วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 5.2 ได้โพสต์คลิป เหตุเกิดที่หน้าโลตัส อุดรธานี ผู้ชายในคลิปพยายามพกปืนมายิงครอบครัวของผม ด้วยความอุกอาจ ต่อหน้าต่อตาผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา มีพยานนับร้อย เหตุเกิดณวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.00 น พ่อของผมและคู่กรณีได้ไปคุยตกลงกันในเรื่องที่เขามาชนท้ายรถพ่อของผม คู่กรณีจึงได้โทรหาเพื่อน 2 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นชายที่อยู่ในคลิป ชายคนดังกล่าวที่อยู่ในคลิปได้เข้ามาข่มขู่พ่อของผมให้ยุติเรื่องราว แต่พ่อของผมไม่ได้เป็นฝ่ายผิด จึงตกลงกันไม่ได้และแยกย้ายกันกลับบ้านในตอนเที่ยง ชายคนดังกล่าวได้พยายามโทรติดต่อพ่อและแม่ของผม แต่พ่อและแม่ของผมก็หลีกเลี่ยงที่จะไม่ติดต่อกับชายคนนี้ โดยไม่ได้รับสายเพราะว่าพ่อและแม่ของผมกลัวว่าจะมีเรื่องกัน และผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คู่กรณีแต่อย่างใดไม่ใช่ผู้เกี่ยวข้องแต่อย่างใด และในเวลาประมาณ 17.00 น ผู้ชายคนนี้มาจอดรถที่หน้าบ้านของผม ดักซุ่มอยู่ประมาณ 20 นาที และขับออกไป เขากลับมาครั้งที่ 2 และดักซุ่มอีกประมาณ 20 นาที ผมจึงผิดสังเกตและโทรหาพ่อของผม ชายคนนั้นรู้ตัวและได้ขับรถออกไป และหลังจากนั้นชายคนนี้ได้มายืนดักซุ่มที่ข้างบ้าน ผมบังเอิญเดินไปเจอและตกใจกลัวมากๆ รีบวิ่งกลับเข้ามาในบ้านโทรศัพท์หาพ่อ ชายคนดังกล่าวจึงเปลี่ยนเป้าหมายขับรถไปหาพ่อกับแม่ของผมที่ค้าขายเป็ดย่างอยู่ที่ด้านหน้าโลตัส(อุดร) ซึ่งมีผู้คนเดินผ่านไปผ่านมามากมาย ชายคนดังกล่าวได้เข้าไปพูดคุยกับพ่อของผมในครั้งแรก พ่อของผมสังเกตเห็นว่าชายคนดังกล่าวมีอาการเมาจึงไล่ชายคนนั้นกลับไป แต่ชายคนนั้นก็ไม่กลับ ชายคนนั้นได้มาจอดรถเข้าๆออกๆดักซุ่มไม่ยอมกลับ
ในขณะนั้นคุณพ่อของผมได้โทรแจ้งตำรวจ และบอกให้ผมไปหาพ่อเพื่อที่จะปิดร้านให้พ่อ พ่อจะไปที่สถานีตำรวจ แต่ในทันทีที่ผมไปถึงสักพัก ชายคนดังกล่าวได้กลับมา พร้อมกับอาวุธปืนที่เหน็บอยู่ข้างเอว พ่อของผมจึงได้เข้ารวบตัวชายดังกล่าวและผมได้ดึงปืนที่เอวของเขามาวางไว้ที่พื้น พร้อมกับโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปืนมีกระสุนเต็มแม็กกาซีน ภายหลังที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวจึงได้รู้ว่าชายคนนี้เป็นหัวหน้าพัศดีที่เพิ่งย้ายมาอยู่ที่อุดรธานี แต่ ณ ปัจจุบันวันที่ 21 พฤศจิกายน เช้านี้ชายคนดังกล่าวได้ถูกปล่อยตัวแบบเงียบๆ โดยที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีการสอบสวนผู้เสียหายหรือครอบครัวของผมเลย และทางเจ้าหน้าที่ไม่แจ้งข้อมูลอะไรกับทางครอบครัวของผมเลย ครอบครัวของผม ณ ตอนนี้ไม่มีใครสบายใจ และหวาดกลัวว่าผู้ต้องหาจะมาทำร้ายเราอีกหรือเปล่า ผมหวังว่าครอบครัวของเราจะได้รับความยุติธรรม และได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ด้วยนะครับ
ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายอดุลย์ (สงวนนาสกุล) อายุ 52 ปี พ่อค้าขายเป็ดย่างที่หน้าห้างห้าง เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พ.ย.65 เมื่อ 17.00 น. ขณะที่ตนเองกำลังขายเป็ดย่างเขาก็เดินเข้ามา ตนเองระวังตัวอยู่แล้วเพราะเคยเห็นหน้าคนนี้วันที่ตนเองเกิดรถเฉี่ยวชนกัน คู่กรณีได้เรียกเพื่อนเขาคนนี้มาเคลียร์ด้วย ทราบว่าเป็นอดีตผู้คุมที่อุดร ไม่ได้เคลียร์อย่างเดียวขู่ผมด้วย ที่โรงพักด้วยแล้วตามมาที่ร้านขายเป็ดย่างด้วย แล้ววันที่เขามาเขาพกปืนมาด้วยเราก็กลัวเมื่อเขาเดินมาใกล้ร้านจึงวิ่งเข้าไปล็อคตัวเอาไว้ ตามคลิปที่เห็น แล้วลูกชายก็เรียกรปภ.มาช่วย โดยเขามีอาวุธปืนด้วย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองก็กลัว ไม่น่ามาขู่กันแบบนี้ และที่เสียใจคือตร.ปล่อยตัวไปแล้วโดยไม่รู้สาเหตุ และร้อยเวรคนที่นัดผมไปหาก็บอกว่าผมมาช้า 15 นาที นัดผมอีกวันตร.ก็บอกว่ามาอีกทำไม ก็ให้การไปแล้ว ผมก็งงสิ เท่าที่รู้ตร.เขาทำสำนวนคดีให้อ่อนเพื่อจะได้ประกันตัวออกมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมขอความเป็นธรรมด้วย ทำไมเขาเป็นถึงเจ้าหน้าที่รัฐถึงได้ประกันตัวออกมา เจ้าหน้าที่ฯ มีการช่วยเหลือกันหรือเปล่า ตอบผมด้วย นายอดุลกล่าวตอนท้าย
นางทัศนีย์ อายุ 49 ปี ภรรยา เล่าว่า หลังเกิดเหตุยอมรับเลยว่ารู้สึกวิตกกังวลกินข้าวไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะถูกข่มขู่เอาชีวิตใคร การที่ผู้ก่อเหตุประกันตัวออกมาโดยตัวเองไม่รู้เรื่องเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง หากเรารู้เราจะขอคัดค้านการประกันตัว แทนที่ผู้บังคับใช้กฎหมายจะแนะนำว่าเราควรจะทำการดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร แต่ผู้บังคับใช้กฎหมายก็ไม่ได้แนะนำอะไรให้กับเราเลยมีแต่ไล่เรากลับอย่างเดียว ซึ่งพอเรามารู้ทีหลังว่าผู้ก่อเหตุถูกประกันตัวไปแล้วโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการบอกอะไรเราเลยเราก็กลัว เราก็ต้องทำมาหากินร้านเราก็ต้องเปิดกิจการค้าขายเราก็ต้องเปิด ตอนนี้เราอยู่กับความกังวนหวาดระแวงเห็นคนแปลกหน้ามาเราก็หวาดระแวง
สำหรับสามีเป็นคนถือศีลสวดมนต์ไหว้พระ นานๆครั้งจะหยุดร้านไปทำบุญ สาเหตุนั้นก็คาดว่าจะมีคนยุยงส่งเสริมให้ก่อเหตุให้มาเคลียร์ปัญหา ตอนนั้นเราก็ไม่รู้จักกับคนก่อเหตุว่าเขาเป็นใคร เมื่อรู้ว่าคนก่อเหตุเป็นใครก็รู้สึกกลัวเพราะเขาอยู่ในวงการข้าราชการ ตอนนี้ไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุสังกัดหน่วยไหน ฝากถึงผู้บังคับบัญชาควรพิจารณาการกระทำของเขา หลังเกิดเหตุในใจก็คิดสงสารเขา ทำไมเขาต้องมาเป็นเรื่องแทนคนอื่น เขาไม่คิดถึงลูกถึงเมียเหรอ ไม่คิดถึงอนาคตตัวเองเหรอ “ส่วนตัวแล้วก็คิดอยู่ว่าหากเขาจะออกจากงานก็สงสารเขา” แต่เมื่อมองกลับมาเขาก็ไม่สงสารเราเลย การที่ตัวเองไม่ส่งคลิปไม่โวยวายในคืนครั้งแรกเพราะอยากจะให้เป็นไปตามกระบวนการ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานเต็มที่ไม่อยากก้าวก่าย
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับเจ้าหน้าที่เรือนจำฯ ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์แต่ให้ข้อมูลว่า ชายคนดังกล่าว ชื่อนายสมชาย (ขอสงวนนามสกุล) หรือชื่อเล่น มดแดง อายุ 49 ปี เคยเป็นอดีตผู้คุมเรือนจำจริง แต่ย้ายโอนไปเป็นข้าราชการปกครองส่วนท้องถิ่น แล้วเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา เขาเคยทำงานเป็นผู้คุมที่นี่มาประมาณ 10 ปีแล้ว ปกติก็เป็นคนเงียบๆ เท่าที่รู้เมียไปทำงานต่างประเทศ อดีตผู้คุมคนนี้ต้องเลี้ยงลูกเอง 2 คนอาจจะทำให้เครียดจึงเป็นเหตุผลส่วนตัวที่ขอย้ายไปเทศบาลฯ เพื่อจะได้มีเวลาดูแลลูก 2 คน ส่วนคนที่ไปประกันตัวทราบว่าเป็นเพื่อนพี่ที่รู้จักกันที่เรือนจำกลางอุดรธานี อาจจะเป็นคนรู้จักมักคุ้นจึงได้ใช้ตำแหน่งประกันตัวออกมา
นายธนดร พุทธรักษ์ นายกเทศมนตรีนครอุดรธานี เปิดเผยว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นตนได้รับงานว่าผู้ก่อเหตุเป็นช่างไฟฟ้าสังกัดสำนักช่างเทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งเพิ่งโอนย้ายมาจากเรือนจำจังหวัดอุดรธานีมาทำงานที่เทศบาลนครอุดรธานีได้ 2 เดือน เบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีการก่อเหตุพกพาอาวุธปืนและอาจมีอาการมึนเมาประกอบด้วย เหตุการณ์แบบนี้ก็ปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมายใน ส่วนของเทศบาลนครจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอีกครั้งหนึ่ง เรื่องนี้ผิดก็ว่าไปตามผิดแต่ก็ “ขอความแสดงความเสียใจที่ข้าราชการเทศบาลนครมีพฤติกรรมแบบนี้” ข้าราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่มีหน้าที่ที่จะไปพกปืน ข้าราชการต้องทำงานใกล้ชิดประชาชนให้บริการประชาชน นายกเทศมนตรีเทศบาลนครอุดรธานีกล่าวตอนท้าย
ด้าน พ.ต.อ.จามร อันดี ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า คดีนี้เกิดเหตุวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่ผ่าน ตำรวจเราจะรับแจ้งว่ามีเหตุทะเลาะวิวาทที่ห้างสรรพสินค้าโลตัส โดยมีอาวุธปืน หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินทางไปที่เกิดเหตุพบว่าผู้ต้องหามีอาการมึนเมา โดยมีพลเมืองดีควบคุมตัวเอาไว้ตำรวจจึงควบคุมตัวจับกุมพร้อมของกลางอาวุธปืนและนำตัวมาที่ สภ.เมือง เบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหา 3 ข้อหาหลัก คือ พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในหมู่บ้านสาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาต มีอาวุธปืนติดตามตัวตามพรบ.อาวุธปืน และขับขี่ยานพาหะในขณะเมาสุรา ซึ่งผู้ต้องหาใช้หลักทรัพย์ 1 แสนบาทในประกันตัวออกไป ในส่วนผู้เสียหายที่เกรงว่าจะไม่ปลอดภัยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ตำรวจในเครื่องแบบออกไปตรวจตราทุกชั่วโมงเพื่อดูแลความปลอดภัย
อย่างไรก็ตามการประกันตัวออกไปของผู้ก่อเหตุไม่ตรงกับรายงานที่ทางผู้กำกับให้ข่าว ซึ่งต่างจากข้อมูลจากพนักงานสอบสวนที่บอกว่า มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ระดับสูงรายหนึ่งใช้ตำแหน่งในการประกันตัวออกไป ขณะเดียวกันมีรายงานว่า หนุ่มรายนี้หลังก่อเหตุได้ประกันตัวออกไปและขอลาพักงานทันที ยังไม่สามารถติดต่อได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี