เจ้าท่าพังงาพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุเรือทัวร์ดำน้ำไฟลุกไหม้เสียหายทั้งลำ พร้อมมีหนังสือสั่งห้ามใช้เรือ และให้บริษัทเร่งกู้ซากเรือขึ้นฝั่งโดยเร็ว เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเพลิงไหม้
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเรือทัวร์ดำน้ำเกิดไฟไหม้ไหม้วอดทั้งลำที่บริเวณท่าเทียบเรือลำแก่น บ้านทับละมุ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ล่าสุดวันที่ 27 ก.ย.66 พ.ต.อ.วรพงศ์ พรหมอินทร์ ผกก.ท้ายเหมือง พ.ต.ท.หญิง ญาณิสร ประสงค์ ผกก.พฐ.(พิสูจน์หลักฐาน)จังหวัดพังงา พ.ต.ท.ปิยวัชร จีนอ่วม สว.สอบสวน ว่าที่ร้อยตรีกิตติภูมิ สมัยกลาง ผอ.เจ้าท่าภูมิภาคสาขาพังงา นายผจญ กิตตินนทิกร เจ้าพนักงานตรวจท่าปฏิบัติการ ว่าที่ นาวาเอก รัชภูมิ นันทวิสุทธิ์ ตำแหน่งหัวหน้าศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดพังงา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ศรชล.ภาค 3 เจ้าท่าพังงา กองพิสูจน์หลักฐาน และคนขับเรือได้ลงพื้นที่สอบปากคำคนขับเรือและตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดไฟไหม้เรือนำเที่ยวแบบดำน้ำลึกวอดเสียหายทั้งลำตั้งแต่เมื่อคีนที่ผ่านมา
โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำนายไชยรัตน์ บิณกาญจน์ นายท้ายเรือ ว่าก่อนเกิดเหตุเรือนำเที่ยวดำน้ำลึกขนาด 32.05 ตันกอสจำนวนเครื่องยนต์ 2 เครื่อง ผู้โดยสารสามารถบรรจุได้ 54 คนประเภทเรือส่วนบุคคลใช้วัสดุไฟเบอร์กลาส ใช้บรรทุกผู้โดยสารซึ่งเรือได้จอดเสียประมาณ 1 เดือนและนำพาช่างมาซ่อมเครื่องยนต์เมื่อวันที่ 26 ก.พ.66 โดยได้นำเครื่องยนต์มาเปลี่ยนใหม่ ซึ่งเป็นเครื่องมือ 2 โดยเริ่มซ่อมเรือตั้งแต่ช่วงเช้าและเวลาประมาณ 18.30 น.ได้เอาเรือไปทดลองขับในทะเลประมาณ 40 นาทีและนำเรือกลับเข้ามาฝั่งประมาณ 20.00 น. และได้สตาร์เครื่องทิ้งไว้เพื่ออุ่นเครื่องยนต์ทดลองไว้ก่อน
แต่อยู่ๆ ก็เกิดไฟไหม้ขึ้นเมื่อเวลา 20.20 น. จากหัวเรือบริเวณห้องเก็บของไม่ทราบสาเหตุทำให้ทุกคนที่อยู่บนเรือตื่นตกใจก่อนที่ได้นำถังดับเพลิงจำนวน 3 ถังมาฉีดไฟที่กำลังลุกไหม้จากห้องโถงที่เก็บของแต่ไม่เป็นผลไฟได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว จึงต้องประสานขอความช่วยเหลือรถดับเพลิงของฐานทัพเรือพังงา เทศบาลตำบลลำแก่น และเทศบาลตำบลคึกคักจำนวน 3 คัน มาฉีดนำสกัดเพลิงไม่ให้ลุกไหม้
ว่าที่ร้อยตรีกิตติภูมิ สมัยกลาง ผอ.เจ้าท่าภูมิภาคสาขาพังงา กล่าวว่า จากกรณีเรือซันแดนเซอร์หมายเลขทะเบียนเรือ 546102656 ขนาด 32.05 ตันกรอสเกิดไฟไหม้ขณะจอดเทียบท่าบริเวณท่าเทียบเรือสะพานปูน ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เมื่อวันที่ 26 ก.พ.66 เวลาประมาณ 20.00 น.ทางเจ้าท่าจังหวัดพังงาได้ลงพื้นที่พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสอบปากคำนายไชยรัตน์ บิณกาญจน์ ถือประกาศนียบัตรนายเรือในประเทศ 500 ตันกรอส โดยทราบว่าได้นำเรือซันแดนเซอร์ออกจากทุ่นผูกเรือบริเวณท่าเทียบเรือทับละมุ เพื่อนำเรือไปวิ่งทดสอบเครื่องยนต์ในทะเลอันดามัน เนื่องจากได้ซื้อเครื่องยนต์เรือมือสองมาจากต่างประเทศ 2 เครื่อง ซึ่งการทดสอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่พบปัญหา
หลังจากแล่นเรือทดสอบโดยใช้เวลาประมาณ 40 นาทีได้นำเรือมาจอดเทียบท่า ณ ท่าเรือทับละมุ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ต่อมาเวลาประมาณ 20.00 น.ขณะที่นายไชยรัตน์ กับพวกรวม 4 คนกำลังนั่งอยู่บริเวณท้ายเรือได้พบเห็นกลุ่มควันออกมาจากห้องเก็บของชั้นล่างบริเวณส่วนหน้าของเรือ จึงได้นำถังดับเพลิงฉีดเพื่อดับไฟ แต่ไม่สามารถดับได้เนื่องจากขณะนั้นมีกระแสลมค่อนข้างแรง จึงวิ่งขึ้นมาบนฝั่งเพื่อขอความช่วยเหลือ ต่อมาได้มีรถดับเพลิงของของเทศบาลลำแก่น เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ พร้อมชาวบ้านในพื้นที่เข้ามาช่วยดับไฟ จนกระทั่งเวลาประมาณ 21.30 น.จึงสามารถดับไฟได้ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
สำหรับตัวเรือถูกไฟไม้ทั้งลำและจมลงในลักษณะนั่งแท่นบริเวณท่าเรือทับละมุ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา โดย จภ.5 (พง) ได้มีหนังสือสั่งห้ามใช้เรือ หนังสือสั่งให้ดำเนินการกู้เรือไปยังเจ้าของเรือ พร้อมเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาบันทึกปากคำพร้อมเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเพลิงไหม้ต่อไป - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี