ที่ห้องประชุมสายสุรี จุติกุล คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น สภาพนักงานมหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดโครงการเสวนา Reinventing KKU Campus โดยมี ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี นายกสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นประธานเปิดงาน พร้อมบรรยายพิเศษ โดยมี ผศ.ดร.สุรพล เนสุสินธุ์ ประธานสภาพนักงานมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวรายงาน มีผู้บริหารหน่วยงาน และบุคลากร ม.ขอนแก่น เข้ารับฟังการบรรยายกว่า400 คน
ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี นายกสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีเรื่องที่จะต้องทำเป็นจำนวนมาก การปรับปรุงครั้งนี้สืบเนื่องมาจากปัญหาของแคมปัสในอดีตที่มีหลายปัญหา เช่น ป่ารกทึบ แหล่งน้ำวัชพืชหนาแน่น
แหล่งที่อยู่อาศัยของบุคลากรไม่น่าอยู่อาคารสำนักงานบางหน่วยงานมีสภาพทรุดโทรม ขยะจำนวนมาก การจราจรหนาแน่น ที่จอดรถไม่เป็นระเบียบ ส่งผลต่อภูมิทัศน์โดยรอบ ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้ปรับปรุงแก้ไขปัญหามาโดยตลอด เช่น พื้นที่ป่ามีความเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม ปรับพื้นที่บึงสีฐานให้เป็นพื้นที่สันทนาการให้ประชาชนมาพักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย วิ่ง ปั่นจักรยานรวมถึงการใช้พื้นที่บึงสีฐานจัดงาน Festival ตลอดจนรื้ออาคารสำนักงาน และบ้านพักอาศัยของบุคลากรที่มีสภาพทรุดโทรม เพื่อปรับพื้นที่ให้สวยงาม สามารถใช้ประโยชน์ได้ และจัดการพื้นที่เก็บขยะให้มีระเบียบเป็นสัดส่วน
ดร.ณรงค์ชัยกล่าวต่อว่า โจทย์ใหญ่ของการปรับปรุงพื้นที่มหาวิทยาลัยครั้งนี้คือการทำโซนนิ่ง เน้นจุด KKU
สแควร์ จุดศูนย์กลางนักศึกษา พื้นที่การศึกษา เหล่านี้จะรวมกันเป็นแผน Reinventing KKU campus จะ ประกอบไปด้วย 1.ผังแม่บทมหาวิทยาลัยขอนแก่น 2.การจัดพื้นที่หอพักนักศึกษา3.การจัดพื้นที่ที่พักบุคลากร 4.การสร้างแลนด์มาร์กของมหาวิทยาลัย 5.การปรับปรุงคอมเพล็กซ์ 6. การปรับพื้นที่อาคารสิริคุณากร 7.การสร้างพื้นที่ที่จอดรถของมหาวิทยาลัย
ด้าน รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า หลังรับตำแหน่งอธิการบดี เรื่องแรกที่ต้องทำคือ ผังแม่บทมหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ Master Plan มหาวิทยาลัยขอนแก่น ฉบับล่าสุดอายุเกิน 20 ปีแล้ว จึงต้องทำผังแม่บทใหม่ให้สอดคล้องกับนโยบายของสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น เรื่องที่สอง แนวคิดการสร้างหอพักนักศึกษาเพิ่มในมหาวิทยาลัย เนื่องจากมีนักศึกษาระดับปริญญาตรี ระดับปริญญาโท และปริญญาเอก พักในหอพัก รวมเป็น 10,000 คน ยังคงมีนักศึกษาอีก 22,000 คนที่พักอยู่รอบๆ มหาวิทยาลัย ในสภาพแวดล้อมที่ดีบ้างไม่ดีบ้าง ราคาที่พักสูง จึงกำหนดพื้นที่บริเวณด้านทิศเหนือของมหาวิทยาลัย ประมาณ 11 ไร่ สามารถสร้างหอพัก 8 ชั้นได้ประมาณ 5 หลัง รองรับนักศึกษาได้ประมาณ 2,000 คน
อีกโซนอยู่หลังปั๊มน้ำมัน ประมาณ 13 ไร่ สามารถสร้างหอพักรองรับได้อีก 3,000 คน รวมสองโซนพักได้ประมาณ 5,000 คน ซึ่งจะไม่กระทบหอพักข้างนอกและจะสร้างพื้นที่ที่มีความร่มรื่นน่าอยู่มี co-space ที่สามารถนั่งประชุมหรือทำงานร่วมกันมีสนามกีฬาให้ได้ออกกำลังกาย และมีพื้นที่สันทนาการต่างๆ โดยจะเป็นห้องที่มีเครื่องปรับอากาศและห้องน้ำในตัว
เรื่องที่สาม คือที่พักสำหรับบุคลากรพื้นที่ South Campus Zone อยู่บริเวณตรงข้ามพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ แถบบึงสีฐาน สามารถสร้างอาคารหอพักบุคลากร 4 หลังในพื้นที่ 16.5 ไร่ จำนวนห้องพัก960 ห้อง ทั้งห้อง Single และห้อง Family เพิ่มพื้นที่ส่วนกลาง จะมีสระว่ายน้ำ มีสนามกีฬา มีส่วนพักผ่อน เพื่อให้บุคลากรใช้ชีวิตอยู่อย่างมีคุณภาพ มี working space มีที่พักอยู่ใกล้มีรถชัตเติลบัสวิ่งผ่านให้บริการ เรื่องที่สี่ Landmark ของมหาวิทยาลัย KKU Square เป็นจุดศูนย์รวมพล ศิษย์เก่ากลับมาเยือน แล้วจะมีจุดถ่ายภาพมีความผูกพัน สร้างความประทับใจ เป็นสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยขอนแก่นมีการออกแบบให้ทันสมัย สวยงามเหมาะต่อการใช้งาน และยังมีพื้นที่ด้านสวนรุกขชาติที่สามารถปรับพื้นที่ให้นักศึกษาได้ใช้พื้นที่ทำกิจกรรมได้อย่างเต็มที่ ทำสะพานทางเดินลอยฟ้าเชื่อมกับอาคารศูนย์สารสนเทศ และอาคาร
สิริคุณากรที่เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม
“เรื่องสุดท้ายคือที่จอดรถของมหาวิทยาลัย สำหรับผู้ใช้บริการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ โรงพยาบาลทันตกรรม ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ รวมทั้งรถของบุคลากร ในแต่ละวันมีรถเข้ามาวันละหลายพันคัน ร่วมกับเอกชนเข้ามาก่อสร้างลานจอดรถ ทำให้เกิดพื้นที่เชิงพาณิชย์เพื่อเป็นการสร้างรายได้อีกด้วย” รศ.นพ.ชาญชัยกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี