นายกองค์การบริหารส่วนตำบลวังเหนือ อำเภอบ้านด่าน จังหวัดบุรีรัมย์ ไอเดียเก๋ เพาะมะละกอ พันธุ์แขกนวล กับพันธุ์ดำเนิน แจกจ่ายชาวบ้านปลูกทั้งตำบล ช่วงหน้าแล้ง ไว้บริโภคและขาย เป็นการลดรายจ่าย สร้างรายได้ในครัวเรือน คาดหวังตำบลวังเหนือ เป็นแหล่งผลิต ส่งออกมะละกอ

วันนี้ (14 ธ.ค.65) นายสัญญา ชาญวิเศษ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)วังเหนือ อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ พร้อมคณะผู้บริหาร พนักงาน เจ้าหน้าที่ อบต. และชาวบ้าน ได้ร่วมกันดำเนินการเพาะเมล็ดมะละกอ พันธุ์แขกนวล กับพันธุ์ดำเนิน รวมกันจำนวน 4,000 ต้น ไว้ที่แปลงสาธิต บ้านอารัง หมู่ที่ 2 ต.วังเหนือ อ.บ้านด่าน ซึ่งระยะเวลาการเพาะเมล็ดพันธุ์มะละกอ ประมาณ 24 วัน ต้นจะสูงประมาณ 26 เซนติเมตร จากนั้นทาง อบต.วังเหนือ ก็จะนำต้นมะละที่เพาะไว้ไปแจกให้กับพี่น้องประชาชน ทั้ง 12 หมู่บ้าน ในตำบลวังเหนือ ประมาณกลางเดือน ม.ค.2566 เพื่อนำไปปลูกในครัวเรือนๆ ละ 5 ต้น ไว้สำหรับบริโภค หากมีผลผลิตออกเยอะก็สามารถนำไปขาย สร้างรายได้อีกทางหนึ่ง ส่วนมะละกอที่เหลือก็จะปลูกไว้ในแปลงสาธิต มีคนดูแลรดน้ำพรวนดิน และเก็บผลผลิตต่อไป

นายสัญญา ชาญวิเศษ นายก อบต.วังเหนือ กล่าวว่า ทางผู้คณะบริหารได้มีนโยบาย ที่จะทำอย่างไรให้พี่น้องประชาชนในตำบลวังเหนือ ที่จะสามารถลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ในสภาวะที่ประสบปัญหาเรื่องของเศรษฐกิจ จึงเล็งเห็นถึงการเพาะปลูกอะไรที่ดำเนินการในระยะค่อนข้างสั้น แต่เป็นการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลถึงรายได้ต่อชุมชน ในสภาวะเข้าสู่ฤดูแล้ง

ทาง อบต.วังเหนือ จึงได้ดำเนินการเพาะเมล็ดมะละกอ พันธุ์แขกนวล กับพันธุ์ดำเนิน ซึ่งระยะเวลาปลูกแล้วเริ่มให้ผลผลิตก็จะประมาณ 2-3 เดือน จากการที่ได้ปลูกมา 2 เดือนกว่า ก็จะเห็นว่ามะละกอเริ่มออกดอกออกผลบ้างแล้ว ซึ่งก็จะเป็นการช่วยเสริมรายได้ให้กับพี่น้องในชุมชนเป็นอย่างดี

ส่วนการเก็บผลผลิต ระยะเวลาเก็บผลผลิตถ้าดูแลรักษาดีๆ ก็น่าจะเก็บผลผลิตได้เป็นปี ซึ่งในอนาคตตำบลวังเหนือจะเป็นตำบลที่ส่งออกมะละกอ ตอนนี้ก็เริ่มเพาะเมล็ด ซึ่งได้เพาะมาหลายรุ่นแล้ว แต่ช่วงรอบที่แล้วเจอปัญหาฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้มะละกอไม่ค่อยได้ผลผิต แต่ ณ ปัจจุบันนี้ ได้มาลองเปลี่ยนเพาะเมล็ดมะละกอ สำหรับปลูกหน้าแล้ง ซึ่งปัญหาอุปสรรคเรื่องน้ำของตำบลวังเหนือ ไม่มีเพราะได้ดำเนินการขุด และหาแหล่งน้ำเพื่อรองรับไว้พอสมควร การปลูก ดูแลรักษาก็ขึ้นอยู่กับชาวบ้านทาง อบต.ก็จะให้การส่งเสริมต่อไป

นายก อบต.วังเหนือ กล่าวต่อว่า รอบที่แล้วเพาะมะละกอ กว่า 10,000 ต้น แจกชาวบ้านหลังคาเรือนละ 10 ต้น ส่วนรอบนี้เพาะมะละกอไว้ จำนวน 4,000 ต้น หากชาวบ้านครัวเรือนไหนที่สนใจ อยากจะปลูกมะละกอ ไว้กิน และเป็นรายได้ และที่สำคัญเป็นแหล่งอาหาร เพราะว่ามะละกอพันธ์แขกนวล กับพันธุ์ดำเนิน เป็นมะละกอพันธุ์ที่มีผลกรอบสำหรับใช้ส้มตำ หากผลผลิตเหลือก็ขายในชุมชนหรือตำบลข้างเคียงได้

ลักษณะของมะละกอพันธุ์แขกนวล และพันธุ์ดำเนิน ผลมะละกอกรอบ ลำต้นค่อนข้างจะเตี้ยให้ผลผลิตเร็วกว่าพันธุ์อื่นๆ เหมาะสำหรับการปลูกเสริมสร้างเป็นรายได้ ซึ่งข้อดี เป็นพันธุ์มะละกอที่ทนต่อโรค และรับประทานตอนดิบ แต่มะละกอที่เป็นพันธุ์สุกจะมีปัญหาเรื่องของโรคเพลี้ยแป้ง ซึ่งจะเป็นปัญหาหนักมาก จึงได้นำเอามะละกอพันธุ์นี้มาลองเพาะปลูกในพื้นที่ - 003