‘จ่าคลั่ง’ยิงทหารดับ2เจ็บ1
ก่อเหตุในกรมยุทธศึกษา
ตร.คุมตัว/ตั้งข้อหาหนัก
พบเคยรักษาด้านจิตเวช
“จ่าคลั่ง” ยิงกราดในกรมยุทธศึกษาทหารบก ลั่นจะยิงให้ครบ 10 คน ส่งผลให้เพื่อนทหารดับ 2 เจ็บ 1 ตร.เข้าควบคุมสถานการณ์ก่อนจับกุมตัวได้ รุดสอบหามูลเหตุจูงใจ
พบประวัติเคยรักษาด้านจิตเวช จ่อตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ด้าน รัฐบาล-ทบ.แสดงความเสียใจผู้สูญเสีย กลาโหมสั่งดูแลผู้บาดเจ็บ เยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต ย้ำมาตรการความปลอดภัยหน่วยงานในสังกัด หวั่นเกิดเหตุซ้ำ
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 14 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุยิงกันภายในวิทยาลัยการทัพบก กรมยุทธศึกษาทหารบก ถนนเทอดดำริ แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม.ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ โดยผู้ก่อเหตุถืออาวุธปืนอยู่และประกาศว่าจะยิงให้ครบ 10 คน ภายหลังตำรวจ สน.ดุสิต ได้รับแจ้งเหตุ ในเบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุรายนี้ คือ จ.ส.อ.ยงยุทธ มังกรกิมอายุ 59 ปี เสมียนวิทยาลัยการทัพบกจึงมีการประสานกำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษ เข้าควบคุมสถานการณ์และติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุรายนี้
ต่อมา ภายหลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ได้เข้าไประงับเหตุดังกล่าว ที่สุดก็สามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุรายนี้ไว้ได้แล้ว ก่อนจะคุมตัวไปสอบสวนดำเนินคดี
สำหรับผู้ที่ถูกยิงเสียชีวิตทราบชื่อคือ จ.ส.อ.นพรัตน์ อินทสุนทร และ จ.ส.อ.ประการ สินส่ง เสมียนวิทยาลัยการทัพบก ส่วนผู้ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บคือ จ.ส.อ.ยงยุทธ์ ปัญญานุวัฒน์ เสมียนวิทยาลัยการทัพบก
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะพัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)กล่าวถึงเหตุยิงกันในครั้งนี้ ว่าภายหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามยุทธวิธี โดยคำนึงถึงความปลอดภัย โดยทางเจ้าหน้าที่สามารถเข้าควบคุมสถานการณ์และจับกุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้แล้วขณะนี้ได้มีการสอบปากคำ ก่อนจะพิจารณาดำเนินคดีต่อไป ส่วนเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ รวมทั้งแพทย์ที่จะร่วมชันสูตรศพผู้เสียชีวิต เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดไปประกอบสำนวนการสอบสวน
ขณะที่พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น.กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนเตรียมแจ้งข้อหา จ.ส.อ.ยงยุทธ ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนมูลเหตุยังอยู่ระหว่างสอบสวนรวบรวมหลักฐาน อย่างไรก็ดี ในเบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่าจ.ส.อ.คนดังกล่าวมีประวัติการรักษาเกี่ยวกับจิตเวชโดยทันทีที่ทราบเหตุ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น.ได้สั่งการให้ตำรวจในท้องที่รับผิดชอบ เร่งระงับเหตุเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และเข้าเจรจาให้คนร้ายยอมมอบตัว โดยดำเนินการตามยุทธวิธี ก่อนที่เหตุการณ์จะคลี่คลายโดยไม่มีประชาชนได้รับอันตรายจากเหตุดังกล่าว
ส่วนการสอบสวนนั้น แม้ว่าผู้ก่อเหตุเคยรับการรักษาตัวด้านจิตเวช แต่พนักงานสอบสวนก็จะรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งหมด เพื่อให้คลายข้อสงสัย หากพบว่ามีความผิดใด ก็จะร่วมกับนายทหารพระธรรมนูญ ดำเนินคดีตามกระบวนการ ก่อนเข้าสู่การพิจารณาคดีของศาลทหารต่อไป
ขณะเดียวกัน พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ชี้แจงถึงเหตุยิงกันภายในกรมยุทธศึกษาทหารบก ว่าขณะนี้ผู้ก่อเหตุถูกคุมตัวไว้ที่หน่วยงานต้นสังกัด มีสารวัตรทหารกับทางตำรวจ สอบสวนหาสาเหตุ แรงจูงใจ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาเพราะมีเรื่องสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ก่อเหตุและปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้อง แต่เบื้องต้นทราบว่าน่าจะเกิดจากผู้ก่อเหตุมีปัญหาความเครียด และปัญหาสุขภาพ ส่วนความสัมพันธ์กับเหยื่อก็ไม่ได้มีเหตุทะเลาะเบาะแว้งกัน ดูจากพฤติกรรมคงเป็นลักษณะที่ว่าเจอใครก็ดำเนินการทั้งนี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ.ได้สั่งการให้หน่วยต้นสังกัดดูแลผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ ส่วนผู้เสียชีวิตก็จะอำนวยความสะดวกต่างๆ ในเรื่องของการเยียวยา การจัดการพิธีศพ รวมถึงเรื่องคดี
ที่ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุยิงกันที่กรมยุทธศึกษาทหารบก ว่าต้องว่าไปตามกฎหมาย ต้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ ส่วนสาเหตุในการก่อเหตุนั้นตนยังไม่ทราบ ยังไม่ได้รับรายงานในรายละเอียด
ผู้สื่อข่าวถามว่าจำเป็นต้องมีการพิจารณาเรื่องอาวุธประจำกายของทหารในการเข้าปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า คนที่จะพกปืนเราก็ไม่รู้ได้ว่าใครพกบ้าง ก็ต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบดูแล โดยเฉพาะการเดินทางเข้ามาทำงานก็เป็นเรื่องของแต่ละหน่วยงานเมื่อถามว่าจะหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอย่างไร พล.อ.ประวิตร ย้อนถามว่าแล้วจะให้ป้องกันอย่างไร
ด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต กรณีจ.ส.อ.ยงยุทธก่อเหตุยิงทหารเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้รัฐบาลโดยกระทรวงกลาโหม และจากข้อสั่งการของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหมได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลรักษาผู้บาดเจ็บอย่างดีที่สุด และดำเนินการเกี่ยวกับการจัดการศพของผู้เสียชีวิตตามระเบียบราชการ รวมทั้งให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนทางคดี เพื่อหาสาเหตุแรงจูงใจในการก่อเหตุ พร้อมเน้นย้ำให้ผู้บังคับบัญชาเอาใจใส่ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา กำชับเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยของหน่วยงานให้ปฏิบัติตามมาตรอย่างเคร่งครัด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี