‘ประยุทธ์’ฮึ่ม!จัดการตร.เอี่ยวเว็บพนัน
สั่งเชือด‘นายพล’
ลั่นไม่ปกป้องใครทั้งสิ้น-ขจัดคนไม่ดี
บช.ก.เช็คเส้นทางเงิน‘สารวัตรซัว’
‘สันธนะ’ยื่นDSIสอบโยงรายใหญ่
มท.แจ้งเอาผิด‘เป็นต่อกรุ๊ป’3ข้อหา
สั่งผู้ว่าฯทั่วปท.ตรวจมูลนิธิผิดก.ม.
“บิ๊กตู่” ลั่น จัดการเด็ดขาด“นายพล”เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยืนยันไม่ปกป้องใครทั้งสิ้น เมื่อไม่ดีก็ต้องขจัดออกไป ย้ำตนเองไม่เคยทุจริต แม้แต่บาทเดียว ด้าน ผบช.ก.เรียกประชุมชุดทำงานคดี แบ่งงาน เร่งตรวจสอบเส้นทางเงิน‘สารวัตรซัว’พัวพันเว็บพนันรายใหญ่ มาเก๊า888 พร้อมเปิดรับทุกข้อมูล ยืนยันตรวจสอบอย่างเต็มที่แน่นนอน ลั่นลูกหลานบิ๊กคนไหน เอี่ยวก็ไม่สน ด้าน’สันธนะ’ไม่เชื่อใจ ตร.สอบกันเอง หอบ ข้อมูล183หน้า ยื่นDSIสอบ แก๊งค้ายารายใหญ่-กลุ่มเอ็ดดี้- เจ้าพ่อเว็บพนัน’เชื่อโยง’สารวัตรซัว’ จี้นายพลจ.นำเงินที่ไหนสร้างคฤหาสน์
เมื่อเวลา12.00 น.วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบาย พลังงานแห่งชาติ(กพช.)ครั้งที่1/2566กรณีที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับ“นายพล”เกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาบ่อนออนไลน์ในช่วงนี้ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนตนกำชับไปว่า หากสอบสวนแล้วมีผู้เกี่ยวข้องชัดเจนก็ต้องลงโทษเท่านั้นเอง เราต้องทำแบบนี้ที่ผ่านมา จะมีการปกปิดกันอย่างไร ตนไม่ทราบแต่วันนี้เมื่อมีการแจ้งเข้ามาจากประชาชน ต้องขอขอบคุณที่ส่งหลักฐานและมีข้อมูลต่างๆเข้ามาก็ต้องดำเนินการและดำเนินคดี
นายกฯยันไม่ปกป้องใครทั้งสิ้น
“ความจริงแล้ว มันเกิดมานานพอสมควร ถ้ามองย้อนกลับไปจากข้อมูลที่ให้มา วันนี้เราก็เอาจริงเอาจังไม่รู้หรอก มีเรื่องมีราวอะไรมา อีกทั้ง เมื่อวันก่อนได้มีการออกระเบียบในเรื่องของข้าราชการทุกประเภทไปแล้ว จะลงโทษสถานหนักทางวินัยและอาญา ให้ออกจากราชการไว้ก่อนในทำนองนี้ซึ่งออกไปแล้ว วันนี้เราต้องช่วยกันแก้ไข เพราะเรื่องเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่หนึ่งถึงสองวัน เกิดมานานแล้วก็อยากจะทำและแก้ไข แต่ก่อนไม่มีหลักฐาน ไม่มีใครร้องเรียน แต่วันนี้ ถือเป็นเรื่องดีที่มีคนร้องเรียนเข้ามาจะได้ทำได้สะดวก รวดเร็วขึ้น และยืนยันไม่ปกป้องใครทั้งสิ้น”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่าจำเป็นต้องเร่งปฏิรูปตำรวจก่อนหมดสมัยรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าเรื่องการปฏิรูปตำรวจ ต้องเข้าใจก่อนว่าการปฏิรูปคืออะไร ต้องปฏิรูปทั้งด้านของการทำงาน ด้านโครงสร้างต่างๆ พ.ร.บ.ตำรวจก็ผ่านสภาฯออกมาแล้ว แต่ความจริงสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องของคุณธรรมจริยธรรมของตำรวจแต่ละคน ยอมรับว่า ยังมีปัญหาอยู่ วันนี้ต้องให้กำลังใจกับคนดีดีที่ทำงาน ตำรวจดีมีเยอะแยะแต่คราวนี้เราต้องขจัดคนไม่ดีออกไปก็เท่านั้น การปฏิรูปตำรวจ ไม่ใช่ว่าจะทำได้ทันที เพราะมนุษย์ ก็คือมนุษย์มีทั้งดีไม่ดี เมื่อไม่ดีก็ต้องขจัดออกไป สิ่งที่ตนพูดเสมอก็คือการสร้างอุดมการณ์สร้างคุณธรรมจริยธรรม
ยันไม่เคยทุจริตแม้แต่บาทเดียว
“ผมยืนยันได้ว่าผมไม่ทุจริต แม้แต่บาทเดียว ในทุกวันนี้ผมพูดได้ เพราะผมรู้ว่าผมทำอะไรอยู่ ผมไม่เคยทำสิ่งเหล่านี้ ถ้าเราปลูกฝังเรื่องเหล่านี้ไม่ได้ สิ่งดีๆมันก็จะไม่เกิดขึ้น พอกันเสียทีเถอะ เรื่องการทุจริต การแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว ขอให้พอ”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
บช.ก.ถกชุดสอบเส้นทางเงินสารวัตรซัว
ที่กองบัญชาการตำรวจสิบสวนกลาง(บช.ก.)เวลา 11.00 น.พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เรียกประชุมชุดคณะทำงานตรวจสอบตรวจสอบเส้นทางการเงินและธุรกิจของเครือข่ายของพ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล หรือ‘สารวัตรซัว’อดีตสว.ฝ่ายโยธาธิการ2กองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุงที่มีส่วนพัวพันกับเว็บไซต์รับพนัน มาเก๊า 888 โดยคณะทำงาน ประกอบด้วย พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย จเรตำรวจ(สบ.8.)ปฏิบัติราขการสอบสวนกลาง พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รอง ผบก.ปทส.และเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียง
ทั้งนี้ ก่อนประชุมพล.ต.ท.จิรภพเผยว่าเบื้องต้นได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สันติ ดูแลเรื่องงานสืบสวน ส่วน พล.ต.ต.สุวัฒน์ดูแลเรื่องการสอบสวน ส่วนตำรวจในสังกัดต่างๆให้สืบสวนสนับสนุนชุดทำงานหาข้อมูลต่างๆ เพื่อนำมาประเมินและวิเคราะห์จากนั้นจะนำมาสรุปการทำงานขั้นต่อไปอีกครั้ง
กำชับเน้นสอบที่มาที่ไปของเงิน
หลังประชุมเสร็จสิ้น พล.ต.ท.จิรภพเผยว่าวันนี้เป็นการประชุมคณะทำงานคดีสารวัตรซัวที่แต่งตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง หลักๆ จะเน้นไปที่เรื่องเกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์หรือไม่ และทรัพย์สินต่างๆของผู้ถูกกล่าวหาว่า มีที่มาเป็นอย่างไร ส่วนผู้ถูกกล่าวหามีความเชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยี อาจมีการโยกย้ายทรัพย์สิน หรือทำลายหลักฐานต่างๆทำให้ยากต่อการตรวจสอบหรือไม่นั้นเรื่องนี้มีเป็นกังวลอยู่บ้างเพราะเรื่องเกิดขึ้นมาสักระยะหนึ่งแล้ว จนอาจมีการโยกย้ายทรัพย์สินและเส้นเงินก็เป็นได้
“เชื่อว่าอาชญากรรมไม่ว่าจะรูปแบบใดย่อมทิ้งร่องรอยหลักฐานไว้หากกระทำผิดจริง เชื่อว่าเจ้าหน้าที่สามารถแกะรอยตรวจสอบได้อย่างแน่นอน อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลต่างๆคงต้องขอเวลาสักระยะหนึ่งเมื่อพยานหลักฐานมีมากพอ จะตั้งเป็นคดีโดยเชื่อว่าจะสามารถไปต่อได้อย่างแน่นอน”พล.ต.ท.จิรภพย้ำ
ลั่นลูกหลานบิ๊กคนไหนเอี่ยวก็ไม่สน
เมื่อถามถึงกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหามีเพื่อนร่วมรุ่นเป็นลูกของอดีตบิ๊กตำรวจ และยังมีความสัมพันธ์กับนายพล จ. นั้น จะมีผลต่อการทำงานหรือไม่ พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่าเราดำเนินการตามข้อเท็จจริง จะเป็นลูกใครหลานใคร ไม่ใช่ประเด็นหรือสาระ เรายึดตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริงและกฎหมายเป็นที่ตั้ง ส่วนเรื่องบทลงโทษทางวินัยนั้น คงเป็นหน้าที่ของต้นสังกัด ทาง บชก.ดำเนินการเฉพาะคดีอาญา หากปรากฎข้อเท็จจริงใดๆ ทางเราจะรายงานความคืบหน้าไปยังผบ.ตร.ทุกขั้นตอนอยู่แล้ว
เปิดรับทุกข้อมูลลุยสอบเอาผิด
ทั้งนี้พล.ต.ท.จิรภพ ยังกล่าวอีกว่าคณะทำงานยินดีเปิดรับข้อมูลจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ หรือใครก็แล้วแต่สามารถส่งมาได้เพราะข้อมูลที่ได้มาถือว่าเป็นประโยชน์ทุกข้อมูล และจะนำข้อมูลที่ส่งมาไปตรวจสอบต่อ ส่วนข้อมูลที่นายชูวิทย์ให้มานั้นก็มีจำนวนมากและเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ที่จะต้องตรวจสอบ หากปรากฏเป็นข้อเท็จจริง ที่ผิดกฎหมาย จะใช้ดำเนินคดีต่อไป ส่วนการจะเรียกนายชูวิทย์ มาให้ปากคำหรือไม่ เป็นเรื่องของอนาคต
มท.แจ้งเอาผิดมูลนิธิ‘เป็นต่อกรุ๊ป’
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทยเปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้มอบหมายให้กรมการปกครองดำเนินการตรวจสอบกรณีมีการใช้ชื่อระบุว่า”มูลนิธิเป็นต่อกรุ๊ป”พบว่าไม่ได้จดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ในวันนี้มอบหมายให้พนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ในฐานะหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการรับจดทะเบียนมูลนิธิ ไปแจ้งความต่อ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของมูลนิธิเป็นต่อหลังพบว่าไม่ได้มีการจดแจ้งขออนุญาตก่อตั้งมูลนิธิ
3ข้อหา-ร่วมกองปราบฯขยายผล
โดยเข้าข่ายความผิดใน3ความผิดฐานคือ1.ผิดพระราชบัญญัติกำหนด ความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัดสมาคมและมูลนิธิ พ.ศ.2499 ที่ได้ใช้คำว่า “มูลนิธิ” ประกอบกับชื่อในดวงตราและเอกสารอื่นเกี่ยวกับธุรกิจโดยไม่ได้มีการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ 2.ผิดพระราชบัญญัติควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ.2487มาตร 8 ประกอบมาตรา17และ 3.ผิดพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พ.ศ. 2560 มาตรา 14 นำข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์และได้กำชับให้กรมการปกครองได้บูรณาการประสานงานการทำงานร่วมกับกองบังคับการปราบปรามอย่างใกล้ชิดเพื่อทำการสอบสวนขยายผลต่อไป
อีกทั้ง ยังได้ลงนามหนังสือถึงปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(DEs)ภายหลังกระทรวงมหาดไทย ได้ดำเนินการตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ https:/www.pentorfoundation.com ซึ่งการกระทำของบุคคลที่แอบอ้างใช้คำว่า”มูลนิธิ”ผ่านเว็บไชต์ดังกล่าว อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายและเป็นการกระทำที่อาจทำให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่ากิจการนั้น เป็นมูลนิธิอาจเป็นการกระทำโดยทุจริต หรือ หลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อกระทรวง DEs พิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
สั่งผู้ว่าทุกจว.สอบมูลนิธิส่อผิดกม.
“กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการไปยังผู้ว่าฯทุกจังหวัดในฐานะนายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดกำชับนายอำเภอทุกอำเภอ ตรวจสอบการดำเนินงานของมูลนิธิต่างๆที่อาจเกี่ยวพันกับธุรกิจผิดกฎหมายว่ามีการขออนุญาตก่อตั้งมูลนิธิ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ที่ผิดกฎหมายรวมทั้งตรวจสอบการดำเนินกิจการของมูลนิธิที่ก่อตั้งแล้ว หากพบความผิดปกติทางการเงินหรือไม่ได้มีกิจกรรม หรือมีการดำเนินการที่เข้าข่ายความผิด ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด”ปลัดกระทรวงมหาดไทย ย้ำ
‘สันธนะ’ยื่นDSIสอบแก๊งค้ายารายใหญ่
วันเดียวกัน ที่อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ กทม. นายสันธนะ ประยูรรัตน์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รักษาราชการแทน อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อมอบข้อมูลเอกสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่และรายการทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิดของกลุ่มนายเอ็ดดี้-พันณรงค์ ขุนพิทักษ์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด พร้อมความเชื่อมโยงว่า ทั้งหมดร่วมกันฟอกเงินการทำเว็บพนันออนไลน์กลุ่ม‘สารวัตรซัว’ซึ่งมี นายสมเกียรติ เพชรประดับ ผู้อำนวยการส่วนพิจารณาสำนวนร้องทุกข์กองบริหารคดีพิเศษ ดีเอสไอเป็นตัวแทนรับเรื่องซึ่งเอกสารที่ยื่นมีจำนวนกว่า183แผ่น
เชื่อเอ็ดดี้- เจ้าพ่อเว็บพนันโยง’สารวัตรซัว’
นายสันธนะกล่าวว่ามาดีเอสไอวันนี้เพราะไม่เชื่อใจการตรวจสอบกันเองของตำรวจเนื่องจากเมื่อปี 64ตนเคยนำเอกสารเหล่านี้มอบให้กับ อดีตผบ.ตร.แบ่งกลุ่มคนกระทำผิดไว้ชัดเจนทั้งกลุ่มของ สารวัตรซัว กลุ่มนายเอ็ดดี้ กลุ่มนายชัย ฟันเหล็ก รวมถึงรายชื่อเว็บไซต์พนันออนไลน์กว่า 240 เว็บไซต์ แต่เรื่องราวเงียบ ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ข้อมูลเหล่านี้ตนดำเนินการเก็บรวบรวมมา2 ปีเศษ ไม่ได้มีแค่ชื่อ-นามสกุลแต่มีข้อมูลความเชื่อมโยงต่างๆดังนั้นจึงคาดหวังกับดีเอสไอมากกว่าในการตรวจสอบเพราะการให้ออกจากราชการไว้ก่อนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผมไม่เห็นด้วย เนื่องจากเชื่อว่าเมื่อเรื่องเงียบแล้ว เรื่องแบบนี้ก็กลับมาใหม่อีกครั้ง
และว่าการที่สารวัตรซัว ถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อนนั้น อาจจะเป็นเพราะ ตนเคยกล่าวไว้ว่าหากจะให้ตนนำพยานหลักฐานไปมอบให้ จะต้องเอาตัวสารวัตรซัวมานั่งพูดคุยต่อหน้าด้วย เเละตนจะเอาพยานหลักฐานเหล่านี้วางกองอยู่ต่อหน้าสารวัตรซัวจึงเป็นเหตุผลให้สารวัตรซัวถูกให้ออกจากราชการเพราะเขาไม่ยอมมาพบ อีกทั้งที่ผ่านมาสารวัตรซัวขาดราชการไปเป็นปีๆ ตนเคยไปที่โต๊ะทำงานเขา พบว่าฝุ่นเกาะหนาเตอะ ไม่ได้เข้ามาปฏิบัติราชการเลย
แฉทำธุรกิจผิดกม.ครบวงจรอีก14แห่ง
“เมื่อปี2564อดีตสารวัตรซัว ยังได้มีการเปิดตลาดไชยทิศ บริเวณเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน บนพื้นที่ 16ไร่ ที่มีความทันสมัยและใหญ่ที่สุดย่านฝั่งธนบุรี ภายใต้สโลแกน สะดวก สะอาด ปลอดภัย ใส่ใจสังคมในคอนเซ็ปต์”เชฟ ช็อป” โดยมีนักการเมืองจากพรรคขนาดใหญ่ชื่อดังรายหนึ่งไปร่วมเปิดตลาดด้วย อีกทั้ง ยังมีนายตำรวจยศ ร้อยตำรวจโท เข้าร่วม เพื่อให้เห็นว่าเป็นหุ้นส่วนกัน สำหรับธุรกิจของ สารวัตรซัว มีจำนวนมาก ทั้งการเป็นเจ้าของเซิร์ฟเวอร์ มาสเตอร์เอเจนซี่ ทำโดยไม่หวั่นเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง ทำธุรกิจผิดกฎหมายครบวงจร และยังมีธุรกิจที่อยู่ระหว่างดำเนินกิจการทั้งหมด 14 แห่ง”นายสันธนะ ระบุ
ส่ง2เบอร์มือถือสารวัตรซัวให้DSI
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่านายสันธนะยังได้โทรศัพท์หา สารวัตรซัว จำนวน 2 เบอร์ โดยเบอร์แรก ไม่มีคนรับสาย ส่วนอีกเบอร์คล้ายติดสายอื่นอยู่ซึ่งหมายเลขโทรศัพท์ทั้งสองเบอร์นี้ นายสันธนะจะมอบให้ดีเอสไอ ไปตรวจสอบการใช้ข้อมูลโทรศัพท์ว่าอดีตสารวัตรซัวได้โทรศัพท์หาผู้ใหญ่รายใดบ้างหรือไม่
จี้นายพลจ.เอาเงินไหนสร้างคฤหาสน์
ขณะเดียวกัน นายสันธนะยังได้นำภาพถ่ายของตำรวจยศ พลตำรวจโท จ.ปรากฏเป็นภาพคฤหาสน์ขนาดใหญ่ที่เพิ่งสร้างเสร็จ และมีงานทำบุญขึ้นบ้านใหม่มาเปิดเผยต่อสื่อมวล ชน พร้อมกับตั้งคำถามว่า บ้านหลังดังกล่าว มีที่มาอย่างไร ใช้เงินจากอะไรไปสร้าง พร้อมกับขอให้ออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจหากไม่ได้ทำความผิด แต่ถ้าอยากรับผิดชอบ แสดงความบริสุทธิ์ใจ ก็ขอให้ถอดตัวเองออกจากตำแหน่งไปก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี