"รณสิทธิ์"ร้อง ป.ป.ช.ตรวจสอบสถานบันเทิงของ"เสี่ยกำพล"ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์วิคตอเรียซีเครท ข้องใจทรัพย์สินไม่ถูกยึดอายัด แฉเจ้าหน้าที่ระดับสูง ปปง.อักษรย่อ ช.และ ป.มีเอี่ยว
เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ ยื่นหนังสือ ต่อ ป.ป.ช.ขอให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐ ช่วยเหลือ นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์วิคตอเรียซีเครท ไม่ให้ทรัพย์สิน ที่ดิน และอาคารเดอะลอร์ด ซอยรัชดา ซอย 7 และที่ดิน พร้อมอาคารโคปาคาบาน่า มูลค่าหลายพันล้านบาท ถูกยึดอายัด โดยเชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่ ปปง.รู้เห็น และนำมาสู่การจะเปิดกิจการใหม่ ทั้งเดอะลอร์ด และโคปาคาบาน่า โดยกลุ่มทุนพนันออนไลน์ กลุ่มทุนจีน และกลุ่มนอมินีของนายกำพล ในวันนี้จึงมายื่นหนังสือให้ตรวจสอบว่านายกำพลให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่
โดยมีข้อมูลว่า ในช่วงที่เกิดเหตุเมื่อปี 2561 นายกำพลก็มีความสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่ ปปง.ระดับสูง 2 คน ชื่อย่อ ช.และ ป.มีการจ่ายเงินมูลค่า 50 ล้านบาท และพระเครื่อง ซึ่งไม่ทราบว่าเหตุดังกล่าวมีความเกี่ยวเนื่องจนทำให้สถานบริการดังกล่าวได้รับการยกเว้น หรือปล่อยจากการถูกยึดและอายัดจากคดีดังกล่าวหรือไม่
นายรณสิทธิ์ ยังเปิดเผยด้วยว่าสถานอาบอบนวดที่ชื่อเดอะลอร์ด ที่จะกลับมาเปิดใหม่ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "เดอะพาเลส" ซึ่งเป็นการเข้ามาดำเนินธุรกิจโดยกลุ่มทุนใหม่ ชื่อย่อ ธ.ซึ่งก็เป็นเครือข่ายของนายกำพล ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นการเข้ามาทำธุรกิจในลักษณะนอมินี หรือโยกย้ายถ่ายเททรัพย์สินที่ไม่ถูกยึด และนาย ธ.เป็นบุคคลที่อยู่ในแวดวงการพนัน และได้ดึงกลุ่มทุนจีน ที่อยู่ในแวดวงพนันเข้ามาร่วมธุรกิจ และยังมีลูกชายของนายกำพล คือ นายธนพล และ นาย บ.ที่เป็นทุนหลักของนายกำพล
ทั้งนี้ มีข้อสังเกตว่า ในปัจจุบันธุรกิจอาบอบนวด ค่อนข้างที่จะซบเซา ประกอบกับทรัพย์สินและตึกของสถานบริการดังกล่าว อยู่บนถนนรัชดา ซึ่งมีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท จะคุ้มค่ากับการเข้ามาลงทุนหรือไม่ หรือว่าจะเป็นกลุ่มทุนจีนสีเทาเข้ามาลงทุนเพื่อฟอกเงิน รวมทั้งการให้เช่าสถานที่อาบอบนวดโคปาคาบาน่า และใบอนุญาตประกอบธุรกิจ 3 ใบ ที่กลุ่มลาลิซ่า 2020 เข้ามาเซ้ง ก็ควรจะตรวจสอบว่าเป็นการเข้ามาเพื่อฟอกเงิน หรือเป็นนอมินีของนายกำพล หรือไม่
"แต่ที่สงสัยคือ ทรัพย์สินเหล่านี้กลับมาเปิด แทนที่จะถูกยึดหรืออายัดจากทาง ปปง.จึงได้มายื่นหนังสือเพื่อให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบว่าทรัพย์สินของนายกำพล ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ ทำไมจึงไม่ถูกยึดหรืออายัด และมีการให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่" นายรณสิทธิ์ กล่าว
นายรณสิทธิ์ ยังกล่าวว่า ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของมูลนิธิฯ และเข้ามาช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ หลังเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปช่วยเหลือ จับกุมผู้กระทำผิด ซึ่งได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐในการดำเนินคดีตั้งแต่ต้น รวมถึงการติดตามตรวจสอบการทำงาน ว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาช่วยเหลือผู้กระทำผิดหรือไม่ จึงเป็นสาเหตุที่เราต้องติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง
นายรณสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ในการเข้าจับกุมและตรวจสอบของดีเอสไอ ที่ผ่านมาพบเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับนายกำพล , นายธนพล และ นางนิภา วีระเทพสุภรณ์ ภรรยาของนายกำพล จึงมีการออกหมายจับทั้ง 3 คน แต่ภายหลัง คณะกรรมการอัยการ ฝ่ายคดีค้ามนุษย์ มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องนายธนพล และนางนิภา ในคดีค้ามนุษย์ และคดีที่เกี่ยวข้อง ส่วนนายกำพล ยังมีคดีค้ามนุษย์และคดีอื่นๆ รวม 12 คดี แต่ล่าสุดได้ตรวจสอบในเรื่องของหมายจับ พบว่าไม่มีหมายจับแล้ว หรือจะมีการสั่งไม่ฟ้องแล้วหรือไม่ ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่าทั้ง 3 คน มีหลักฐานชัดเจนในเรื่องเงินที่ถูกโอนเข้าบัญชี แต่ทำไมจึงไม่ถูกฟ้อง ทั้งที่เรื่องนี้เทียบเคียงได้กับคดีอาบอบนวดนาตารี และในวันนี้ยังได้ยื่นเรื่องทวงถามความคืบหน้ากรณีที่ยื่นคำร้องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบคำสั่งอัยการ กรณีไม่ฟ้องนายธนพล และนางนิภา ลูกและภรรยานายกำพล ที่ยื่นไปแล้วตั้งแต่ ส.ค.2564
นายรณสิทธิ์ ยังเปิดเผยว่า ข้อมูลเบื้องต้นที่ได้จากดีเอสไอยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่านายกำพลขณะนี้พำนักอยู่ต่างประเทศหรือในประเทศ แต่ในส่วนของนายธนพล และนางนิภา อยู่ในประเทศไทย และนายธนพลปัจจุบันเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามบริษัท เซเว่น ฮอลิเดย์ โฮเท็ล จำกัด ซึ่งบริษัทดังกล่าวถือกรรมสิทธิ์ที่ดินของเดอะลอร์ด และมีการลงนามให้กลุ่มทุนใหม่เปิดดำเนินกิจการ ในชื่อใหม่ที่ชื่อว่า "เดอะพาเลส"
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี