พ่อน้องแสตมป์หนูน้อยวัย 4 ขวบเหยื่อลุงเสพยาบ้าซิ่งกระบะชนดับ ขณะนั่งกินข้าวกับหมูปิ้งหน้าบ้าน ร้องขอความเป็นธรรม หลังผ่านไป 3 เดือนไร้การเยียวยาจากคู่กรณี ไม่มีแม้แต่คำขอโทษ หรือขอขมาศพ ด้านตำรวจเผยสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการแล้ว ล่าสุดทราบว่ามีการสั่งฟ้องแล้ว
จากกรณีที่รถยนต์กระบะตอนเดียว ยี่ห้อนิสสัน สีเขียว ทะเบียนจังหวัดบุรีรัมย์ กระบะหลังกั้นคอกใช้สำหรับบรรทุกวัวควาย พุ่งข้ามเลนชนรถยนต์ ยี่ห้อฟอร์ดเรนเจอร์ ก่อนที่รถกระบะสีเขียวจะเสียหลักพุ่งเข้าไปชนร้านขายของริมถนน บริเวณบ้านไทรโยง ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 พ.ย.65 ขณะที่คุณแม่กำลังนั่งป้อนข้าวเหนียวหมูปิ้งน้องแสตมป์ ลูกชายวัย 4 ขวบ และน้องสตังค์ ลูกสาววัย 5 ขวบ อยู่โต๊ะไม้หน้าบ้านโดยคุณแม่คว้าลูกสาวคนโต วัย 5 ขวบหลบได้ทัน แต่น้องแสตมป์ ลูกชายคนเล็กวัย 4 ขวบถูกชนอัดกับโต๊ะเต็มแรง จนบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนใจกับครอบครัวเป็นอย่างมาก
กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ สามารถติดตามจับกุมตัวนายสมรวย อายุ 65 ปี ชาว ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะที่พุ่งชนร้านค้าจนน้องแสตมป์วัย 4 ขวบเสียชีวิตเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายตามที่นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ความคืบหน้าล่าสุดเพจเฟสบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 โพสต์ข้อความ ระบุว่า คุณแม่น้องขอความเป็นธรรมสื่อสังคมช่วยตามประเด็นและตรวจสอบให้ด้วย เมาเสพยาชนน้องเสียชีวิตไร้ซึ่งการเยียวยาชดใช้ดูแล พร้อมโพส์ตคลิปวงจรปิดเหตุการณ์วันเกิดเหตุด้วย
ล่าสุดทีมข่าวได้ติดต่อไปยังพ่อและแม่ของ "น้องแสตมป์" ทราบว่า ขณะนี้อยู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เตรียมทำบุญครบรอบ 100 วันให้กับ "น้องแสตมป์" ที่จะครบกำหนดในวันที่ 14 ก.พ.2566 นี้
โดยผู้สื่อข่าวได้วีดีโอคอล พูดคุยกับนายนพดล สิงหพันธ์ พ่อน้องแสตมป์ บอกว่า ตนและภรรยายังทำใจไม่ได้ที่ต้องเสียลูกชายอันเป็นที่รักไป อีกทั้งระยะเวลาผ่านไปกว่า 3 เดือนแล้วก็ยังไม่รู้ว่าคดีคืบหน้าไปถึงไหน ซึ่งตนไม่รู้ว่ากระบวนการเป็นอย่างไร แต่ในฐานะพ่อแม่ที่สูญเสียลูกมองก็ว่าค่อนข้างล่าช้า เพราะคดีก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากพยานหลักฐานก็ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ที่คาใจมากที่สุดคือทราบว่าทางคู่กรณีได้รับการประกันตัวในชั้นศาล ออกมาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านตามปกติ แต่ทำไมตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงตอนนี้ คู่กรณีไม่เคยมาติดต่อพูดคุยแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่แม้แต่จะมาขอโทษหรือขอขมาศพก็ยังไม่เคยแต่กลับไปให้ข่าวกับสื่อว่าให้ลูกไปขอขมาไปช่วยงานศพแล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย
จึงอยากฝากถึงคู่กรณีว่าถ้าฝั่งเขาเป็นฝ่ายสูญเสียบ้างจะรู้สึกยังไงจะอยากให้คนที่เขากระทำรับผิดชอบยังไงบ้าง ถ้าเขาคิดไม่ได้แสดงว่าเขาก็ไม่ใช่มนุษย์แล้ว ซึ่งตนก็เชื่อว่าเขาน่าจะมีลูกหลาน หรืออาจจะมีลูกหลานที่อายุเท่ากับลูกชายของตนเองที่ถูกชนเสียชีวิตด้วยซ้ำ ก็อยากให้ออกมาแสดงความผิดชอบเยียวยาครอบครัวที่เขาสูญเสียบ้าง มาขอโทษ ขอขมาบ้าง ส่วนเรื่องคดีก็ให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
ด้านความคืบหน้าคดีจากการสอบถามพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีให้ข้อมูลว่า หลังเกิดเหตุก็ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และสรุปสำนวนคดีส่งพนักงานอัยการตามขั้นตอนแล้ว โดยได้แจ้งไปทั้งหมด 4 ข้อหา คือ “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนรถคันอื่นมีผู้อื่นถึงแก่ความตาย ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย และข้อหาขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น โดยไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควรและไม่แจ้งเหตุต่อตำรวจที่ใกล้เคียงทันที และแสดงตัวแจ้งชื่อตัวชื่อสกุลและที่อยู่ของตนและหมายเลขทะเบียนแก่ผู้ได้รับความเสียหายด้วย, เสพสารเสพติด และเสพขับ (เมาแล้วขับ” ขณะนี้คดีอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล ยืนยันทำคดีตรงไปตรงมา ไม่ล่าช้า เป็นไปตากระบวนการขั้นตอน - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี