วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) พร้อมด้วย นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ และนางอภิญญา ชมภูมาศ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมให้การต้อนรับ คนไทยที่เดินทางมาจากสาธารณรัฐตุรกีด้วยเที่ยวบิน RTAF 230 ของกองทัพอากาศ เวลา 21.30 น.วานนี้ (16 ก.พ.66) เที่ยวบินดังกล่าวมีคนไทยเดินทางกลับมา จำนวน 36 คน (เป็นชาย 5 คน หญิง 24 คน เด็กชาย 4 คน และเด็กหญิง 3 คน) และผู้เสียชีวิต จำนวน 1 ราย
เมื่อเดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 แล้ว คนไทยทั้ง 36 คน จะได้รับบริการตรวจสุขภาพขั้นต้น โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, การอำนวยความสะดวกด้านการตรวจเอกสารการเดินทาง โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, การให้คำแนะนำเพื่อสมัครเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ และชี้แจงสิทธิประโยชน์ของสมาชิก เพื่อไปทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
โดยกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน และการดำเนินการให้ความช่วยเหลือเป็นเงินค่าพาหนะและค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับภูมิลำเนา รวมทั้งการบริการให้คำแนะนำปรึกษา โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมดแล้ว จะเดินทางไปยังสถาบันบำราศนราดูร จังหวัดนนทบุรี เพื่อตรวจสุขภาพเพิ่มเติมและแยกย้ายกลับภูมิลำเนา โดยกระทรวงคมนาคมได้จัดรถให้บริการรับ-ส่ง สำหรับร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย สภากาชาดไทยรับดำเนินการส่งกลับไปยังจังหวัดชัยภูมิต่อไป
ขณธเดียวกัน นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยชาวไทย ที่เดินทางกลับจากตุรกี ถึงไทยเมื่อคืนนี้ โดยทั้งหมดผ่านการตรวจคัดกรองโรคที่ด่านควบคุมโรค ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีผู้ประสบภัยที่ประสงค์เข้ามาพักที่อาคาร Quarantine Center กองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศและกักกันโรค กรมควบคุมโรค จำนวน 36 คน มีคน โดยมี 1 คนมีอาการปวดหลัง จึงส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.ภูมิพล ส่วนที่เหลือพบว่ามีสุขภาพแข็งแรงดี แต่ส่วนใหญ่จะยังมีอาการตกใจอยู่ โดยทุกคนผ่านการตรวจคัดกรองโรค ทั้งโควิด-19 และจะมีการติดตามเฝ้าระวังโรคประจำถิ่นจากฝั่งตุรกี เช่น ลิชมาเนีย วัณโรค หัด เป็นต้น
โดยปลัด สธ.ได้มอบชุดเวชภัณฑ์และของใช้จำเป็น รวมทั้งประสานกับเจ้าหน้าที่ในการจัดส่งผู้ประสบภัย ขึ้นรถกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัยกรณีที่อาจจะไม่มีญาติมารับ ซึ่งวันนี้ทราบว่า ผู้ประสบภัยส่วนใหญ่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาเกือบทั้งหมด โดยผู้ประสบภัย มีทั้งชาวนราธิวาส ยะลา กระบี่ ชัยภูมิ มีทั้งที่ไปเรียน ทำงาน และไปอยู่กับสามี มีครอบครัวที่นั่น อย่างเช่น หญิงไทย อายุ 51 ปี เล่าว่า อาศัยอยู่ในบ้านกับสามีในจังหวัดที่อยู่ตรงศูนย์กลางแผ่นดินไหว ในคืนเกิดเหตุได้ยินเสียงดังเหมือนฟ้าร้องและเกิดการสั่นไหวรุนแรงมาก จึงวิ่งหนีออกมาข้างนอกทันทีและต้องอาศัยอยู่ในรถ ที่ไม่มีไฟและน้ำ ถึงสามวันสามคืน ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นหิมะตกฝนตกหนักและลมแรงยากลำบากที่สุดในชีวิต จึงตัดสินใจที่จะกลับมาอยู่เมืองไทย ขอตั้งหลักก่อน ส่วนสามียังอยู่ที่ตุรกี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี