วันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 จากกรณี พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เปรมกมล ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา ได้รับแจ้งเกิดเหตุนักเรียนตกตึกภายในโรงเรียนมัธยมศุกษาชื่อดังแห่งหนึ่ง ต.หัวทะเล อ.เมืองฯ จึงพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา และหน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาฯ หลังได้รับแจ้งรุดไปยังที่เกิดเหตุพบเด็กนักเรียนชายตกลงมาจากอาคารเรียน ภายในโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งในเขตตำบลหัวทะเล อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิต เป็นเด็กนักเรียนชาย อายุ 14 ปี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อาจารย์ และเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนและตำรวจได้กันพื้นที่ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปใกล้ที่เกิดเหตุ และห้ามถ่ายหรือบันทึกภาพ ซึ่งที่เกิดเหตุเป็นบริเวณด้านหลังอาคารเรียนเฉลิมพระเกียรติ 9 ชั้น
จากการสอบถามอาจารย์รายหนึ่ง (ไม่ขอเปิดเผยชื่อ) ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า เด็กนักเรียนชายคนดังกล่าวเป็นเด็กนักเรียนชั้น ม.3 เป็นเด็กที่เรียนเก่งมีผลการเรียนดี โดยพบกระเป๋านักเรียนของเด็กผู้เสียชีวิตถูกวางทิ้งไว้อยู่บริเวณชั้น 5 และพบรองเท้าของเด็กผู้เสียชีวิตถอดทิ้งไว้อยู่บริเวณ ชั้น 6 ของอาคารเรียน เบื้องต้นคาดว่าเด็กนักเรียนคนดังกล่าวได้กระโดดลงมาจากบริเวณระเบียง ชั้น 6 ของอาคารด้านหลัง ก่อนที่ร่างจะตกลงมากระแทกพื้นเสียชีวิต โดยหลังเกิดเหตุพ่อและแม่ครอบครัวของเด็กผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาที่เกิดเหตุพร้อมกับโผเข้ากอดร่างของลูกชายร้องให้อย่างอย่างเศร้าสลด ซึ่งทุกคนยังอยู่ในอาการทำใจไม่ได้ ร้องไห้เสียใจอยู่ตลอดเวลา
เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุของการกระโดดตึกในครั้งนี้แน่ชัด แต่คาดว่าน่าจะเกิดจากปัญหาส่วนตัว
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ไม่นาน โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาชื่อดัง 2 แห่งของจังหวัดนครราชสีมา ก็เคยเกิดเหตุการณ์เด็กนักเรียนกระโดดตึกอาคารเรียนลงมาเสียชีวิตมาแล้วเช่นกัน โดยเหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 เด็กนักเรียนหญิง ชั้น ม.2 โรงเรียนประจังหวัดนครราชสีมาชื่อดัง ได้กระโดดตึกอาคารเรียน ชั้น 8 ลงมาเสียชีวิต คาดว่าสาเหตุเกิดจากภาวะซึมเศร้า และครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565 เด็กนักเรียนชาย อายุ 16 ปี ชั้น ม.6 โรงเรียนประจำจังหวัดชื่อดังเหมือนกัน ได้กระโดดตึกอาคารเรียน ชั้น 6 ลงมาเสียชีวิต คาดว่าสาเหตุเกิดจากภาวะซึมเศร้าเช่นเดียวกัน
ซึ่งหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวทางสถานศึกษาต่างๆ ในจังหวัดนครราชสีมาได้มีการวางมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุนักเรียนฆ่าตัวตายซ้ำอีก โดยได้สำรวจจุดอับ จุดเสี่ยงตามอาคารเรียนต่างๆ และส่งเจ้าหน้าที่กวดขันพื้นที่เสี่ยงที่อาจเกิดเหตุ ขณะเดียวกันได้ประสานนักจิตวิทยาให้เข้าไปอบรมให้ความรู้แก่ครูที่ปรึกษา และเด็กนักเรียนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า โดยจะให้ครูที่ปรึกษา และครูประจำชั้นช่วยคัดกรองนักเรียนกลุ่มเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า
ล่าสุด ที่โรงเรียนดังกล่าวบรรยากาศด้านหน้าของโรงเรียนเต็มไปด้วยความเงียบเหงา ภายหลังจากทางโรงเรียนที่ได้ออกประกาศปิดการเรียนการสอนเป็นการภายใน ในวันศุกร์ที่ 11 พ.ย.65 เพื่อให้คณะครูและบุคคลากรทางการศึกษาได้ร่วมแสดงความอาลัยต่อเหตุการณ์การสูญเสียในครั้งนี้ และจะเปิดทำการเรียนการสอนปกติในวันจันทร์ที่ 14 พ.ย.65 นอกจากนี้ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครรราชสีมา พร้อมด้วยสหวิชาชีพ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา รวมถึงผู้บริหารของโรงเรียน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับร่วมประชุมหารือแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวของเด็ก
เบื้องต้นเตรียมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงถึงสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ ส่วนในกรณีของงานศพทางโรงเรียนจะเป็นเจ้าภาพส่วนอภิธรรมทุกคืนรวมถึงออกค่าใช้จ่ายต่างๆให้ นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังเตรียมวางมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีกด้วยการจัดครูเวรคอยตรวจตราตามอาคารเรียนหลังเลิกเรียน พร้อมกับส่งครูประจำชั้นลงพื้นที่เยี่ยมบ้านนักเรียนให้บ่อยขึ้น ซึ่งหากพบว่าเกิดปัญหาจะได้เป็นการป้องกันและยับยั้งไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกับเหตุการณ์นี้อีกทั้งยังได้เตรียมประสานนักจิตวิทยาให้เข้าไปอบรมให้ความรู้แก่ครูที่ปรึกษา และเด็กนักเรียนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า โดยจะให้ครูที่ปรึกษา และครูประจำชั้นช่วยคัดกรองนักเรียนกลุ่มเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า
พันตำรวจเอกประสิทธิ์ เปรมกมล ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการพยานหลักฐาน และการสอบสวนเบื้องต้นเชื่อว่า เด็กนักเรียนคนดังกล่าวน่าจะกระโดดลงมาจากอาคารเอง เนื่องจากพบหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดของทางโรงเรียนพบว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุเด็กได้เดินขึ้นไปยังอาคารที่เกิดเหตุเพียงคนเดียว และนั่งนิ่งท่าทางซึมอยู่พักหนึ่ง รวมทั้งสิ่งของของเด็กที่ตกอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ ประกอบกับไม่พบหลักฐานการต่อสู้ทำร้ายร่างกาย และเด็กผู้เสียชีวิตก็มีรูปร่างตัวใหญ่ จึงเชื่อว่าเด็กน่าจะเป็นผู้ที่กระโดดอาคารเรียนลงไปเอง ทั้งนี้ทางผู้ปกครองของเด็กก็ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาในครอบครัวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำโทรศัพท์มือถือของเด็กที่พบอยู่ในที่เกิดเหตุไปตรวจสอบหาเบาะแสเพิ่มเติมถึงสาเหตุของการเสียชีวิตครั้งนี้
สำหรับในส่วนของคดีความทางตำรวจได้สอบถามไปยังผู้ปกครองทราบว่าทางเด็กและผู้ปกครองไม่ได้มีปัญหาครอบครัวแต่อย่างใด นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยังได้นำโทรศัพท์มือถือของน้องที่พบอยู่ในที่เกิดเหตุไปตรวจสอบหาเบาะแสเพิ่มเติม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของทางโรงเรียนพบว่าช่วงก่อนเกิดเหตุพบน้องเดินขึ้นไปยังตึกที่เกิดเหตุเพียงคนเดียว ก่อนที่จบพบว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา
อ่านรายละเอียด : สลด! นักเรียนชาย ม.3 โรงเรียนชื่อดังโคราช กระโดดอาคารเรียนชั้น 6 เสียชีวิต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี