ศาลแพ่งเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมบางส่วนให้"สนธิทอล์ค"พูดได้ ยกเว้นประเด็นบริษัท ไมนิ่งโปร ขุดไฟหลวงของแทนไท ขายคลิปโต หลังยื่นคำร้องต่อศาลขอยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของ"แทนไท" ขณะที่คู่กรณีส่งทนายยื่นคำร้องให้ศาลออกหมายจับที่ยังพาดพิงถึงธุรกิจสีเทา แต่ศาลแพ่งยกคำร้อง
เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 66 ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ กปปส. ผู้ดำเนินรายการ สนธิทอล์ค (Sonchitalk) พร้อมน.ส.อัจฉรา แสงขาว ทนายความ ได้มายื่นคำร้อง ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว กรณีที่ศาลมีคำสั่งไม่ให้เผยแพร่รายการโทรทัศน์ออนไลน์ “สนธิทอล์ค” พูดหรือแสดงข้อมูลใด ๆ ให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่า นายแทนไท ณรงค์กูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เป็นเจ้าของเว็บไซต์เล่นพนันออนไลน์ ฟอกเงิน และบริษัท ไมนิ่งโปร จำกัด ซึ่งโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นลักกระแสไฟฟ้ามาใช้ ฯลฯ ทุกช่องทางเป็นการชั่วคราว พร้อมทั้งขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินคำร้องฯ ด้วย
จากกรณีนายแทนไท มอบหมายให้ทนายความนำหลักฐานยื่นฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการ สนธิทอล์ค (Sonchitalk) เป็นจำเลยคดีดำ พ.553/2566 ฐานละเมิดเรียกค่าเสียหายจำนวน 1,000 ล้านบาท ต่อศาลแพ่ง จนกระทั่งศาลแพ่งได้ไต่สวนฉุกเฉินและมีคำสั่งให้ยุติเผยแพร่ “สนธิทอล์ค” หรือแสดงข้อมูลใดๆ ดังกล่าว
โดยในช่วงบ่าย ศาลแพ่งได้ดำเนินการไต่สวน นายสนธิ จำเลยคดีนี้ จำนวน 1 ปาก
จากนั้นศาลมีคำสั่งว่า พิเคราะห์พยานหลักฐานที่ได้จากการไต่สวนพยานจำเลย โดยจำเลยนำสืบพยานหลักฐานตามเอกสารแล้ว เป็นที่พอใจ โดยจากพยานหลักฐานที่จำเลยได้นำสืบมาในวันนี้ ปรากฎหลักฐานในเบื้องต้นว่า ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ระบบคอมพิวเตอร์คือบริษัทอื่นซึ่งเป็นบุคคลภายนอกคดี และจำเลยมีสำเนาคำสั่งของศาลนี้ซึ่งเกี่ยวกับคดีฟอกเงินโดยความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการเล่นการพนัน มีชื่อ โจทก์เป็นผู้คัดค้านที่ 1 ตามเอกสารข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ที่ศาลอาศัยเป็นหลักในการมีคำสั่งอนุญาตตามคำขอในวิธีการชั่วคราวในเหตุฉุกเฉิน ที่โจทก์เสนอมาเพียงฝ่ายเดียวเปลี่ยนแปลงไป
ส่วนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบริษัทไมนิ่งโปร จำกัด ซึ่งโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นจะกระทำความผิดฐานลักกระแสไฟฟ้าหรือไม่นั้น มิได้ปรากฎข้อเท็จจริงในคำสั่งเดิมของศาลแพ่ง อีกทั้ง ได้ความจากจำเลยว่าหลังจากศาลมีคำสั่ง เมื่อวันที่ 3 ก.พ.2566 แล้ว จำเลยยังคงจัดรายการ "สนธิทอล์ค" อยู่ จึงเห็นสมควรเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมบางส่วน
ศาลแพ่งจึงมีคำสั่งใหม่เป็น ห้ามนายสนธิ จำเลยพูดหรือแสดงข้อมูลใดๆ ว่า บริษัทไมนิ่งโปร จำกัด ซึ่งโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นลักกระแสไฟฟ้าเป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254(2)
วันเดียวกัน นายนิติศักดิ์ มีขวด หรือทนายเอี้ยง ทนายความของนายแทนไท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ได้มายื่นคำร้องขอให้ศาลแพ่ง ออกหมายจับ กักขัง หรือ มีคำสั่งเรียกให้นายสนธิ ลิ้มทองกุล จำเลยคดีนี้มาศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 359 และ มาตรา 361 เนื่องจากเห็นว่านายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการ สนธิทอล์ค (Sondhitalk) ได้กล่าววิพากษ์วิจารณ์ในรายการสนธิทอล์ค เมื่อเช้าวันที่ 10 ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา
กระทั่งเมื่อเวลา 17.30 น.ภายหลังฟังคำสั่งศาลแพ่งแล้ว นายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความนายแทนไท เปิดเผยว่า วันนี้ฝ่ายคุณสนธิ ได้มายื่นคำร้องคัดค้านการคุ้มครองชั่วคราว ที่ศาลแพ่งมีคำสั่งไปเมื่อวันที่ 3 ก.พ.2566 ขณะที่ตนเองมายื่นคำร้องแจ้งข้อเท็จจริง ว่าคุณสนธิยังไม่หยุดวิพากษ์วิจารณ์นายแทนไท ซึ่งศาลได้ไต่สวนคุณสนธิ จำนวน 1 ปาก แล้วก็มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงห้ามไม่ให้คุณสนธิพูดวิจารณ์เฉพาะเรื่องที่ว่าบริษัทไมนิ่งโปร จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับบิทคอยน์ กระทำการลักไฟฟ้า ซึ่งบอกว่าคุณแทนไทมีหุ้นส่วนอยู่ ส่วนประเด็นอื่นนอกจากนี้หมายความว่าน่าจะพูดได้
“ครั้งก่อนห้ามพูดถึงโจทก์หมดเลย แต่ตอนนี้ศาลสั่งเปลี่ยนแปลงคำสั่งว่า ห้ามพูดเรื่องไมนิ่งโปร ลักไฟ ซึ่งบริษัทนี้นายแทนไทเป็นหุ้นส่วนอยู่ เพราะว่าข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฏ จึงสั่งคุณสนธิห้ามพูดเรื่องนี้”นายนิติศักดิ์ ระบุ
นายนิติศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องขอให้ออกหมายจับนั้น เราแจ้งเหตุว่าคุณสนธิยังดำเนินการอยู่อย่างนี้ ยังไม่หยุด เมื่อศาลบอกว่าพอมีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งแล้ว คำร้องที่เราขอไป ศาลก็ยกคำร้องไปโดยปริยาย ตามกฎหมายอยู่แล้ว เพราะว่าศาลมีคำสั่งใหม่ แต่ถ้าหลังจากนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์ใหม่อีกเกี่ยวกับบริษัทไมนิ่งโปร จำกัด ว่ามีการลักไฟฟ้าหลวงอีก ก็อาจจะต้องยื่นคำร้องอีกรอบหนึ่ง ก็ดูตามพฤติการณ์และเหตุข้อเท็จจริง ซึ่งเราได้รับการคุ้มครองจากศาลแพ่งตามข้อเท็จจริงบางส่วน ขณะที่คุณสนธิก็มีสิทธิที่จะมายื่นคำร้องคัดค้านเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี