สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนป้าสายหยุด ซึ่งเป็นของนางสายหยุด จันทร์สว่าง อายุ 60 ปี ชาว อ.นาโยง จ.ตรัง ได้ปลูก “ต้นขาไก่” เอาไว้กว่า 400 ต้น โดยแบ่งเป็นต้นพันธุ์ที่ปลูกลงดิน เพื่อเก็บยอดและตอนกิ่งขายจำนวน 200 ต้น และกิ่งตอนพร้อมขายราคาต้นละ30 บาท อีกกว่า 200 ต้น ซึ่งต้นขาไก่เป็นพืชเศรษฐกิจทางภาคใต้ ชอบดินร่วนซุยน้ำไม่ท่วมขังและแดดร่มรำไร ลักษณะใบคล้ายกับใบผักเหรียงหรือผักเหมียง แต่มีสีเขียวเข้ม รียาว รสชาติหวานมัน แบบไม่ต้องเติมน้ำตาล สามารถกินสดเป็นผักเคียงได้ หรือนำมาทำอาหารได้หลากหลายเมนู

อีกทั้งมีข้อมูลทางวิชาการว่ามีธาตุเหล็กสูงกว่าผักทั่วไปถึง 40 ชนิด และมีคลอโรฟิลล์สูง ช่วยระบบขับถ่าย บำรุงสายตา บำรุงโลหิต ช่วยลดน้ำหนักและ เหมาะสำหรับกลุ่มคนรักสุขภาพ ทานได้ทุกเพศทุกวัย ซึ่งต้นขาไก่ 1 ต้น ใช้เวลาปลูกประมาณ 3-4 เดือน ก็สามารถเก็บยอดอ่อนไปกินหรือขายได้ ราคากิโลกรัมละ 70 บาท ซึ่งเมื่อยิ่งเก็บยอดอ่อนก็จะยิ่งแตกยอดออกมาใหม่ หมุนเวียนกันไปตลอดทั้งปีคล้ายกับผักเหมียง แต่รสชาติหวานมันกว่ามาก ทำให้ทางภาคใต้นิยมปลูกและหาซื้อไว้เป็นผัก
สวนครัว จนผลิตแทบไม่ทันกับความต้องการของตลาด

โดยเฉพาะเมนูพื้นบ้าน เช่น ขาไก่ต้มกะทิกุ้งสด ขาไก่ผัดไข่ ขาไก่แกงกะทิ แกงเลียงขาไก่ ขาไก่ลวกจิ้มน้ำพริกและอื่นๆ ทำง่าย เหมือนผักทั่วไป ไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก แถมยังปลอดภัยจากการใช้สารเคมี ส่วนเกษตรกรที่สนใจอยากชมแปลงปลูกต้นขาไก่แปลงใหญ่ในต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง สามารถติดต่อคุณสายหยุดได้ทาง
เฟซบุ๊ก สายหยุด จันทร์สว่าง หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 086-4763349

ด้านนางสายหยุด จันทร์สว่าง เกษตรกรผู้ปลูกต้นขาไก่ใน อ.นาโยง จ.ตรัง กล่าวว่า เท่าที่ทราบข้อมูลในเชิงวิชาการและมีเพื่อนที่เป็นแพทย์ทางเลือกมาเล่าสู่กันฟังว่า ได้เอายอดผักทุกชนิดประมาณ 40 ชนิดไปวิเคราะห์ที่สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งรวมทั้งยอดขาไก่ ปรากฏว่ายอดขาไก่มีธาตุเหล็กสูงที่สุดในบรรดายอดผักกว่า 40 ชนิด และมีคลอโรฟิลล์สูงมาก นำไปปรุงจะทำให้น้ำแกงหวาน เป็นความหวานของยอดไม้ที่มีความแปลกพิเศษกว่ายอดไม้อื่นๆ