เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2565 จากกรณี น.ส.สมศรี ยิ้มแฉล้ม ลูกจ้างประจำตำแหน่งพนักงานทั่วไป (กวาด) ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ สำนักงานเขตสะพานสูง ที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยรถคันที่ก่อเหตุได้ขับหลบหนีไป บริเวณถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก แขวงและเขตสะพานสูง เมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดวันนี้ พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ได้ประสานงานกับตำรวจ สน.บางชัน และขอขอบคุณ พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. (น.3) ที่ช่วยในการประสานงานไล่ดูกล้อง CCTV ด้วยตนเอง ที่เกิดเหตุเป็นถนนเลนเดียวไม่มีทางแยกไปทางอื่น ทำให้เกิดความสะดวกในการไล่กล้อง แต่ตอนเกิดเหตุอยู่ในช่วงเช้าเห็นรถแต่ไม่เห็นทะเบียนรถ ไปได้ทะเบียนรถที่ศูนย์บริการสินค้าของขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งมีปัญหาเรื่องเวลาที่ปรากฏในกล้องทั้งของ กทม.และตำรวจ ไม่ตรงกัน จะได้มีการปรับคุณภาพกล้องให้สามารถใช้งานได้ร่วมกัน โดยเฉพาะกล้องของเอกชนที่มีอยู่หลายแสนตัวใช้กับการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ กทม.ให้เกิดประโยชน์ได้
ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุให้การว่า กำลังจะขับรถไปรับสินค้า แต่เผลอมองโทรศัพท์มือถือ ทำให้รถเสียหลักไปชนคุณสมศรี ขณะที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ เวลาประมาณ 05.10 - 05.15 น.และไม่ได้จอดรถเพื่อจะลงไปช่วยนำส่งโรงพยาบาล ถ้าจอดรถและลงไปดูน่าจะช่วยชีวิตได้ถ้าชนไม่หนัก ที่สำคัญคือ ไม่แจ้งเหตุให้กับเจ้าหน้าที่ได้ทราบ ก็ยังไปทำงานต่อและขับรถกลับไปบ้าน
สำหรับการติดตามคนขับรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนหาข่าว จนรู้ถึงรถยนต์กระบะที่ก่อเหตุ คือ รถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3ฒฎ-4420 กรุงเทพมหานคร มี นายอรรคพล นิมะ เป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าจับกุมตัวนายอรรคพล ที่บ้านพัก เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร ท้องที่ สน.บางชัน โดยใช้เวลาในการสืบสวนจับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้ภายใน 24 ชั่วโมง
ขณะที่ นายชัชขาติ สิทธิพันธุ์ กล่าวว่า กรณีพี่สมศรี เราไม่รู้หรอกว่าคนชนจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตในพงหญ้า เพราะไม่มีใครเห็น แต่ต้องลงมาช่วยคนเจ็บก่อน เพราะถ้าเกิดไม่เสียชีวิตยังบาดเจ็บอยู่ ยังพอช่วยได้ ตนว่าเป็นเรื่องสำคัญ
"เมื่อวานพอได้ทราบข่าว ผมก็ได้ประสานงาน พล.ต.อ.อดิศร์ ว่ายังไงก็ต้องจับให้ได้ จะมาทำคนของเราแบบนี้ไม่ได้ แล้วเราเป็น กทม.รับผิดชอบพื้นที่อยู่ ถ้ายังสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนไม่ได้ก็ไม่มีทาง ช่วงเสี้ยววินาทีมันเปลี่ยนชีวิตได้ทั้ง 2 คน ทั้งคนขับและคนถูกชน ก็ต้องระวังเรื่องการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ มันเปลี่ยนชีวิตได้ทั้งตัวเราและครอบครัว ก็ถือว่าเป็นสิ่งเตือนใจระหว่างที่ใช้รถใช้ถนน สุดท้ายก็คงต้องมีกระบวนการในการทำงานต่อไป ทางเราก็ต้องดูแลพี่น้องดูแลเพื่อนร่วมงานเราอย่างเต็มที่ ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่เราปล่อยให้ผ่านไปไม่ได้" นายชัชชาติ กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี