรกิจกับธุรกิจ โดยจะมีผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น โปรแกรมซอฟต์แวร์ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด รวมถึงผู้ประกอบการด้านดิจิทัลขนาดใหญ่จากส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคอื่นๆ มาร่วมออกบูธซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจ บริษัทห้างร้านที่สนใจเทคโนโลยีใหม่ๆสามารถมาเข้ามาชมงาน มาพบปะพูดคุย จะได้รู้ได้เห็น เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ไอเดียใหม่ๆ ที่จะนำไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองได้ 

สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่จะมาร่วมออกบูธ ประกอบด้วยองค์กรธุรกิจ สมาชิกหอการค้าภาคอีสาน ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ อุดรธานี หนองคาย มุกดาหาร สกลนคร นครราชสีมา ชัยภูมิ และเลย สมาคมแฟรนไชส์และไลเซ่นส์ สมาคม Thailand Tech Startup Association สถาบันการเงิน อาทิ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงเทพ EXIM BANK สมาคมบรรจุภัณฑ์ไทย และอื่นๆ 

นายชาญณรงค์กล่าวอีกว่า กระแสการตอบรับต่อการจัดงานนี้ได้รับความสนใจ แสดงความประสงค์เข้าร่วมงาน
ออกบูธสูงมาก เบื้องต้น มีบริษัทใหญ่ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ติดต่อมาออกบูธในงานนี้แน่นอนหลายบริษัทแล้ว ขณะเดียวกันก็มีธุรกิจแฟรนไชส์ชื่อดัง กลุ่มสตาร์ทอัพ ธุรกิจที่มีผลิตภัณฑ์ใหม่ ดีลเลอร์สินค้าต่างๆ รวมถึงธุรกิจบรรจุภัณฑ์ และสินเชื่อ
เพื่อธุรกิจ มาร่วมออกบูธด้วยเช่นกัน ถือเป็นงานใหญ่ที่ผู้ผลิตและผู้ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการทำธุรกิจจะได้มาพบเจอกัน นำไปสู่การซื้อขายในที่สุด นั่นคือสิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นภายในงาน 

“คาดว่าตลอดระยะเวลาการจัดงาน 5 วันจะเกิดการเจรจาจับคู่ธุรกิจ รวมถึงการซื้อขายสินค้าและบริการด้านเทคโนโลยีภายในงาน ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท และเราตั้งเป้าหมายที่จะจัดงานนี้เป็นประจำทุกปีอย่างน้อยก็ปี 2566 และ 2567 จัดอีกแน่นอน แต่ละปีไซส์ของงานน่าจะขยายใหญ่” นายชาญณรงค์ กล่าว 

สมใจ  นามสุดตา