อย่าหาทำ! จยย.ข้ามเกาะกลางถนนปาดหน้ารถพ่วง รอดปาฏิหาริย์แต่ปางตาย จนท.แจงชาวบ้านแอบเปิดใช้เอง เสนอปิดจุดเสี่ยงเลี่ยงอุบัติเหตุ
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ณัฐพล พ่อสาร รองสารวัตรสอบสวน สภ.ธาตุพนม จ.นครพนม รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ชนรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย บริเวณถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (ถนนชยางกูร) เยื้องโรงเรียนบ้านโปร่งหนองเปงใหม่จำปา บ้านหนองเปง หมู่ 6 ต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม ฝั่งมุ่งหน้าไปยัง จ.มุกดาหาร จึงประสานชุดกู้ชีพโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจสอบช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ
ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียนหัวลาก 70-2108 มุกดาหาร ลูกพ่วงทะเบียน 70-2109 มุกดาหาร ชนกับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีดำ ทะเบียน กลข 527 สมุทรสาคร ถูกชนลากกระแทกกับฟุตบาทริมถนน ด้านหน้าพังเสียหาย ส่วนคนขับรถจักรยานยนต์ และคนซ้อนได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ นางพรรธิภา พ่อสียา อายุ 56 ปี เป็นคนขับ ส่วนคนซ้อนคือ นางพัด จาดสุวัน อายุ 62 ปี ทั้งคู่เป็นชาว ต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบเก็บหลักฐานประกอบการดำเนินคดีตามกฎหมาย
เบื้องต้นจาการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบชื่อคนขับรถบรรทุกพ่วง คือ นายราตรี เสมอภักดิ์ อายุ 52 ปี เป็นชาว ต.เลิงนกทา อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร ให้การว่าขับรถกลับมาจากขนส่งปาล์มน้ำมันที่ จ.สกลนคร และมุ่งหน้ากลับไปยัง จ.มุกดาหาร เมื่อถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นจุดลงเนินถนน 4 เลน และมีการเปิดเกาะกลางถนน เพื่อให้รถจักรยานยนต์แล่นข้ามจากถนนฝั่งขวา ที่เป็นทางร่วมทางแยกเข้าหมู่บ้าน ทำให้รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ที่ขับซ้อนท้ายกลับมาจากเก็บเห็ดป่าไปขาย จากนั้นได้ขับรถจักรยานยนต์ข้ามเกาะกลางถนนจากเลนฝั่งขวา ข้ามมาฝั่งซ้ายโดยไม่ระมัดระวัง ในขณะที่รถบรรทุกวิ่งมาด้วยความเร็ว ในระยะกระชั้นชิด ทำให้รถบรรทุกพ่วงเบรกไม่ทัน พุ่งชนอย่างจัง เป็นเหตุให้คนขับรถจักรยานยนต์และคนซ้อนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนโดยละเอียดดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ จะได้มีการวางมาตรการป้องกัน เนื่องจากจุดข้ามเกาะกลางถนนดังกล่าว เป็นจุดข้ามเกาะกลางถนน ที่ชาวบ้านเปิดใช้กันเองโดยพละการนอกเหนือจากแบบโครงการสร้างถนน 4 เลน เพื่อความสะดวกของผู้ใช้รถจักรยานยนต์สัญจรไปมา แต่กลายเป็นเส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุ เกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บและเสียชีวิตบ่อยครั้ง โดยทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องและตัวแทนชาวบ้านได้เสนอให้มีการปิดถาวร เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำ
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี