"เลขารมว.ยุติธรรม" เผยดีเอสไอ เร่งตรวจสอบเส้นทางเงิน จนท.ราชทัณฑ์-ผู้คุม มีเอี่ยว"ประสิทธิ์"หลบหนีหรือไม่ ถ้าพบผิดจริงโทษติดคุก-ไล่ออกราชการ
ความคืบหน้าล่าสุดกรณีนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก หลบหนีออกจากห้องพิจารณาคดีที่ อาคารศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ภายหลังขออนุญาตเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมไปเข้าห้องน้ำ แต่ต่อมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ร่วมกันทำการจับกุมตัวไว้ได้ จนกระทั่งถูกนำตัวไปคุมขังแยกที่เรือนจำกลางบางขวาง ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (24 ธ.ค.65) ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขาฯ รมว.ยุติธรรม เปิดเผยถึงความคืบหน้าดังกล่าว ว่าเบื้องต้นในส่วนของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่มีความเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ในวันเกิดเหตุนั้น ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ทั้งเจ้าหน้าที่พัสดี และผู้ช่วยผู้คุม(ผู้ต้องขังที่มีคุณสมบัติผ่านการพิจารณา) เพื่อหาข้อเท็จจริงให้ได้ว่ากุญแจปลดเครื่องพันธนาการข้อเท้าของผู้ต้องขังนั้นหลุดออกจากกล่องเก็บไปได้อย่างไร หรือเป็นไปตามที่ตนตั้งข้อสันนิษฐาน ว่าผู้ช่วยผู้คุมอาจมีความเกี่ยวข้องมากที่สุด เนื่องจากในวันที่มีการเตรียมนำตัวผู้ต้องขังออกจากเรือนจำไปยังศาล ผู้ช่วยผู้คุมรายดังกล่าวคือบุคคลเดียวที่อยู่กับนายประสิทธิ์ ขณะที่เจ้าหน้าที่พัศดี ได้ไปค้นตัวผู้ต้องขังอีกสองรายแทน อีกทั้งผู้ช่วยผู้คุมรายนี้มีบทบาทหน้าที่ช่วยเหลือผู้คุมมายาวนาน
ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าวอีกว่า จากการที่นายประสิทธิ์ ออกไปศาลบ่อย อาจมีเวลาในการพูดคุยทีละสั้นๆกับบุคคลภายนอกขณะที่ถูกนำตัวขึ้นศาล แล้วก็รวบรวมข้อมูลตระเตรียมก่อนวางแผนก่อเหตุ จึงค่อนข้างมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ของราชทัณฑ์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่ระหว่างรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากทางคณะกรรมการ ฯซึ่งจะทราบผลภายในหนึ่งสัปดาห์เจ้าหน้าที่ทั้งหมด ที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุ จะได้ถูกย้ายไปยังส่วนกลางของกรมราชทัณฑ์ก่อน
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ห้องน้ำชั้น 9 ของศาลอาญา ขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่ไปยืนคุมการเข้าห้องน้ำของนายประสิทธิ์ คือ บุคคลเดียวกับที่กระชากเสื้อของนายประสิทธิ์ที่บริเวณชั้น 6 จนขาดและได้มีการตะโกนเรียกเจ้าหน้าที่ศาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจศาล รวมถึงเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์รายอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียงภายในอาคาร จึงเป็นไปไม่ได้ว่าเจ้าหน้าที่ที่เฝ้านายประสิทธิ์ในห้องน้ำนั้น จะมีส่วนรู้เห็นถึงการหลบหนีระหว่างพิจารณาคดีในครั้งนี้ "ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าว
นอกจากนี้ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต เผยอีกว่า เรายังได้มีการให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอร่วมตรวจสอบถึงเส้นทางการเงินของ
เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และบุคคลที่อยู่รอบตัวนายประสิทธิ์ในวันเกิดเหตุ เพื่อหาความเคลื่อนไหวทางรายการเดินบัญชีในช่วงที่ผ่านมา อาทิ เจ้าหน้าที่พัศดี ผู้คุม ผู้ช่วยผู้คุม รวมถึงผู้ต้องหาทั้งสามรายที่อยู่ในระหว่างการควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำขณะนี้ที่ให้ความช่วยเหลือนายประสิทธิ์ เพื่อดูว่ามีความเคลื่อนไหวในเรื่องของการโอนเงินเข้า-ออก สนับสนุนให้การช่วยเหลือในครั้งนี้หรือไม่
ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าวอีกว่า หากการสอบสวนข้อเท็จจริงปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ของราชทัณฑ์ไปมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวจริง โทษสูงสุดคือการถูกจำคุกและผิดวินัยร้ายแรง ก็ต้องถูกไล่ออกจากราชกา -009
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี