ล่าหนุ่มใหญ่หึงโหด ยิงเมียดับแค้น โทษฐานตีตัวออกห่าง ลูกผู้ตายร่ำไห้ เปิดคลิปสวนญาติมือฆ่า ไหนบอกว่าเป็นคนดี -ไม่เคยฆ่าแม้แต่มด!!
กรณี “นายสถาพร ขาวเผือก” อายุ 60 ปี บุกไปยิง “นางครองกมล” อดีตภรรยาดับแค้นกลางลานจอดรถคอนโดแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง เหตุผู้ตายตีตัวออกห่าง เพราะรับไม่ได้ที่ถูกนายสถาพรทำร้ายร่างกายอย่างหนัก ขณะนี้ตร.อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี
รายการโหนกระแสวันที่ 11 ต.ค. 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ได้สัมภาษณ์ เอ ลูกสาวผู้เสียชีวิตที่มาพร้อม บี แฟนหนุ่ม รวมทั้ง ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโส สำนักงานสอบสวน
เรื่องราวเกิดอะไรขึ้น?
เอ : วันที่เกิดเหตุ ทางเรากับคุณแม่ไปทานข้าวกันที่เซ็นทรัลเวิลด์ พอกลับกันมา 3 คน ไม่มีเหตุการณ์อะไร ทุกอย่างปกติ ไม่มีการโทรศัพท์อะไรมาทั้งนั้น พอเลี้ยวไปที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน พอช่องที่จอดรถ คอนโดมันแคบ ก็บอกคุณแม่ว่าให้คุณแม่ลงจากรถกันไปก่อน โดยให้แฟนเป็นคนถอยเข้า หนูเดินลงจากรถมาเพื่อดูทางให้เขา หนูยืนหันหลังให้ผู้ต้องหาที่เดินมา ได้ยินเสียงคุณแม่พูดว่าน้องเอ ลุงพงษ์ หนูก็หันไป แล้วเจอเขา ยืนไขว้หลังเข้ามา จากนั้นชุลมุนมาก ไม่รู้หนูล้มกับคุณแม่ยังไง คุณแม่ผลักค่ะ พอล้มก็พยายามหาว่าเขาอยู่ไหน พอหันซ้ายปืนหันมาจ่อทางหนู แล้วกระสุนเขายิงแล้วกระเด็นออก เหมือนขัดลำกล้องค่ะ
นัดแรกหนูอยู่ข้างหน้า พอเขายิงไม่ออก เขาก็ยิงขึ้นลำใหม่ ดีดลูกเก่าออก?
เอ : ใช่ค่ะ จังหวะนั้นก็ได้ยินเสียงแม่บอกว่าหนีไปลูก (ร้องไห้) หนูก็คิดว่าแม่จะวิ่งตามขึ้นมา แต่ไม่ใช่ค่ะ (ร้องไห้) หนูได้ยินเสียงปืนหนึ่งนัด (ร้องไห้)
คุณแม่กับชายคนนี้ ไปรู้จักกันได้ยังไง?
เอ : คุณแม่ตอนแรกอยู่กรุงเทพฯ ค่ะ แต่เนื่องจากยายมีอายุค่อนข้างเยอะแล้ว แม่ก็เลยบอกว่าจะกลับไปอยู่ที่ใต้นะ หนูก็โอเค แม่ก็ยอมขายบ้านเพื่อกลับไปดูแลยาย อันนี้นานแล้วค่ะ น่าจะเกือบ 10 ปี แต่เพิ่งมารู้จักผู้ชายคนนี้เมื่อสองปีที่ผ่านมานี้เอง เรื่องที่เขารู้จักกันยังไง แม่เล่าให้ฟังว่าแม่กำลังจะเปิดคาเฟ่ ซึ่งมีคาเฟ่อยู่ข้างๆ บ้าน แม่พยายามขยับขยายร้าน ก็ไม่รู้ไปรู้จักคนนี้ได้ยังไง แฟนแม่เปิดร้านเกี่ยวกับอลูมิเนียม แม่ก็ไปซื้อสีบ้าง ซึ่งธุรกิจคุณแม่เปิดอยู่แล้ว เขามารู้จักทีหลัง หนูไม่ทราบเลยว่าเขาคบกันยังไง แต่มาทราบอีกทีคือเขามาบอกหนูว่าจะแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ เขาอายุ 60 ปี
คุณพงษ์ สถาพร ขาวเผือก มีหมายจับแล้ว ขออนุญาตเปิดหน้าเพื่อเป็นประโยชน์กับทางราชการ ตอนนี้ตร.กำลังตามหาตัวอยู่ ผู้สูญเสียเขายืนยันว่าเป็นท่านนี้ แต่คุณพงษ์ ณ วันนี้ถ้าไม่ใช่คุณก็ต้องมาชี้แจง จะเป็นประโยชน์กับราชการและคนโดยรอบ เพราะถ้าเขามีอาวุธปืนอยู่อันตราย หลังจากนั้นทั้งสองท่านแต่งงานกันมั้ย?
เอ : คุณแม่แต่งเมื่อประมาณปี 63 อยู่กินกัน 2 ปี จนถึงปีนี้ ระหว่างคบกัน แม่ก็ไม่ได้เล่าว่าชีวิตเป็นยังไงบ้าง แต่น้อยครั้งจะโทรมาหาลูก จะโทรมาว่าชีวิตเราเป็นยังไง จนกระทั่งคุณยายเสีย หนูเดินทางไปที่นครศรีธรรมราช ยายเสีย 11 หนูไปวันที่ 12 หลังคุณลุงคนนี้มารับหนูที่สนามบินกับคุณแม่ ก็ยังไม่ได้มีอะไรผิดปกติ พอไปส่งตัวผู้ชายที่บ้านแล้ว แม่ร้องไห้โฮกับหนูเลยว่า แม่ถูกทำร้ายร่างกาย ข้างหน้าเขียวหมดเลย หน้าอกมีรอยกระแทก หน้าท้อง ต้นขา บอบช้ำหมดเลย (ร้องไห้) ทั้งชีวิตหนูไม่เคยเห็นแม่เป็นแบบนี้เลย หนูก็ถามแม่ว่าจะทำยังไง แม่บอกว่าขอจัดงานศพให้เสร็จนะ แม่รู้ว่าเขาเป็นคนที่เลวร้ายมาก ถ้าบอกเขาตอนนี้ เขาไม่มีทางปล่อยให้แม่มีชีวิตรอด
แม่เคยพูดว่าเขาไม่มีทางให้คุณแม่มีชีวิตรอดแน่นอน เขารุนแรงขนาดนั้นเลยเหรอ?
เอ : ใช่ค่ะ ปกติภายนอกหนูรู้จักเขา เขาเป็นคนนิ่งๆ พูดจาดี อ่อนโยน แม่บอกว่าหลังจัดงานศพยาย พาแม่ไปอยู่ด้วยนะลูก (ร้องไห้) เพราะอยู่ที่นี่ไม่ได้ (ร้องไห้) เขาโดนตีจนแบบว่า...แล้วทั้งชีวิตแม่ไม่เคยขอความช่วยเหลือจากหนูเลยสักครั้ง (ร้องไห้) หนูเลยคิดว่างั้นครั้งนี้หนูจะช่วยแม่ เผายายเสร็จวันที่ 18 วันที่ 19 หนูกับแม่ไปเก็บกระดูกยายตั้งแต่เช้า ยังไม่ได้ลาญาติก็ต้องรีบขับรถมากรุงเทพฯ กัน (ร้องไห้)
ปรากฏเขารู้ เขาทำยังไงในครั้งนั้น นี่คือเดือนส.ค. ที่ผ่านมา แต่แม่ถูกทำร้ายร่างกายมาตลอด แต่ที่หนีมากรุงเทพฯ เลยคือวันที่เท่าไหร่?
เอ : 19 ส.ค. แล้วหลังจากนั้นเขาก็ตามขึ้นมา เขาส่งรูปมาที่มือถือคุณแม่ ว่ามีการติดตามนะ จับสัญญาณโทรศัพท์ ซึ่งเขาบอกว่าเขามีพรรคพวกที่เป็นตร.เยอะ สามารถเช็กได้ แค่พิมพ์เลขหรือบัตรประชาชนแม่ รู้หมดเลยว่าใช่เบอร์ไหนยังไง เราก็ไม่รู้เขาให้ใครช่วย จนเขาตามมา ถ่ายรูปหน้าคอนโด ทางเข้า เขารู้หมดเลย เขาบอกว่ามีนักสืบ ที่จะรู้ทุกที่ที่แม่อยู่ในประเทศไทย เราก็กลัวระดับหนึ่งค่ะ จนวันที่ 26 เขามาหาหนูข้างล่างที่คอนโดแรก หนูเพิ่งย้ายมาหนีเขานี่แหละค่ะ เขามาเพื่อถามถึงแม่ หนูลงจากรถมาก็เจอเขาเลยค่ะ แต่วันนั้นเขาไม่ได้พกพาอาวุธ พูดจากันดี ว่าเขาจะมาขอพาแม่กลับบ้านนะ เขาจะขายบ้านเขาทั้งหมดเลยที่พัทลุงเพื่อมาอยู่กับแม่หนูที่นครศรีฯ จะไม่ไปไหนแล้ว ซึ่งคุณแม่ยืนยันว่าไม่กลับ เพราะถ้าแม่ไปแม่ตายแน่ๆ ที่แม่กล้าพูดแบบนี้ เพราะภรรยาเขาทุกคน ไปถามได้เลย โดนทำร้ายทุบตีมาทุกคน อันนี้คือญาติฝั่งหนูเล่าให้ฟัง ทุกคนเตือนแม่แล้ว แต่แม่ไม่เคยเจอว่าเขาเป็นคนยังไง
เขาเจอแม่มั้ยครั้งนั้น?
เอ : ไม่เจอค่ะ พอเขาเจอหนู หนูก็ไม่ให้แม่ลงมา แม่ก็เจรจราเกลี้ยกล่อมให้เขากลับไป จนวันนั้นเขาหายไปพักนึง หนูก็ไม่รู้ตัวว่าเขาตามหรือไม่ตาม วันที่ 6 ก.ย. ปกติหนูจะโทรหาแม่ว่าทำอะไรอยู่ กินข้าวหรือยัง พอไปทำงานเสร็จ ก็โทรหาแม่ แต่โทรไม่ติด ก็คิดว่าแม่ไม่สายอะไรเลย ยังคุยกับแฟนอยู่เลย ตอนนั้นเราอยู่คอนโดเดิม วันนั้นก็รอว่าเมื่อไหร่แม่จะโทรมา จน 6 โมงเย็น มีเสียงผู้ชายคนนี้โทรมาหาหนูว่ามารับตัวแม่กลับบ้านนะ กำลังจะกลับพัทลุงไปอยู่ที่ใต้ ไม่ต้องเป็นห่วง หนูได้ยินเสียงในสายเป็นเสียงคุณแม่ร้องไห้ หนูก็บอกว่าขอคุยกับแม่หน่อย ก็ถามว่าแม่จะกลับกับเขามั้ย ก็ได้ยินเสียงแม่ร้องไห้ แล้วบอกว่าช่วยด้วย (ร้องไห้) หนูเลยตัดสินใจไปแจ้งความที่สน.ห้วยขวางตั้งแต่วันนั้นเลย เพราะหนูไม่เชื่อว่าแม่เต็มใจไปกับเขา วันที่ 6 ไปแจ้งความทันที ตอนสองทุ่ม ตร.ไม่รับแจ้งความ
บี : เขาบอกว่าไม่ถึง 24 ชม.
เอ : หนูขับรถไปวิ่งไปหา บอกว่าช่วยแม่หนูด้วย (ร้องไห้) ตร.บอกแค่ว่าไปหาหลักฐานมาก่อน หนูบอกว่าหนูไม่มีหลักฐานอะไรเลย แต่พอวันที่ 7 มีตร.ท่านนึงชื่อผู้กองดิลก พอเจอหนูปุ๊บเขาให้ความร่วมมือดีมาก เขาบอกว่าไม่เป็นไรนะเดี๋ยวดูแลให้ (ร้องไห้) เขาตกลงกับหนูว่าจะพาแม่มาส่ง หนูบอกว่าหนูแจ้งความแล้วที่สน. วันที่ 8 แม่พยายามคุยกับเขาว่าให้พามาส่งนะ ลูกจะได้ไม่เอาความ วันที่ 8 ก.ย. นัดมาเจอที่สน.ห้วยขวาง เขาก็ปล่อยแม่หนูมา จอดรถเลยสน. ไป แม่ก็วิ่งมาหาหนูบอกว่าให้ระวังตัว ตร.รู้อยู่แล้วว่าเขามีปืน เพราะตอนที่หนูคุยกับแม่ แม่บอกว่าแม่พูดอะไรมากไม่ได้ แม่อันตราย หนูถามว่าทำไมอันตราย เขามีปืนหรือยังไง แม่ก็บอกว่าใช่ น่าจะเป็นสายตรวจไปตรวจรถเขาแล้วก็เจอปืน
เขาถูกแจ้งข้อกล่าวหาพกอาวุธปืนมั้ย?
เอ : ใช่ค่ะ ปืนไม่มีเลขทะเบียน น่าจะเป็นปืนเถื่อน ตอนนั้นยังไม่ได้โดนคดีกักขังหน่วงเหนี่ยว แล้วเขาน่าจะโดนเข้าคุก 1 วัน มีญาติมายื่นประกันตัว ทีแรกหนูเป็นห่วงความปลอดภัยของหนูกับแม่และแฟนด้วย ก็ขอคัดค้านการประกันตัวได้มั้ย ตร.ก็ทำเรื่องไปขอคัดค้าน แต่ทางศาลให้ประกันตัวออกมา
ปรเมศวร์ : เข้าใจว่าตอนฝากขังเฉพาะข้อหาปืน ยังไม่มีข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขัง แล้วไม่มีพฤติการณ์ในคำร้องที่ว่าเขาเคยทำร้ายคุณแม่มาก่อน ศาลก็เลยเห็นว่าแค่ปืน อาจให้ประกัน ต้องกลับไปดูว่าวันที่แจ้งความวันแรก แจ้งความอะไรบ้าง ควรตั้งข้อหาตั้งแต่ทีแรกว่าหน่วงเหนี่ยวกักขัง แต่ตร.ไม่รับแจ้ง บอกว่าไม่ใช่ 24 ชม. เรื่อง 24 ชม. มันเฉพาะคนหายออกจากบ้าน แต่น้องเขาไปแจ้งว่าแม่ถูกคนพาตัวไป แล้ว 24 ชม. แบบนี้เขาเลิกแล้ว คนหายชม.นึงเขาก็รับแจ้งไว้ก่อน
แล้วแบบนี้จะทำยังไง?
ปรเมศวร์ : ต้องดูว่าตร.คนไหนไม่ทำตามที่กฎหมายกำหนด ผิดนะ ไปแจ้งว่าแม่ถูกลักพาตัว ทำให้สูญเสียเสรีภาพ ทำไมไม่รับแจ้ง
มันต่างกัน หายตัวออกจากบ้าน กับถูกลักพาตัวไป คนละเรื่องนะ?
ปรเมศวร์ : ผมว่าต้องสืบสวนให้ได้ว่าใครเป็นคนไม่รับแจ้ง
หลังจากนั้นเขาประกันตัวออกมา เรามีคลิปบางตอนที่คุณแม่ถูกจับตัวไป ในช่วงวันที่ 7 ก.ย.?
เอ : แล้วเขาก็ปิดโทรศัพท์ทันที เพื่อไม่ให้ใครติดตามสัญญาณเขาได้ เขาฉลาดมากค่ะ
หลังจากนั้น วันที่ 1 ต.ค. ผู้ตายมีการโทรศัพท์ไปหาเพื่อนท่านนึงเป็นกำนัน แล้วระบายว่าเกิดเหตุอะไรกับเธอบ้าง โดยบอกว่าเขาไม่ได้เป็นคนปกติ เป็นคนประสาท เป็นหนี้เกิน 20 ล้าน บ้านจะถูกยึด คุณเอไม่เคยได้ยิน เพราะกำนันคนนี้ส่งมาให้เรา เป็นหลักฐานก่อนถูกยิงเสียชีวิต หลายกระแสข่าวที่บอกว่าแม่เป็นคนไปเอาเงินของเขา แต่พอฟังเมื่อสักครู่นี้ ยืนยันชัดเจนว่าฝ่ายชายนี่แหละ พยายามเอาเงินฝ่ายหญิงตลอดเวลา เรื่องการประกันปืนก็จะเอา 5 หมื่นถามเรื่องเงินทำบุญ ต้องใช้เงิน พยายามเอาเงินจากฝั่งแม่เราตลอด นี่ก็เปิดเผยข้อเท็จจริงออกมาว่าเกิดอะไรขึ้น วันเกิดเหตุการณ์ วันนั้นเราไปไหนกันมาก่อน?
เอ : เปิดคลิปเลยก็ได้ค่ะ จะได้รู้ว่าเขาทำยังไงกับแม่หนูบ้าง (ร้องไห้) หนูไหวค่ะ ให้ญาติๆ เขาดูว่าที่เขาให้ข่าวกับบางที่ ว่าน้องเขาเป็นคนดีมาก ไม่เคยทำร้ายใคร มดไม่เคยฆ่า อยากให้ดูตรงนี้ค่ะว่าเขาทำยังไงบ้าง
คุณเออยากให้เปิด เพราะอยากให้ญาติฝ่ายชายมาเห็นว่าที่บอกว่ามดสักตัวยังไม่เคยบีบเลย อยากให้เห็นต่อหน้า เขามาเฝ้าดูหลายหนแล้ว เขาใช้เวลาเดินทาง 7 นาทีจากที่เขาพักอยู่ ฝั่งคุณเปิ้ลเห็นและพยายามหนี ให้ลูกช่วย เขาชักปืนออกมา คุณเปิ้ลล้มลงไป คุณเปิ้ลบอกว่าให้คุณหนี?
เอ : ใช่ค่ะ หนูคิดว่าแม่จะวิ่งตามมา
เขาวิ่งตามคุณไปด้วยนะเพื่อจะยิงลูกเขย แล้วเชื่อว่าเขาเชื่อว่าคุณเองอยู่ในรถด้วย หลังจากนั้นก็ไปเรียกแท็กซี่หลบหนีไป?
ปรเมศวร์ : ต้องโดนข้อหาพยายามฆ่าด้วย เพราะวิ่งตามหลังรถไปจะยิง
เอ : ถ้าไม่เลี้ยวรถออกมา เขายิงแน่นอน
บี : ผมก็เพิ่งเห็นในคลิปว่าเขาตาม
วันนั้นคุณบีเองอยู่บนรถ คุณต้องเห็นเหตุการณ์?
บี : เห็นหมดทุกอย่างครับ
ตร.ไม่รับแจ้งความตั้งแต่แรก อาจารย์มองยังไง?
ปรเมศวร์ : เป็นความผิด เคยมีคำพิพากษาฎีกา ตร.ไม่รับแจ้ง ศาลลงโทษจำคุก 2 ปี แล้วไล่ออกด้วย นั่นคืออันที่หนึ่ง เรื่องนี้ผมว่าต้นเหตุถ้าคดีเดินได้ตั้งแต่วันนั้น เหตุการณ์นี้จะไม่เกิดเพราะเชื่อว่าตอนจับครั้งที่สอง จับเรื่องปืน เขาขอประกันตัว ให้ญาติมาประกันตัว ตร.คัดค้านประกันก็แค่คัดค้านเรื่องปืน แต่ไม่ได้เขียนพฤติกรรมเล่ามาตั้งแต่ต้น สมมติมีการสอบสวนเชื่อว่าถูกลักพาตัวไป เชื่อว่าน้องเอคนเล่าว่าคุณแม่ช้ำอย่างไร และข้อมูลนั้นมันก็จะอยู่ในคำร้องคัดค้านประกัน ถ้าเป็นแบบนั้นศาลจะไม่ให้ประกัน แต่ไม่มีการทำสำนวนตรงนี้ยื่นไป มีแค่เรื่องปืน ถ้าบอกศาลว่าลักพาตัว มีมูลเหตุจูงใจตั้งแต่ต้น พอไปจับแค่ปืน ค้านก็แค่มีปืน เขามองอย่างนั้น ถ้าผม ผมคิดว่าน่าจะเรียกร้องให้มีการสอบสวนในสน. ว่าใครบกพร่องในหน้าที่ นี่คืออันที่หนึ่งเลย แล้วข้อหาลักพาตัว เป็นข้อหาหนัก
ฝั่งโน้นไปบอกว่าแม่เราไปเอาของเขาต่างๆ นานา?
เอ : ใช่ค่ะ เขาบอกว่าฝั่งโน้นให้เงินแม่มา 3-4 ล้าน ซึ่งธุรกิจแม่สร้างของแม่มาอยู่แล้ว เขาเพิ่งมารู้จักแม่ทีหลังตอนแม่มีทุกอย่างแล้ว แต่เขาไปบอกญาติเขา ว่าเขาช่วยแม่สร้างหมดเลยทุกอย่าง ญาติพี่น้องเขาก็อาจจะเชื่อในแบบั้น แล้วร้านที่ทำที่พัทลุง เขาลงทุนให้จริงแต่รายได้ค่าใช้จ่ายแบ่งกันทุกอย่าง ไม่มีให้แม่มาคนเดียว เคยถามแม่ว่าช่วงนี้ไปเที่ยวกันมั้ย แม่บอกว่ายังไม่ไป อยากเก็บเงินมากกว่า เพราะปกติเวลาชวนแม่มา แม่จะบอกว่าได้เลยลูก มาทันที
บี : อาจมีคำถามจากสังคมว่าทำไมแม่ถึงยอมแต่งงานกับเขา คือผมกับแฟนมองว่าแม่ต้องดูแลยายก่อนที่จะเสีย ก็เหมือนเขาเข้ามาในสิ่งที่เป็นจุดอ่อนของแม่ มาช่วยดูแลยาย ยายติดโควิดเขาก็มาช่วยดูแลโดยไม่รังเกียจ น่าจะเป็นจุดอ่อนที่ทำให้แม่ยอมแต่งงานด้วยครับ
พอชายคนนี้ออกมาได้ ไปก่อเหตุอะไรก่อนมาสังหารแม่?
เอ : ที่บ้านไม่มีคนอยู่ มีบ้านใกล้ๆ ข้างหลังเป็นกระจก สามารถงัดเข้ามาได้เลย เขาขโมยกระเป๋าแบรนด์เนม นาฬิกา ซึ่งโจรเข้าไปต้องขโมยอย่างอื่น ทีวี ไมโครเวฟไม่หายเลย หายแค่กระเป๋าแบรนด์เนม นาฬิกา เครื่องประดับ แค่นี้ หายแค่ของที่ราคาแพง เราไม่มีหลักฐานพอที่จะบอกว่าเขาเป็นคนทำ ทีนี้ต่อคดีวางเพลิง เผาบ้าน คดีนี้น่าจะออกหมายจับแล้วที่นครฯ น่าจะลูกเขารับสารภาพว่าพ่อเขาเป็นคนทำ เผาที่บ้านแม่หลังเดียวกับที่โดนปล้นค่ะ แม่ก็เล่าให้ฟังว่าลูกชายเขารับสารภาพว่าพ่อเป็นคนทำ เขาก็โดนคดีวางเพลิงบ้านที่นครฯ
จากนั้นผู้เสียชีวิตโทรไปปรึกษากำนัน เพื่อนสนิท กำนันส่งคลิปเสียงมาให้ผม ผมก็เปิดไปแล้ว แม่บอกคำสุดท้ายว่าแม่ไม่โทษใครเลย แม่โทษตัวเอง ฝั่งผู้ก่อเหตุมีหนี้สิน 20 กว่าล้าน หวังเปิ้ล คุณแม่คุณเอเป็นที่พึ่งสุดท้าย จะเอาเงินจากคุณเปิ้ลไปใช้หนี้ พอคุณยายตายก็ถามแต่เงินทำบุญว่าเมื่อไหร่จะได้?
เอ : งานยายค่อนข้างมีคนมาเยอะ เพื่อนแม่และญาติๆ มาเยอะมาก เขาไม่ถามเลยว่าเหนื่อยมั้ย ถามแค่ว่าเงินได้เท่าไหร่
ถ้าไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ อาจมโนไปได้มากมาย เราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ไม่ได้ยินเสียงอะไรตรงนั้น ขอเถอะอย่าคิดเอาเอง บางคนอาจมองว่าลูกสาวหนีไม่ช่วยแม่ ทำไมไม่คิดอีกมุมว่าลูกสาวเอง ผู้เป็นแม่บอกเลยให้หนีไป เธอถึงได้วิ่งหนีแล้วตามคนมาช่วย อยากให้มองเรื่องสัญชาตญาณมากกว่า ต้องฟังให้รอบด้าน หรือการฟังจากข่าวมุมเดียวก็อาจคิดไปว่า แม่ของเธอไปเอาเงินเขามา วันนี้เป็นไง ข้อเท็จจริงเผยออกมาว่า ชายคนนี้ไปเผาบ้าน ขโมยของเขามา มีเรื่องหนี้สินต่างๆ นานา จากปากผู้ตายที่เขาพูดออกมาเองก่อนเขาจะตายแค่ 3-4 วัน มันก็ค่อนข้างชัดเจนนะ เรื่องนี้จะยังไงต่อไป?
ปรเมศวร์ : โทษเขาตามมาตรา 288 โทษสูงสุดอยู่แล้ว 289 ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เขาไตร่ตรองนานมากนะ เขาดูลาดเลา ดูแล้วดูอีก เขารู้ว่าจอดรถใต้ดิน ไม่ได้ขึ้นข้างบน มองว่าเขาเตรียมตัวพร้อมที่จะดำเนินการ ชัดเจน โทษสูงสุด
ทีมข่าวลงไปตรวจสอบแมนชั่นแห่งหนึ่งที่ห้วยขวาง นายสถาพรไปอาศัยอยู่ 7-8 คืนนะ คนละแวกนั้นให้ข้อมูลว่านายพงษ์ไปอยู่ตั้งแต่เดือนก.ย. จนถึง ต.ค. ไปพัก 7-8 คืน นั่งแท็กซี่มาคนเดียว เวลาสั่งอาหาร กินบนห้อง เก็บเงียบไม่ไปไหน ไม่สุงสิงกับใคร ถ้าออกก็ใช้รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แล้วเก็บตัวเงียบหายไปอีก ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิด เป็นภาพที่นายสถาพร เดินออกมาจากที่พัก ซอยประชาอุทิศ 19 เป็นวันก่อเหตุ 9 เดือน 10 แต่ในกล้องเวลาเร็วกว่าปกติ ผู้ก่อเหตุออกจากที่พักแล้วเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าแยกเหม่งจ๋าย จากนั้นเลี้ยวขวาไปคอนโดผู้ก่อเหตุ เดินไปที่ลานจอดรถ เวลาที่เขาไปถึงตรงนี้ ใช้เวลา 7-8 นาทีเท่านั้นเอง หลังก่อเหตุเขาหนี แสดงว่าเขารู้มาตั้งแต่แรกว่าแม่กับคุณอยู่ที่นี่ เขามาตั้งแต่ก.ย. ปลายๆ และต.ค. มาคอยสังเกตตลอด แสดงว่าคอนโดแห่งนี้เป็นที่ที่สองที่คุณย้ายมา เขารู้แล้วว่าคุณไม่ได้อยู่คอนโดที่หนึ่งแล้ว นี่คือการเตรียมตัว?
ปรเมศวร์ : เตรียมตัว แล้วน่าสนใจตรงที่เขาพูดว่าเขามีเจ้าหน้าที่ มีเพื่อน ที่สามารถตามโทรศัพท์ได้ เขาถึงได้รู้ไงว่าอยู่ตรงไหน เวลาตร.จับผู้ร้ายก็จับจากสัญญาณโทรศัพท์ เขาคงเฝ้าและคงรู้ด้วยว่าปกติออกไปทานข้าวข้างนอก
เอ : ค่ะทุกวันที่เป็นวันหยุด
ปรเมศวร์ : แสดงว่าเขามาเฝ้าจนรู้พฤติกรรมของเราแล้ว เขาถึงไปตามเวลาที่ถูกต้อง
อีกอันนายพงษ์พูดไว้เสมอว่าตนเองมีนักสืบและให้คนคอยสะกดรอยตาม บุคคลคนนี้โดนมั้ย?
ปรเมศวร์ : ถ้ามีก็โดน แต่คิดว่าไม่ใช่นักสืบหรอก มีอย่างอื่น การตามสัญญาณโทรศัพท์ แม่นกว่านักสืบตาม มันสามารถรู้ได้ด้วย ว่าขณะนี้อยู่ที่ไหน รู้จังหวะเวลา ใครทำให้ก็ไม่รู้ เขาไม่ได้มานั่งรอนะ เขามาก่อน เขารู้ว่าใกล้แล้วที่จะเดินทางมา น่าจะเกิดจากการสืบสวนสัญญาณโทรศัพท์
เอกังวลใจอะไร?
เอ : อยากให้ทีมตร.ช่วยตามตัวเขามาให้ได้ เพราะเราก็อยู่แบบหวาดระแวง ว่าเขาจะกลับมาทำร้ายเรามั้ย ตามในคลิปเลย เขาไม่ได้หวังฆ่าแค่แม่หนูค่ะ หนูก็เพิ่งเห็นคลิปเหมือนกันว่าจริงๆ แล้วเขาจะยิงใครก็ได้ทั้งนั้น
ปรเมศวร์ : มั่นใจว่าตร.ตามได้ แต่ยังไงคุณเอก็ต้องระมัดระวัง ใครเจอต้องช่วยบอกกหน่อยเพราะเขาเป็นบุคคลอันตราย มามอบตัวเสีย อย่าให้ตร.ไปเจอเอง เดี๋ยวจะสับสน มูลเหตุคืออะไร จะสู้คดีก็ว่ากันไป ไม่มีใครว่า ดีกว่าหนีไปอย่างนั้น แล้วเห็นใจมาก ที่ถูกหาว่าแม่ไปหลอกลวง ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่ เขาจะมาหลอกทางนี้ซะมากกว่า เชื่อว่าเร็วๆ นี้คงจับตัวได้ คนที่พูดกล่าวร้ายคุณแม่ต้องระวังด้วย อาจหมิ่นประมาทคนตายได้ นั่งดูเฉยๆ แล้วทำความจริงให้ปรากฏ แล้วค่อยคุยกันดีกว่า อย่าไปเข้าข้างใครเลย เคยเห็นมั้ยเวลาลูกทำผิด แม่บอกว่าลูกฉันดีเสมอ คลิปเสียงคือพยานสำคัญ กำนันคนนั้นมายืนยันก็จะเป็นพยานที่สมบูรณ์แบบที่สุด ว่ามูลเหตุจูงใจมาจากอะไร รวมถึงการวางเพลิงเผาทรัพย์ทั้งหมด ผู้ตายก็อธิบายความในใจ อันนี้ก็รับฟังได้ทั้งหมด
คลิปทั้งหมด 12 นาที มีหลากหลายเรื่องราว ได้เห็นภาพว่าเรื่องบางเรื่องคุณอาจไม่ทราบ ฉะนั้นคุณโพสต์อะไรออกไป รับผิดชอบกันเอาเองนะ ผมรับผิดชอบให้ไม่ได้ ถือว่าเตือนเอาไว้ด้วย กราบขออภัยสน.ห้วงขวาง คิดว่าเรื่องนี้ต้องมีการชี้แจงออกมา?
ปรเมศวร์ : เรื่องอย่างนี้ไม่ได้ต้องรับแจ้ง ที่บอกว่าไปหาพยานหลักฐาน คือหน้าที่พนักงานสอบสวน ไม่ใช่หน้าที่ผู้เสียหาย ช่วยหน่อยเถอะ ฝากถึงท่านผบ.ตร. อย่าให้ลูกน้องออกมาพูดแบบนี้ ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดดีกว่า
ตัดไฟแต่ต้นลมเหตุนี้ไม่เกิดเลย?
ปรเมศวร์ : ใช่ ถ้าโทรมาปั๊บ ก็จับหน่วงเหนี่ยวกักขัง ถ้ามีตัวและพยานหลักฐานก็จับได้
อาวุธปืน ผบ.ตร. หรือนายกฯ บอกว่าจะปราบ เอาให้อยู่หมัด สังคมรอดูอยู่ พูดแล้วต้องทำให้ได้ด้วย ชายคนนี้ถูกจับอาวุธปืนไปหนึ่งกระบอกแล้ว แล้วยังไปหามาได้อีกก่อนเอามาสังหาร เขาไม่ได้ใช้ปืนกระบอกเดียวกันนะ กระบอกที่ใช้จี้และขู่พาไปพัทลุงเขายึดไปแล้วนะ แล้วยังไปหามาได้อีก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี