"มท.1"ชี้หากมรสุมไม่ซ้ำเติม จัดการน้ำได้ ยันไม่ซ้ำรอยปี'54 เผยนายกฯ สั่งเร่งเยียวยาความเดือดร้อนปชช.
เมื่อเวลา 08.40 น.วันที่ 5 ตุลาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงสถานการณ์น้ำท่วม ว่า เราคาดว่ามวลน้ำ จะมาถึง จ.อุบลราชธานี วันที่ 8 ตุลาคมนี้ ซึ่งจะเป็นวันที่พีคสุด อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ระดับแม่น้ำโขงยังต่ำกว่าตลิ่ง ฉะนั้น จะเร่งระบายน้ำเพื่อลดผลกระทบของ จ.อุบลราชธานี ได้มากที่สุด ส่วนลุ่มน้ำเจ้าพระยา การระบายน้ำของเขื่อนชัยนาทและเขื่อนเจ้าพระยา เมื่อบวกกับแม่น้ำป่าสัก ปริมาณน้ำยังไม่ส่งผลกระทบต่อกรุงเทพมหานคร ถ้าไม่มีฝนเติมเข้ามาอีก
เมื่อถามว่า สถานการณ์น้ำภาพรวมจะไม่ซ้ำรอยกับปี 2554 ใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ต้องมีสมมติฐาน ถ้าไม่มีพายุหมุนฤดูร้อนเข้ามาอีก หรือร่องมรสุมพาดผ่าน ซึ่งขณะนี้คาดว่าจะมีร่องมรสุมที่มาจากอิทธิพลความกดอากาศจากประเทศจีน ทำให้ร่องมรสุมต่ำทำให้เกิดฝนทางภาคใต้ของไทย ถ้าเป็นอย่างนั้น ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือจะได้รับผลกระทบน้อย ส่วนปี 2554 มีพายุหมุนฤดูร้อน 3 ลูก และมีร่องมรสุมพาดผ่านติดต่อกัน 3 ครั้ง จึงทำให้มีฝนมาก และระบายน้ำไม่ทัน แต่ปีนี้จะหนักในบริเวณน้ำไหลผ่าน ถ้าไม่มีมรสุมหรือร่องมรสุมเข้ามาอีก จะสามารถบริหารจัดการน้ำได้
เมื่อถามว่า ทุกพื้นที่มีแผนการรับมือ และแผนการเยียวยาประชาชนไว้พร้อมแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เมื่อเรารู้สถานการณ์น้ำก็จะต้องประเมิน สถานการณ์ เมื่อทราบว่ามวลน้ำอยู่ที่ไหนแล้วจะส่งผลกระทบต่อประชาชนในเรื่องที่อยู่อาศัย การดำรงชีวิต และการสัญจร เราต้องเตรียมการ เช่นที่พักพิงและการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ให้พร้อม ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ในทุกพื้นที่ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายร่วมกันดำเนินการ ส่วนเรื่องแผนเยียวยาเรามีระเบียบกระทรวงการคลังอยู่แล้วว่าจะทำอย่างไร โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการว่า ถ้าเริ่มฟื้นฟูเยียวยาได้ ก็ให้เร่งสำรวจความเสียหายโดยเร็ว ดังนั้นทุกฝ่ายเตรียมการเรื่องข้อมูลในทุกพื้นที่ไว้แล้ว จะเร่งสำรวจและเร่งจ่ายเงินเยียวยาโดยเฉพาะเรื่องที่อยู่ที่อาศัยที่จะเข้าไปซ่อมแซม
เมื่อถามถึงกรณีที่ชาวบ้านเกิดความขัดแย้งให้ระบายน้ำ จะทำความเข้าใจอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ประชาชนบางส่วนไม่อยากให้ปล่อยน้ำไปที่ทุ่ง ต้องสร้างความเข้าใจว่า เราไม่สามารถยั้งน้ำเหนือได้ อย่างไรก็ต้องไหลผ่าน ถ้าไม่เปิดก็อาจจะท่วม และเปิดประตูระบายน้ำ ฉะนั้นต้องปล่อย ในขณะที่ชาวบ้านบางคนขอให้ทยอยปล่อย เพื่อให้น้ำทยอยไป และส่งผลกระทบน้อยลง ถ้าปล่อยมากจะได้รับผลกระทบมาก ฉะนั้นจึงต้องสร้างความเข้าใจต่อประชาชนว่าเราต้องปล่อยเพื่อให้น้ำผ่านไปทัน ไม่ใช่ปล่อยจนกระทบมาก โดยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ดูแลเรื่องนี้เพราะน้ำจะเชื่อมต่อกันหมด จึงต้องดูว่าจะเปิดหรือปล่อยน้ำที่ไหน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี