กรมสรรพสามิตสั่งพักงาน จนท.รีดเงินร้านขายมือถือ ตั้งกรรมการสอบขีดเส้น 5 วัน
ความคืบหน้ากรณีชายชาวจีน อายุ 31 ปี เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ หลังถูกชายฉกรรจ์อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต เข้ามาขอตรวจค้นภายในร้านจำหน่ายอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ ก่อนที่จะจับผู้จัดการร้านและลูกน้องชาวเมียนมาขึ้นรถไป พร้อมกับเรียกรับเงินกว่า 3 แสนบาท แลกกับการปล่อยตัวนั้น
ล่าสุดวันนี้ (19 มกราคม 2566) นายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏข่าวทางสื่อกระแสหลักและสื่อสังคมออนไลน์ว่าเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพสามิตได้เข้าตรวจค้นร้านจำหน่ายอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ ซึ่งตั้งอยู่ซอยอู่ทอง 37/2 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยได้ดำเนินการจับกุมผู้จัดการร้าน และมีการเรียกรับเงิน เพื่อแลกกับการปล่อยตัวนั้น
กรมสรรพสามิตขอชี้แจงและให้ข้อมูลดังนี้ ในการเข้าตรวจค้นจับกุมร้านจำหน่ายอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือตามที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นจับกุมพบฐานความผิดในร้านดังกล่าวเป็นสินค้าแบตเตอรี่ ประเภทแบตเตอรี่มือถือ 465 ก้อน ตามข้อกฎหมาย มาตรา 204 ขายหรือมีไว้เพื่อขายสินค้าที่มิได้เสียภาษี ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 5-15 เท่าของค่าภาษี ซึ่งเจ้าของร้านให้การสารภาพและยอมรับความผิด อันเกิดจากการกระทำดังกล่าวมีการเปรียบเทียบปรับ จำนวน 80,101.48 บาท และค่าภาษี 16,020.30 บาท
อย่างไรก็ดี จากการที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้เข้าไปดำเนินการตรวจค้นจับกุมโดยไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของระเบียบในการจับกุมตรวจค้น รวมถึงประเด็นในเรื่องของการเรียกรับเงินจากผู้เสียหายทางกรมสรรพสามิตจึงได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดว่ามีการประพฤติมิชอบหรือไม่ โดยในเบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวพักงานและหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที พร้อมทั้งให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและรายงานผลให้ทราบภายใน 5 วัน หากพบว่าเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการดังกล่าวได้กระทำผิดจริง กรมสรรพสามิตจะดำเนินการลงโทษทางวินัยขั้นสูงสุดต่อไป
กรมสรรพสามิตขอให้ข้อมูลกับพี่น้องประชาชนว่า การดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบในการจับกุมตรวจค้นนั้น เจ้าหน้าที่ต้องแสดงตัว โดยแต่งเครื่องแบบกรมสรรพสามิตหรือแสดงบัตรข้าราชการในขณะปฏิบัติหน้าที่ และเมื่อจับกุมแล้วต้องทำบันทึกจับกุม โดยกรณีค่าปรับไม่เกิน 50,000 บาท สามารถปรับที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ได้เลย กรณีค่าปรับเกิน 50,000 บาท ต้องไปลงบันทึกประจำวัน ณ สถานีตำรวจที่เกิดเหตุ ก่อนนำตัวผู้ต้องหามาปรับที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ต่อไป ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่สรรพสามิต หรือพบการกระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1713 หรืออีเมล์ excise_hotline@excise.go.th
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี