"ดีเอสไอ" รับสำนวน-ของกลางคดี P Miner จากตำรวจไซเบอร์ ความเสียหายพันล้าน พร้อมเตรียมเปิดให้ผู้เสียหายลงทะเบียนเพิ่มเติม 1 ธ.ค.65 - 31 ม.ค.66 ขณะที่ผู้ต้องหาทั้ง 4 หลบหนีอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ยันพร้อมนำตัวกลับมารับโทษ
วันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 เวลา 14.00 น. ที่อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 และ พ.ต.อ.รชตโชค ลีวาณิชคุณ ผกก.(สอบสวน) บก.สอท.1 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญา กรรมทางเทคโนโลยี (สอท.)ได้นำสำนวนการสอบสวนและเอกสารหลักฐานต่างๆที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท.ทำคดีกรณีประชาชนถูกหลอกลวงให้ลงทุนกับห้างหุ้นส่วนจำกัด เพื่อซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลและทำเหมืองขุดบิตคอยน์ มาส่งมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับคดีไปดำเนินการต่อ ภายหลังจากที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับเป็นคดีพิเศษที่ 290/2565 พร้อมกันนี้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์พันตำรวจตรีวรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ และร้อยตำรวจเอกวิษณุ ฉิมตระกูล ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ พ.ต.อรรคริน ลัทธศักดิ์ศิริ ผอ.ส่วนคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ 3 ได้ร่วมกันแถลงข่าว
โดย พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท.สีบสวนสอบสวนไปก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายแจ้งความไว้721คน มีมูลค่าความเสียหายประมาณ 1 พันล้านบาท เบื้องต้นได้อายัดบัญชีธนาคาร117บัญชี มีเงินรวม 112 ล้านบาท เงินคริปโต 40 บิทคอยน์ ซึ่งเทียบเป็นเงิน22ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีรถหรู6คัน กับทรัพย์สินอื่นๆในส่วนนี้อีกประมาณ100กว่าล้านบาท เบื้องต้นแจ้งข้อหาความผิด 3ข้อหา ได้แก่ ความผิดตามกฏหมายอาญามาตรา 343 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และพรก.การกู้ยืมเงิน ที่กระทำการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งได้ออกหมายจับแล้ว 4 คน ได้แก่ นายกิติกร อินต๊ะ หรือ เป้ P Miner และ น.ส.ณัฐวดี เป็นต้น แต่ขณะนี้ทั้งหมดได้หลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้ขอออกหมายจับแดง เพื่อนำตัวกลับมาลงโทษต่อไป
ด้านร.ต.อ.วิษณุ กล่าวว่า จากมูลค่าความเสียหายและจำนวนผู้เสียหาย ซึ่งเข้าเกณฑ์คดีพิเศษของดีเอสไอ ดังนั้น กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงรับเป็นคดีพิเศษที่ 290/2565 หลังจากได้ร่วมบูรณาการเรื่องข้อมูลกับ สอท.1 มาตลอด โดย สอท.1 ได้ยึดทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงหลายรายการ โดยเฉพาะเครื่องขุดบิตคอยน์ ประมาณ 100 เครื่อง จากการสอบสวนของของ สอท.1 ที่ยึดมาจากห้างหุ้นส่วนจำกัด พี มายเนอร์ คริปโตเคอเรนซี่ กรุ๊ป นั้น จากการสอบสวนของทาง สอท. เครื่องขุดบิทคอยน์ไม่พบร่องรอยว่ามีการใช้งานจริงตามที่กล่าวอ้างกับผู้ที่นำเงินมาลงทุนด้วย เป็นแต่เพียงนำเครื่องมาโชว์เท่านั้น ดังนั้น พฤติการณ์หลอกลวงประชาชนแน่นอน ตลอดจนพบว่ารถหรูบางคันเป็นรถที่เขาใช้ไว้กระทำผิด เช่น แลมโบกินี่ 1 คัน เฟอรารี่ 1 คัน เขาเอาไว้โชว์ให้ผู้เสียหายดูว่าถ้าลงทุนกับเขาจะได้ผลตอบแทนจำนวนมาก ดังนั้น รถทั้งสองคันนี้จึงเชื่อได้ว่าเป็นรถที่มาจากการกระทำผิด ส่วนทรัพย์สินอื่นๆที่มีมูลค่า ที่ สอท.1 ได้ตรวจสอบไว้ เราก็จะนำมาแยกว่าส่วนไหนนำส่งให้ ปปง. ได้เพื่อไปแยกว่าทรัพย์ใดที่จะดำเนินการเยียวยาให้ผู้เสียหายได้โดยเร็วบ้าง
สำหรับในส่วนของดีเอสไอในกรณีคดีดังกล่าวมีประชาชนมาแจ้งความไว้กับดีเอสไอ ภาค5 แล้วจำนวน400คน ซึ่งกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ จะได้ตรวจสอบว่าซ้ำกับสอท.หรือไม่ พร้อมกันนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนทางเว็บไซต์ของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ www.dsi.go.th ตั้งแต่วันที่1ธันวาคมนี้ ถึงวันที่31มกราคม2566 ทางดีเอสไอจะรับคดีดังกล่าวมาสืบสวนขยายผลจากการสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมด เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดที่สาวไปถึงเกี่ยวข้องกลับมารับโทษทุกราย รวมทั้งยึดทรัพย์เพิ่มเติมต่อไป
ทั้งนี้ หลังจากรับสำนวนจาก สอท.1 มาแล้ว เราก็จะดำเนินการตรวจสำนวนและพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อดูว่ามีการถ่ายโอนทรัพย์สินไปต่างประเทศหรือไม่ หรือยักย้ายถ่ายเทไปที่ใดอีก ทั้งนี้ จะเริ่มสอบปากคำผู้เสียหายได้ภายหลังจากรวบรวมยอดผู้เสียหายจากทุกช่องทาง อย่างไรก็ตาม จะลงทุนอะไรให้ดูว่าได้รับการรับรองจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หรือไม่ ถ้าไม่มีการอนุญาตหรือรับรอง ขอให้ระมัดระวังการร่วมลงทุน เพราะอาจถูกหลอกได้
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทรัพย์สินที่พนักงานสอบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ทำการยึดไว้เป็นของกลาง อาทิ รถยนต์ยี่ห้อ เบนท์ลีย์ (Bentley) สีดำ รุ่น Bentayga 1 คัน รถยนต์ยี่ห้อแลมโบกินี่ (Lamborghini) สีเหลือง รุ่น Huracan LP610-4 COUP 1 คัน รถยนต์ยี่ห้อเฟอรารี่ (Ferrari) สีแดง รุ่น 488 SPIDER 1 คัน รถยนต์ยี่ห้อ PORSCHE รุ่น BOXSTER 718 สีเทา 1 คัน และของกลางอื่นๆอีกหลายรายการ ทั้งยังมีกล่องหมุนนาฬิกา (Watch Winder) 1 ตู้ กระเป๋าหรู อาทิยี่ห้อ Guess / Gucci / โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และซีพียู จำนวนหลายเครื่อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี