มรสุมอันดามันถล่มใต้

อุตุฯชี้ฝนยังหนัก/เร่งกู้‘ภูเก็ต-สตูล’

พังงาดินสไลด์ต้องปิดถนน

ชาวนาบุรีรัมย์น้ำตาตกใน

ข้าวหอมมะลิจมน้ำนับเดือน

พื้นที่เกษตรเสียหาย3แสนไร่

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ผู้ว่าฯ ภูเก็ต สั่งปิดถนนสายบายพาส ฝั่งขาออกนอกเมือง ช่วงเขานางพันธุรัตน์ เพื่อป้องกันอันตรายจากดินสไลด์

ขณะที่ชาวนาบุรีรัมย์เศร้า น้ำท่วมนานนับเดือน ต้นข้าวเน่าเสียหายหนัก วอนรัฐช่วยเหลือแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวเพื่อใช้เพาะปลูกฤดูกาลผลิตหน้า ล่าสุด ทางจังหวัดประกาศเขตให้ความช่วยเหลือภัยพิบัติฉุกเฉินอุทกภัยแล้ว 23 อำเภอ พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 3 แสนไร่

เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมทะเลอันดามันตอนกลาง ในขณะที่ลมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน ส่วนลมตะวันออกพักปกคุลมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 22 ตุลาคม 2565

อากาศเปลี่ยน-ขอให้ปชช.ดูแลสุขภาพ

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อน ในขณะที่มีลมตะวันออกพัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และมีฝนเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ไว้ด้วย

ร้านดังภูเก็ตโละผ้าถูกน้ำท่วม

จากกรณีที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ในย่านเมืองเก่าภูเก็ต เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมร้านค้าในย่านเมืองเก่า ทั้งถนนถลาง ถนนพังงา ถนนรัษฎา ถนนดีบุก และถนนอื่นๆ ทุกสายในย่านเมืองเก่า ทำให้สินค้าบางร้านได้รับความเสียหาย และหลังน้ำลดเข้าสู่ภาวะปกติ ได้นำสินค้าแต่อยู่ในสภาพดีออกมาขายลดราคา

โดยทางร้านสิริรัตน์ ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายผ้าร้านใหญ่ในย่านเมืองเก่าภูเก็ต ได้ประกาศขายผ้าในราคาลดลง 50% ผ่านทางเฟซบุ๊กของร้านว่า “โละผ้าที่โดนน้ำท่วม ลดราคาตั้งแต่ 50% ขึ้นไป เรียนเชิญคุณลูกค้าลองแวะเวียนมาดูมาเลือกชมกันได้เลยครับ”

สำหรับผู้ที่สนใจผ้าราคาพิเศษสามารถแวะไปอุดหนุนร้านค้าในย่านเมืองเก่าภูเก็ตที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมกันได้ และแวะไปชอปตามร้านต่างๆ รวมทั้งแวะถ่ายรูปกับจุดเช็กอินชื่อดังของเมืองภูเก็ต เพราะขณะนี้น้ำได้ลดลง และย่านเมืองเก่าภูเก็ตเข้าสู่ภาวะปกติมาก่อนหน้านี้แล้ว

ปิดถนนสายบายพาสฝั่งขาออก

นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสภาพพื้นที่ วางแผนหาแนวทางแก้ปัญหา พื้นที่เชิงเขาและพื้นที่ลาดชันหลายจุดเกิดดินสไลด์ทรุดตัวลงมา โดยในเบื้องต้นแขวงทางหลวงภูเก็ต จะร่วมกับเทศบาลตำบลรัษฎา ขุดเจาะร่องระบายน้ำใต้ดินให้เป็นทางเดียว เพื่อบังคับทางน้ำและลดการสไลด์ของดิน

ขณะเดียวกันวิศวกรโยธาฯ จะสำรวจโครงสร้างอาคารร้าง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเนินเขา เบื้องต้นคาดว่าสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวน่าจะตอกเสาเข็มและยังแข็งแรง เนื่องจากก่อสร้างมานานกว่า 30 ปีแล้ว แต่เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้เส้นทางสัญจร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ ได้มีคำสั่งให้ปิดถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 หรือ สายบายพาส ฝั่งขาออกนอกเมืองภูเก็ต ช่วงเขานางพันธุรัตน์ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น ให้ปรับเปลี่ยนการจราจรฝั่งขาเข้าเมืองภูเก็ต ซึ่งเดิมเป็นวันเวย์ให้เป็นทูเวย์แทน ระหว่างรอการดำเนินการแก้ปัญหาให้สามารถใช้ทางได้ตามปกติ

ดินสไลด์ทำถนนเสียหายหนัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุดินสไลด์บริเวณถนน หล่อยูง บ้านติเต๊ะ ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ทำให้ถนนชำรุดเสียหายอย่างมากไม่สามารถสัญจรได้ เสาไฟฟ้าแรงสูงล้ม จำนวน 5 ต้น เนื่องจากมีฝนตกลงมาติดต่อกันหลายวันทำให้ดินอุ้มน้ำไว้ไม่ไหว ทางเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลคลองเคียน ต้องปิดการจราจรทั้ง 2 เลนเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน จึงขอแจ้งผู้ที่มีความจำเป็นต้องสัญจรผ่าน ให้ไปใช้เส้นทางท่าอยู่-คลองเคียน ไปยังพื้นที่ตำบลคลองเคียนเป็นการชั่วคราว

ทหารจิตอาสา904ลุยน้ำช่วยชาวสตูล

พ.อ.เรวัตร เซ่งเข็ม ผู้บังคับการกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 5 จังหวัดสตูล ในนามทหารพระราชทานจิตอาสา 904 พร้อมกำลังพลจิตอาสาพระราชทานของหน่วย พร้อมด้วยหมอทหาร พกยาประจำบ้าน ยาแก้คันน้ำกันเท้า ยาทาแก้เชื้อรา และยาสามัญประจำบ้านทั่วไป ลุยน้ำท่วมขังในพื้นที่จุด ตำบลละงู และตำบลกำแพง ที่ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ในจุดราบลุ่มต่ำ ของ อ.ละงู จ.สตูล

ทั้งนี้ พ.อ. เรวัตร พร้อมด้วยหมอทหารจากกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 5 จังหวัดสตูล เดินลุยน้ำที่มีความลึกบางจุดยังถึงเอว เพื่อไปดูความเดือนร้อนของชาวบ้าน และผู้ป่วยติดเตียงนอนรอความช่วยเหลืออยู่และรอความหวังที่หน่วยงานรัฐมาช่วยเช่นกัน

นอกจากนี้ยังพบครอบครัวบ้านเรือนที่มีเด็กทารกแรกเกิดอยู่กับพ่อและแม่ และผู้ป่วยติดเตียง สภาพบ้านที่มีน้ำท่วมรายล้อม แพทย์ทหารจึงไปตรวจสอบเยี่ยมดูอาการวัดความดัน และแนะนำการใช้ยาที่ทางทหารนำพาไป

คาด1-2วันน้ำไหลลงทะเลจนหมด

สำหรับภาพรวมน้ำท่วมในขณะนี้ พบว่าทั้ง 5 อำเภอได้แก่ อ.เมืองสตูล อ.มะนัง อ.ทุ่งหว้า อ.ท่าแพ อ.ควนกาหลง น้ำแห้งลดระดับแล้วยังคงต้องเร่งฟื้นฟูและช่วยเหลือให้กลับคืนสู่สภาพปกติ เหลือเพียง อ.ละงู ในบางจุดพื้นที่ราบลุ่มต่ำเท่านั้นที่ยังมีน้ำไหลเข้าท่วม คาดว่า 1 ถึง 2 วันนี้น้ำลดระดับไหลลงทะเลจนหมดได้ สรุปภาพรวมล่าสุดของ จ.สตูล ประสบอุทกภัย 6 อำเภอ 16 ตำบล 89 หมู่บ้าน 2599 ครัวเรือน

บุรีรัมย์ระทม!ข้าวจมน้ำนับเดือน

ที่ จ.บุรีรัมย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถึงแม้สถานการณ์น้ำท่วมจะเริ่มคลี่คลายลง แต่ก็ยังทิ้งร่องรอยความเสียหายเป็นวงกว้างโดยเฉพาะนาข้าวของเกษตรในหลายพื้นที่ถึงแม้ระดับน้ำจะลดระดับลงแล้ว แต่น้ำที่ท่วมจนมิดต้นข้าวและขังเป็นเวลานานเกือบเดือน ทำให้ต้นข้าวเน่าเสียหายบางส่วนเมล็ดลีบไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ชาวนาจึงได้วิงวอนให้หน่วยงานภาครัฐนอกจากช่วยเหลือเงินชดเชยนาข้าวที่เสียหายแล้ว อยากให้จัดหาเมล็ดพันธุ์มาแจกจ่ายด้วย เพื่อจะได้มีเมล็ดพันธุ์เพาะปลูกในฤดูกาลผลิตหน้า

ชาวนาบ้านโนนกลาง ต.แคนดง อ.แคนดง รายหนึ่ง บอกว่า มีพื้นที่นาในหมู่บ้านถูกน้ำเอ่อท่วมนาข้าวเป็นวงกว้างและท่วมขังมานานเกือบ 1 เดือนแล้ว เฉพาะของตนเองทำนาทั้งหมด 9 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายประมาณ 6 ไร่ ซึ่งได้ไปแจ้งชื่อผู้ประสบภัยกับผู้ใหญ่บ้านเพื่อขอรับการชดเชยเยียวยาตามขั้นตอนแล้ว แต่อยากให้ทางภาครัฐได้ช่วยเหลือเรื่องเมล็ดพันธุ์ข้าวด้วยเพราะปีหน้าคงไม่มีเมล็ดพันธุ์มาเพาะปลูก

ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว23อำเภอ

ขณะที่ มีรายงานล่าสุดจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ประกาศพื้นที่รับความช่วยเหลือภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินด้านอุทกภัย แล้วทั้ง 23 อำเภอ มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 34,000 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 3 แสนไร่ โดยเกษตรกรที่จะขอรับเงินเยียวยา จะต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนแล้วเท่านั้นจึงจะรับเงินเยียวยา หลังจากนั้นเกษตรอำเภอ จะประกาศแจ้งให้เกษตรกรไปยื่นความจำนงขอรับการช่วยเหลือที่สำนักงานเกษตรอำเภอ ประมงอำเภอ หรือปศุสัตว์อำเภอ ตามประเภทของเกษตรกร จากนั้นจะมีการตั้งคณะกรรมการเข้าตรวจสอบความเสียหาย ก่อนจ่ายเงินช่วยเหลือไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่

ส่วนหลักเกณฑ์การช่วยเหลือจะได้ไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ ประเภทนาข้าวจะช่วยเหลือไร่ละ 1,340 บาท พืชไร่ละพืชผัก 1,980 บาทต่อไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่นๆไร่ละ 4,048 บาท นอกจากนี้ยังมีการจัดหาเมล็ดพันธุ์พืช และ ต้นพันธุ์ไว้สนับสนุนเกษตรกรด้วย

ห่วงโรค “เมลิออยด์”ซ้ำเติม

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยประชาชนอาจเจ็บป่วยด้วยโรคเมลิออยด์ที่เกิดในช่วงนี้ที่ยังคงมีฝนตกในบางพื้นที่ ตามคำเตือนของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะเกษตรกรและผู้ป่วยเบาหวาน ให้ระวังป่วยโรคเมลิออยด์ สามารถพบการติดเชื้อได้ตลอดทั้งปี แต่พบมากในช่วงฤดูฝน เชื้อสามารถเข้าทางผิวหนัง การดื่มน้ำไม่สะอาด หรือการหายใจเอาฝุ่นดินที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าไป ควรหลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลน หากจำเป็นต้องลงพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง ควรใส่รองเท้าบูทเพื่อป้องกัน และหลังขึ้นจากน้ำให้รีบทำความสะอาดร่างกายด้วยสบู่และน้ำสะอาดทันที

นายอนุชาฯ กล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้ออกคำเตือนพร้อมให้ข้อมูลว่า ในช่วงนี้ยังคงมีฝนตกในบางพื้นที่ ทำให้มีน้ำท่วมขังหรือดินชื้นแฉะ ซึ่งประชาชนที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมและเกษตรกร หรือผู้ที่ต้องทำงานสัมผัสดินและน้ำโดยตรง รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคไตเรื้อรัง และโรคธาลัสซีเมีย จะมีความเสี่ยงป่วยโรคเมลิออยด์สูง เชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุจะอยู่ในดินและในน้ำจะเข้าสู่ร่างกายได้ทางการดื่มน้ำ หรือรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อ และทางผิวหนัง หรือการสูดหายใจเอาฝุ่นจากดินที่มีเชื้อเจือปนเข้าไป หลังติดเชื้อประมาณ 1-21 วันจะมีอาการเจ็บป่วย แต่บางรายอาจนานเป็นปี ขึ้นอยู่กับปริมาณเชื้อที่ได้รับและภูมิต้านทานของแต่ละคน อาการของโรคนี้ไม่มีลักษณะเฉพาะ จะมีความหลากหลายคล้ายโรคติดเชื้ออื่น ๆ หลายโรค เช่น มีไข้สูง มีฝีที่ผิวหนัง มีอาการทางระบบทางเดินหายใจ อาจติดเชื้อเฉพาะที่หรือติดเชื้อแล้วแพร่กระจายทั่วทุกอวัยวะและเสียชีวิตได้ ส่วนใหญ่มักจะเริ่มจากอาการไข้เป็นหลัก จึงทำให้วินิจฉัยโรคได้ยาก ต้องอาศัยการตรวจเพาะเชื้อทางห้องปฏิบัติการเป็นหลัก เพื่อใช้ประกอบการตรวจวินิจฉัยและรักษา

พบไข้สูงต้องรีบไปพบแพทย์

สำหรับสถานการณ์โรคเมลิออยด์ในปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-10 ตุลาคม 2565 พบผู้ป่วย 2,314 ราย เสียชีวิต 34 ราย กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ อายุมากกว่า 65 ปี รองลงมา 55-64 ปี และ 45-54 ปี ตามลำดับ พบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตกระจายอยู่ทุกภาคของประเทศไทย แต่พื้นที่ที่พบอัตราป่วยสูงสุด ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อัตราตายสูงสุด ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้

“กรมควบคุมโรคได้แนะวิธีการป้องกันโรคเมลิออยด์สามารถทำได้ ดังนี้ 1. หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลนหรือสัมผัสดินและน้ำโดยตรง หากจำเป็นขอให้สวมรองเท้าบูท ถุงมือยาง กางเกงขายาวหรือชุดลุยน้ำ หลังสัมผัสดินและน้ำให้ทำความสะอาดร่างกายด้วยสบู่และน้ำสะอาดทันที 2. ทานอาหารปรุงสุก ดื่มน้ำสะอาดหรือต้มสุกทุกครั้ง 3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสลมฝุ่นและการอยู่ท่ามกลางสายฝน 4. หากมีอาการไข้สูง ร่วมกับมีประวัติการสัมผัสดินและน้ำ ให้รีบพบแพทย์ทันที โดยเฉพาะเกษตรกรและผู้ป่วยโรคเบาหวาน สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422” นายอนุชาฯ กล่าว