ผู้ว่าโคราชจับตาสถานการณ์น้ำ ใน 7 ลุ่มน้ำ หลังฝนตกต่อเนื่อง สั่ง ชลประทานเร่งระบายน้ำออกจากบุ่งตาหลัว  2 แสน ลบ.ม. หวั่นน้ำท่วมเขตเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม

วันที่ 8 กันยายน 2565 ที่ศาลากลางจ.นครราชสีมา นายวิเชียร  จันทรโณทัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดในพื้นที่ 32 อำเภอ ของจังหวัดนคราชสีมา ว่า จากฝนที่ตกลงมาต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 7 กย 2565 ที่ผ่านมา  ส่งผลให้ในหลายพื้นที่เกิดน้ำท่วม เป็นวงกว้าง ซึ่งนอกจากในพื้นที่เขตเทศบาลนครนครราชสีมา พื้นที่ที่ต้องมีการเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด จะเป็นพื้นที่ที่เป็นที่ลุ่มและเป็นพื้นที่รวมน้ำ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว อ.ปากช่อง  อ.สีคิ้ว อ.ด่านขุนทด อ.สูงเนิน อ.โนนสูง  อ.โนนไทย อ.พิมาย และอ.โนนแดง ซึ่งจากฝนที่ตกหนักมาหลายวันทำให้มีพื้นที่ 16 อำเภอ ได้รับผลกระทบ พื้นที่นาข้าวได้รับผลกระทบ 80,000กว่าไร่ พื้นที่ไร่ 8,000 พันกว่าไร่ และมีเกษตรกรได้รับผลกระทบกว่า 10,000  ครัวเรือน  อย่างไรก็ตามสถานการณ์ขณะนี้ปริมาณน้ำลดลงแล้ว น้ำที่ท่วมได้ไหลผ่านพื้นที่ลงสู่คลองธรรมชาติ 

ทั้งนี้ได้สั่งการให้เตรียมความพร้อมในทุกพื้นที่ ทุกจุด ทั้ง 32 อำเภอ ที่มีลำน้ำไหลผ่าน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ลำน้ำลำตะคอง ลำชี ลำพระเพลิง ลำเชียงไกร ลำสะแทด ลำมูล และลำจักราช อีกทั้งการรับมือน้ำท่วมในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา สั่งการให้มีการเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำในทุกจุดในเขตเมืองที่เคยเกิดปัญหาน้ำท่วม นายวิเชียร กล่าว

ด้านนายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้สั่งการให้มีโครงการชลประทานนครราชสีมา  น้ำเครื่องสูบน้ำจำนวน 2 เครื่อง กำลังการสูบน้ำเครื่องละ 20,000 ลบ.ม. ไปติดตั้ง ภายในสวนน้ำบุ่งตาหลัวเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2  เพื่อทำการสูบหรือพร่องน้ำออกจากสวนน้ำบุ่งตาหลัวเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ประมาณ  200,000 ลบ.ม. จากความจุ 1.1 ล้าน ลบ.ม. เพื่อรักษาระดับน้ำ ให้คงเหลือ ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ของความจุ เพื่อรองรับน้ำฝนใหม่ที่จะเข้ามา ป้องกันการเกิดน้ำอ่อล้นออกจากบุ่งตาหลัว เข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนเขตเมือง โดยเฉพาะพื้นที่เทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อมและพื้นที่โดยรอบ นายกิติกุล กล่าว