เรียกสอบ3นายพล/80ตำรวจตม.
เอี่ยวทุนจีนสีเทา
‘บิ๊กโจ๊ก’ลั่นสั่งเชือดไม่ไว้หน้า
เค้นคอ16ตำรวจ-ทหาร-DSI
สมคบค้นรังทุนจีนอึมครึม
รีดหนัก9.5ล้านแลกปล่อยตัว
“บิ๊กโจ๊ก”จ่อเรียกสอบเจ้าหน้าที่ ตม. 80 นาย 3 นายพล เอี่ยวทุนจีนสีเทาทั้งเค้นคอ 16 ตำรวจ ทหาร ดีเอสไอ 16 ราย รีดเงินนายทุนจีนสีเทาทำวีซ่าปลอม ระบุกล้องวงจรปิดมัดตัว แต่ยังปากแข็ง เชื่อของกลาง 8 ล้าน แต่ส่งพนักงานสอบสวน 2.5 ล้าน ทั้งยังรีดเพิ่มอีก 4 ล้าน”ชูวิทย”เปิดคลิปการันตีซ้ำรีดกันซึ่งหน้า
เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เรียกประชุมติดตามความคืบหน้าคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ดีเอสไอ และทหาร รวม 16 คน ร่วมกันเรียกรับผลประโยชน์ 10 กว่าล้านบาท ปล่อยตัวผู้ต้องหาชาวจีน ที่บ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ซึ่งมีการแอบอ้างว่าได้รับการรับรองจากสถานกงสุลนาอูรูประจำประเทศไทย เปิดเป็นสถานที่ทำวีซ่าปลอมให้กับชาวจีนและนาอูรู แต่กลับนำตัวหญิงชาวจีนซึ่งเป็นคนดูแลบ้าน พร้อมเงินสดเพียง 2.5 ล้านบาท ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อตรวจสอบ โดยมีนายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.น.5 ,พ.ต.อ.กฤษดา มานะวงศ์สกุล ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ เข้าร่วมประชุม
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รอง ผบ.ตร.เปิดเผยว่า ที่ประชาชนตั้งคำถามว่าจริงหรือไม่ที่มีเจ้าหน้าที่รัฐประกอบด้วย ตำรวจ ทหาร ดีเอสไอ เข้าทำการตรวจค้นและยักยอกของกลาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบหมายหมายให้ตนร่วมกับรองปลัดกระทรวงยุติธรรมร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริงจนได้ความชัดเจน พบว่ามีทั้งดีเอสไอ ตำรวจ 191 ทหาร ร่วมกันเข้าตรวจค้นมีการตรวจยึดของกลาง พร้อมทั้งยักยอกของกลางและเรียกรับผลประโยชน์อีก 4 ล้านบาท วันนี้ของกลางยึดไปเพียง 2.5 ล้านบาท ยักยอกไปอีกจำนวนหนึ่งแล้วยังเรียกทรัพย์สินเพิ่มอีกจำนวนหนึ่ง
วันเสาร์ที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา จึงขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับตามพยานหลักฐานทั้งหมด ศาลเชื่อในพยานหลักฐานที่เรามีจึงได้ออกหมายจับทั้งหมด
ชี้ยังปล่อยคนจีนหลบหนีเพียบ
บ้านหลังดังกล่าวที่มีการกล่าวอ่าว่าเป็นสถานกงสุลนาอูรู ยืนยันว่าไม่ใช่สถานกงสุลนาอูรู เป็นบ้านที่คนจีนเข้าไปเช่าทำวีซ่าปลอมให้กับคนจีน คนนาอูรู เมื่อมีการตรวจค้นหรือดำเนินการโดยมิชอบ และยังส่งผลเสียปล่อยคนจีนหลบหนีไป เหตุเกิดวันที่ 22 ธ.ค. ตนมาทราบอีกทีหลังจากนั้น 5 วัน หลังจากเหตุเกิดคนจีนส่วนใหญ่มีหมายแดงของประเทศจีนได้ลบหนีออจากประเทศไทยทั้งหมด ทั้งหมดจึงมีความผิด 157 เป็นเจ้าพนักงานละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา 149 เรียกหรือรับผลประโยชน์ โทษหนักสูงสุดจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต ต้องไปดูว่ากี่กรรมกี่วาระ และอีกข้อหามาตรา 187 ทำลายวัตถุของกลาง
รอง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า เรื่องนี้หลังจากนี้แล้วยังจะประชุมกันต่อ ร่วมกันไล่ตรวจสอบต่อว่าใครเกี่ยวข้องอีกบ้าง ชุดทำงานที่ออกมามีอำนาจหน้าที่หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นดีเอสไอ ตำรวจ 191 การที่ออกมาทำงานแบบนี้ออกมาโดยมีอำนาจหน้าที่หรือไม่ ถ้าออกมาโดยไม่มีอำนาจหน้าที่เป็นการกระโดยโดยมิชอบอีกส่วนหนึ่ง แต่ถ้าออกมาโดยมีการสั่งการ ใครเป็นคนสั่งการ สั่งการโดยหัวหน้าหน่วยหรือไม่ อย่างกองบัญชาการตำรวจนครบาล ผบช.น.น่าจะไม่ทราบประเด็นนี้ ส่วนดีเอสไอ อธิบดีดีเอสไอทราบหรือไม่ คำถามเหล่านี้สังคมสงสัยหน้าที่ของตนต้องคลี่คลายให้ชัดเจน เมื่อเดินหน้าแล้วต้องทำเรื่องนี้ให้จบ
“ประเด็นข้อสงสัยต่างในการทำงานของแต่ละส่วน หลังจากประชุมเสร็จจะเรียกมาสอบทั้งหมดว่าบันทึกประจำวัน หรือคำสั่งการ มีการสั่งการหรือไม่ มีการออกเลขคำสั่งหรือไม่ โดยต้นเรื่องคดีนี้มาจากดีเอสไอเป็นเจ้าของเรื่อง ส่วนทหารกับล่ามจีนมากับดีเอสไอ ดีเอสไอมาประสานตำรวจ 191 ทั้งหมดเท่าที่ดูขณะนี้เป็นการประสานนอกระบบทั้งหมด ส่วนดีเอสไอที่เข้ามาแล้วมาขอค้นและประสาน 191 ใช้เหตุผลอะไร แล้วทำไม 191 ไปขอหมายค้นช่วยดีเอสไอในการค้น มีการสั่งโดยชอบหรือขออนุมัติผู้บังคับบัญชาโดยชอบหรือไม่ เพราะดีเอสไอการขอหมายค้นต้องเป็นการสั่งการของอธิบดี มีเลขอนุมัติการสืบสวน ถึงสามารถไปขอหมายค้นได้ ส่วนตำรวจ 191 สันนิษฐานในการขอหมายค้นคงเอาข้อมูลจากดีเอสไอ แต่ต้องสอบรายละเอียดทั้งหมดก่อน เรื่องนี้ไม่ได้จบแค่นี้ใครสั่งโดยมิชอบต้องโดน 157 และต้องสอบเส้นทางการเงิน ผบ.ตร.ให้ผมขยายต่อ เส้นเงิน โทรศัพท์เชื่อมใครบ้าง แต่ต้องขอเวลานิดหนึ่งเพราะพึ่งเข้ามารับผิดชอบ” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว
ของกลาง8ล้านลงบันทึก2.5ล้าน
โดยเงินทั้งหมดสันนิษฐานว่าในบ้านหลังดังกล่าวนั้นน่าจะมีอยู่ประมาณ 8 ล้าน รวมทั้งที่ส่งพนักงานสอบสวน 2.5 ล้านบาท แล้วมีการเรียกเพิ่มอีก 4 ล้าน ตอนนี้ยังไม่มีใครรับว่าเงินทั้งหมดอยู่ที่ไหนเดียวไล่ดูก็รู้ เมื่อวสอบไปสักพักไม่มีใครยอมตายเดี่ยว ต้องมีแน่แต่จะถึงใครเท่านั้นเอง ทั้งตำรวจและดีเอสไอคุยกันแล้ว่าตามข้อเท็จจริง สืบถึงใครก็ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน
ผู้สื่อข่าวถามถึงพฤติกรรมลักษณ์นี้เคยทำมาก่อนหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยว่า เท่าที่ทราบมีการกล่าวอ้างที่ชลบุรี อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเกี่ยวพันกันหรือไม่ คดีที่ชลบุรีเป็นตำรวจทำล้วนๆ แต่มีการกล่าวอ้างว่าดีเอสไออยู่ข้างหลังต้องตรวจสอบเสียก่อน ทุกอย่างว่าไปตามหลักฐานแต่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ชุดนี้เป็นคนละชุดกัน แต่ขณะนี้ยังไม่พบการเชื่อมโยง
รอง ผบ.ตร.กล่าวถึงบ้านหลังดังกล่าวว่า อดีตกงสุลนาอูรูเป็นคนเช่าแต่ไม่อยู่แล้ว แต่เป็นชาวจีนมาอยู่แทน ต้องไล่ต่อว่าคนจีนมาอู่ได้อย่างไร เพราะเจ้าหน้าที่สถานกงสุลยืนยันแล้วว่าตรงนี้ไม่ใช่สถานที่กงสุลของเขา ถ้าอดีตกงสุลที่ให้คนจีนมาอยู่ด้วยก็เป็นการสนับสนุน แต่ต้องตรวจสอบก่อนอย่าพึ่งด่วนตัดสินใจขึ้นอยู่กับข้อมูลการสืบสวนสอบสวน และคนจีนมีหมายแดงเข้าประเทศมาได้อย่างไร คนจีนกลุ่มนี้ไม่เกี่ยวกับกลุ่มทุนจินหลิง เป็นกลุ่มสีเทาที่รับทำวีซ่าปลอมให้กับคนจีนและคนนาอูรู
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ต้องประมวลเรื่องทั้งหมดเรียนท่าน ผบ.ตร.ให้มีข้อพิจารณาสั่งการ แต่การแจ้งข้อกล่าวหาได้แจ้งไปหมดแล้ว รวมทั้งการตรวจสอบหลักฐานทั้งหมดใช้เวลานิดหนึ่ง เรียนว่าขณะนี้มีคนร้ายเยอะแยะไปหมด แต่วันนี้ต้องใช้เวลามาจับตำรวจด้วยกันเอง จับเจ้าหน้าที่รัฐด้วยกันเอง ใช้เวลาเยอะมาก เมื่อเสร็จคดีนี้จะไปจับคดีอื่นต่อที่เป็นคดีอาชญากรรมไม่ต้องมาจับเจ้าหน้าที่รัฐด้วยกัน
เมื่อถามว่ายศเพียง “ร.ต.อ.” ไม่น่าจะดำเนินการเองได้ รอง ผบ.ตร.ตอบว่า ตัวผู้กองเป็นหัวหน้าชุดแต่การสั่งการต้องไล่ต่อ สั่งการอย่างไร สั่งการโดยชอบหรือไม่ มีอำนาจหรือไม่ มันชัดอยู่แล้วขอสอบนิดหนึ่ง ทั้งหมดทั้ง 16 คน มอบตัวหมดแล้ว แต่ทุกคนให้การปฏิเสธทั้งหมด การเข้าค้นมีการบันทึกภาพไว้ ตัวเซิฟเวอร์ทหารถอดออกมาเอากลับบ้านไม้ได้ยึดเป็นของกลาง แต่ไปเอามาหมดแล้วกู้ภาพได้ทั้งหมดแล้ว ที่เอากลับก็เพื่อต้องการทำลายพยานหลักฐาน ส่วนตัวกล้องมีล่ามของดีเอสไอที่เป็นล่ามเก็บภาพไว้ทั้งหมดทำให้เราเห็นชัดเจนมีเงินจริง ทุกคนปฏิเสธก็เป็นสิทธิ์ของเขา เรื่องนี้เรามีพยานหลักฐานชัดเจน
รองปลัดยธ.ร่วมแถลงข่าว
ด้าน นานวัลลภ รองปลัดกระทรงยุติธรรมเผยว่า ในส่วนของดีเอสไอมีเจ้าหน้าที่ระดับชำนาญการ เรื่องนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและปลัดกระทรวงยุติธรรมให้ความสำคัญ ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และมีการตั้งคณะกรรมการดำเนินการทางวินัยร้ายแรง ถ้าพบว่ามีความผิดโทษถึงไล่ออก ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาไม่เลือกปฏิบัติ การตรวจสอบตรวจสอบง่ายเพราะเป็นเรื่องเอกสาร มีกาสั่งการตามระเบียบหรือไม่ การรวบรวมหลักฐานไม่ซับซ้อน สามารถให้ออกจากราชการไว้ก่อนได้เหมือนกัน ทำงานควบคู่ไปกับในส่วนของตำรวจ ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอาญาก็ต้องส่งตำรวจ ถ้าเกี่ยวกับวินัยก็ต้องสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด
ตม.สอบ3นายพลเอี่ยวทุนจีนสีเทา
ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ยังกล่าวว่า ในส่วนของตำรวจ ตม. ทั้งอดีตผู้การและผู้การคนปัจจุบัน และเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ที่มีส่วนช่วยเหลือกลุ่มทุนจีนสีเทาให้เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยตอนนี้สืบสวนสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานจนเสร็จสิ้นแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งสัปดาห์นี้จะประชุมไล่เรียง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกว่า 80 คน ในจำนวนนี้รวมนายตำรวจยศ พล.ต.ต. 3 คน ซึ่ง 2 ใน 3 คน เป็นเพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 47 รุ่นเดียวกันกับ รอง ผบ.ตร. โดยย้ำจะต้องดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิดทุกรายอย่างเท่าเทียมกันไม่มีการละเว้น แม้จะเป็นเพื่อนกันก็ตาม
