“ชูวิทย์”ขุดต่อพบ “สารวัตรซัว” ถือครองทรัพย์สินอื้อ เลี้ยงลูกน้องกว่าครึ่งร้อย พาเที่ยวเมืองนอก มีบริษัทเครือข่ายนับร้อย ตั้งเซิร์ฟเวอร์กัมพูชา ปูดถือพาสปอร์ต“วานูอาตู”คาดเผ่นหนีนอกไม่กลับเข้าไทย
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและนักธุรกิจชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก“ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” มีเนื้อหาดังนี้ สวนทุเรียน“ซัว เป็นต่อ”ยิ่งขุด ยิ่งคุ้ย จะเห็นว่ามีทรัพย์สินมหาศาล ไม่ว่า ที่ดิน อาคาร ไปจนถึง“สวนทุเรียน” ที่ จ.จันทบุรี 300 กว่าไร่ มูลค่า 300ล้าน “ซัว” ลงทุนกว้านซื้อที่พร้อมทุเรียนปลูกแล้ว ไร่ละ 1 ล้าน จ่ายไม่อั้น ใส่ชื่อ“ไร่สุชาดา”เป็นชื่อแม่ ซัวมีน้องชายอีกคนชื่อ ณัฐพล แต่แปลก เวลาฟอกเงินกลับหลอกพวก “สาวก” เด็กๆ ไปถือแทน ทำตัวเป็น “ศาสดา” ใจถึง มักพาสาวกเด็กที่ทำงานไปเที่ยวเมืองนอก ขนกันไปเที่ยวยุโรปทีละ 50-60 คน อยู่เมืองนอกมากกว่าเมืองไทย ให้สาวกบูชาเงินเป็นพระเจ้า อยากได้อะไรเอาให้
ลูกน้องเหมือนโดนของ ยอมทำให้ทุกอย่าง ปกป้องลูกพี่ ยอมตายแทน แต่ตอนนี้ “ศาสดาซัว” ไปไม่กลับ ทิ้งแต่พวกลูกกระจ๊อกรับผิด เกมสล็อตออนไลน์ คือ หลอกเงินเด็ก ผู้หญิง คนแก่ เข้าถึงง่าย ตอนเล่นไม่ได้ใช้เงินมาก แต่คนเล่นเป็นแสนๆ คน เดือนๆ หนึ่งรายได้กำไรหลายร้อยล้าน
มีบริษัทเครือข่ายเป็นร้อยบริษัท ทั้งคาสิโนที่กัมพูชา ออฟฟิศ เซิร์ฟเวอร์ โปรแกมเมอร์เป็นร้อยๆ คนขณะนี้ทำงานบ้านใครบ้านมัน กระจายกันทำงาน เพราะรู้ตัว งานนี้บิ๊กก้องช้าไม่ได้ ข่าวมาว่า “ซัว” ไม่กลับแล้ว เพราะถือพาสปอร์ตประเทศ“วานูอาตู” แบบเดียวกับพวกจีนเทา ใช้เงินที่โอนไปไว้ต่างประเทศ บ้านที่ลอนดอนก็มี ขืนกลับไทยคงได้เข้าซังเต สงสารแต่ “ลูกข่าย” ที่หลงบูชาศาสดาซัวหัวปักหัวปำทำให้ทุกอย่าง สุดท้ายตัวใครตัวมัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี