วันที่ 20 กันยายน 2565 เวลา 14.15 น. ตำรวจภูธรภาค 7 ร่วมกันแภลงผลการจับกุมผู้ต้องหาขนวัตถุระเบิดผ่านด่านตรวจ สภ.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ผบช.ภ.7,พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมารอง ผบช.ภ.7,พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว นครปฐม,พล.ต.ต.ปรีดา อิ่มเจริญผบก.ศฝร.ภ.7 พร้อมด้วยชุดพิสูจน์หลักฐาน7 ร่วมแถลงคดีจากเหตุการณ์ ช่วงเวลาประมาณ 03.50 น.(19กย.65) ได้รับแจ้งว่าพบรถยนต์กระบะท่าทางมีพิรุธได้ขับขี่ผ่าน

จุดสกัดบริเวณหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ต.สนามจันทร์ อ.เมือง จ.นครปฐม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสกัดและขอตรวจค้น รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็ค สีบอร์นเงิน ทางคนขับรถกระบะคันดังกล่าวได้ทำการจอด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าตรวจค้นพบภายในรถมีผู้โดยสารมาด้วยจำนวน 2 คน เป็นชาย ยอมให้ทำการตรวจค้น ทราบชื่อคนขับและผู้โดยสารมาด้วยกันในรถกระบะคันดังกล่าว 1.นายวี อายุ 54 ปี ,2.นายศักดา อายุ 47 ปี  3.นายบุญเจิด  อายุ 47 ปี  ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบพบภายในรถกระบะ พบ ลูกระเบิดขว้างแบบสังหารบุคคล MK2 จำนวน 1 ลูก ,ลูกระเบิดขว้างแบบสังหารบุคคล M26 จำนวน 1 ลูก , เครื่องกระสุนปืนขนาด .45  จำนวน 217 นัด , เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 60 นัด , เครื่องกระสุนปืนขนาด 7.65 มม.  จำนวน 19 นัด, เครื่องกระสุนปืนขนาด 7.62 x 39 มม.  จำนวน 75 นัด , เครื่องกระสุนปืนขนาด 5.56 x 45 มม.จำนวน 95 นัด , แม็กกาซีน 7.65 มม.  จำนวน 2 อัน , แม็กกาซีน m16  จำนวน 2 อัน , กระเป๋าลายพรางทหาร จำนวน 1 ใบ

โดยของกลางลูกระเบิดขว้างแบบสังหารบุคคล MK2 จำนวน 1 ลูก และ 2 ลูกระเบิดขว้างแบบสังหารบุคคล M26 จำนวน 1 ลูก บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีแดง ซุกซ่อนอยู่ในช่องเก็บของด้านหน้าฝั่งผู้โดยสาร, พบของกลางลำดับที่ 3 เครื่องกระสุนปืนขนาด .45 อยู่ในกล่องเครื่องกระสุนปืนยี่ห้อ Bullet Master จำนวน 4 กล่อง กล่องละ 50 นัด และอยู่นอกกล่องเครื่องกระสุนปืน จำนวน 17 นัด รวม 217 นัด โดยของกลางทั้งหมดถูกห่อด้วยถุงพลาสติกสีขาวบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกแบบหูหิ้วสีน้ำตาล วางอยู่บนพื้นที่วางเท้าด้านหน้าฝั่งผู้โดยสาร และพบของกลางลำดับที่ 4, 5, 6, 7, 8 และ 9 ใส่อยู่ในถุงพลาสติกแบบหิ้ว สีใสขุ่น โดยใส่อยู่ในของกลางลำดับที 10 ซึ่งวางอยู่บนพื้นที่วางเท้าด้านหน้าฝั่งผู้โดยสารพบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของนายศักดา  จำนวน 1 แผ่น ,สมุดเงินฝากออมทรัพย์ธนาคารกสิกรไทย , สมุดบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ อยู่ในกระเป๋าของลำดับที่ 10 ด้วย

เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสอบถามนายวีฯ ให้การว่านายศักดาฯ ได้ขอยืมรถของตนเดินทางไป จ.ปทุมธานี เพื่อไปทำธุระ แต่ตนเองเป็นห่วงรถจึงได้อาสาขับรถพานายนายศักดาฯ ไปด้วยจึงให้การปฏิเสธว่าของกลางทั้งหมดไม่ใช่ของตน จากการสอบถามนายศักดาฯ ให้การยอมรับว่าของกลางทั้งหมดเป็นของตนเอง แต่ตนเองไม่รู้ว่าในถุงสีแดง เป็นลูกระเบิด และไม่รู้ว่าของเป็นเครื่องกระสุนปืนขนาด 7.62 x 39 มม. จำนวน 75 นัด และเครื่องกระสุนปืนขนาด 5.56 x 45 มม. จำนวน 95 นัด อยู่ในถุงพลาสติกใสขุ่นที่ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าโดยของกลางทั้งหมด นายต้น(ไม่ทราบชื่อนามสกุล)บอกจุดและตำแหน่งที่ตั้งของกลางทั้งหมดว่าอยู่ที่บริเวณริมถนนสาธารณะใกล้เคียง อบต.พยอม เพื่อที่จะนำไปขาย

จากการสอบถามนายบุญเจิดฯ ให้การว่า ตนได้โดยสารรถคันดังกล่าวเพื่อไปเป็นเพื่อน นายศักดาฯ และให้การปฏิเสธว่าของกลางทั้งหมดไม่ใช่ของตน  และให้การณ์อีกว่าได้ไปขนวัตถุระเบิดทั้งหมดมาจากจังหวัดนนทบุรีและกำลังจะเอาไปส่งที่ อ.สังขละ จ.กาญจนบุรี  ไม่ได้บอกว่านำไปให้ใคร

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ส่งพนักงานสอบสวนพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน นอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ ไว้ในครอบครองและพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้พกพา)ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน นอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ ไว้ในครอบครองและพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้พกพา"

ในช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ EOD  กรรมการสืบสวน ภ.จว.นครปฐม ได้รับการประสานจากสภ.เมืองนครปฐม ให้มาทำการเก็บกู้วัตถุระเบิด เจ้าหน้าที่EOD ได้เข้ามาตรวจสอบพบ วัตถุระเบิดแบบขว้างสังหารบุคล MK 2 จำนวน1ลูก M. 26 A1 จำนวน 1 ลูก จึงได้ทำการเก็บกู้นิรภัยเพื่อทำให้ปลอดภัย และได้ส่งมอบวัตถุระเบิดดังกล่าวให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม เพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป

หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการขยายผลต่อไปว่าวัตถุระเบิดพร้อมเครื่องกระสุนปืนจำนวนมากได้มาจากใครและจะนำไปส่งให้ใคร