เบื้องตนเจ้าหน้าที่โดนสอบแน่80นาย
ภายในสัปดาห์หน้าจะเรียกเจ้าหน้าที่กว่า 80 นายมาแจ้งข้อกล่าวหา เบื้องต้นมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และมาตรา 149 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ แม้จำนวนเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนกระทำความผิดนั้นดูเหมือนจะเยอะ แต่กำลังพล ตม.โดยรวมมีมากกว่า 20,000 นาย ดังนั้น การจัดส่วนที่ไม่ดีออกไปจะทำให้องค์กรมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น หลังจากเรียกเจ้าหน้าที่ทั้งหมดมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว กระบวนการต่อไป คือ การดำเนินคดีทางอาญาที่จะต้องดำเนินการต่อเรื่องทรัพย์สิน โดยให้ ป.ป.ช.เข้ามาตรวจสอบ
สำหรับคดีนี้ที่พื้นที่ภาคเหนือ (ตม. 5) มีกว่า 1,000 กรณี ส่วนภาคอีสาน (ตม.4) มีกว่า 3,000 กรณี ที่มีการปล่อยให้กลุ่มคนจีนสีเทาเข้ามาอาศัยออยู่ในประเทศไทย โดยใช้วีซ่านักเรียนนักศึกษา หรือการต่อวีซ่า โดยใช้มูลนิธิอำนวยความสะดวก หรือแม้แต่การปลอมแปลงลายเซ็นของเจ้าหน้าที่หรือการแอบลักลอบใช้บ้านหรือเล้าไก่ตั้งเป็นมูลนิธิ ซึ่งตอนนี้เพิกถอนวีซ่าและดำเนินการจับกุมหมดแล้ว
ทั้งนี้ ได้มีการพูดคุยกับอุปทูตจีนมาโดยตลอด โดยรัฐบาลจีนและไทยส่งเสริมให้มีการปราบปรามกลุ่มคนจีนที่เข้ามาโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้เกิดความอุ่นใจและเชื่อมั่นต่อนักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางเข้ามาเที่ยวที่ประเทศไทย ซึ่งทุกวันนี้จะเห็นว่าคนจีนที่เป็นมิจฉาชีพรีบออกนอกประเทศหมดแล้ว เพราะกลัวเจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุม ซึ่งถือเป็นเรื่องดี
“ชูวิทย์”เปิดคลิปแฉแหลก
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์เฟซบุ๊ก ปล่อยคลิปแฉเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และตำรวจสายตรวจ 191 ค้นบ้านที่อ้างเป็นบ้านพักกงสุลใหญ่นาอูรู รับเงินปล่อย “กลุ่มทุนจีนสีเทา” พร้อมระบุว่า คลิป DSI + ตำรวจ 191 รับเงินปล่อย “จีนเทา” เรื่อง “จีนเทา” ผลประโยชน์เงินมาก กล้าจ่าย จึงหลุดรอดไปทุกครั้ง
ข้อมูลจากคลิ๊ฟของนายชูวิทย์คล้ายๆ กับที่บิ๊กโจ๊กแถลงข่าว แต่ลงลึกในรายละเอียดมากกว่า ทั้งระบุว่า ตอนนี้จีนบุกไทยหนัก แม้แต่ร้านอาหารแถวเยาวราช ห้วยขวาง ขยายกิจการหลายสาขาจนคนไทยสู้ไม่ได้ อาชีพบางอย่าง เขาสงวนไว้สำหรับคนไทยตามกฎหมายหากไม่เอาจริง ต่อไปคนจีนรุ่นใหม่เข้ามากวาดเรียบ แม้แต่มหาวิทยาลัยไทยยังถูกทุนจีนซื้องานนี้ไม่ยากครับท่านอธิบดี นิ้วไหนร้ายก็ตัดทิ้งไป
วันเดียวกัน นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยความคืบหน้าคดีทุนจีนสีเทาว่าคณะทำงานได้เร่งรัดเพื่อให้ทันกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี