‘เชียงใหม่’ฝุ่นตลบ

คุณภาพอากาศแย่

ติดอันดับ9ของโลก

กทม.ค่าPM2.5ปกติ

“เชียงใหม่” ติดอันดับเมืองมลพิษอันดับ 9 ของโลกที่ค่าฝุ่น PM2.5 สูงถึง 160 มคก./ ลบ.ม. เกินค่ามาตรฐาน ความเข้มข้น PM 2.5 เป็น 14.4 เท่าของค่าแนวทางคุณภาพอากาศประจำปีขององค์การอนามัยโลก มีผลกระทบต่อสุขภาพ ส่วน กทม.ค่าเฉลี่ยรอบ 24 ชั่วโมงไม่เกินมาตรฐานทุกพื้นที่

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครเปิดเผยรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM 2.5 ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงว่า ตรวจวัดได้ 26-49 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าไม่เกินมาตรฐานทุกพื้นที่ที่ตรวจวัด โดยค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม. ดัชนีคุณภาพอากาศของสถานีตรวจวัดของกรุงเทพมหานครส่วนใหญ่อยู่ในระดับคุณภาพอากาศดี

ขณะที่เว็บไซต์ www.iqair.com เก็บข้อมูลและรายงานคุณภาพอากาศและจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษทั่วโลก รายงานสภาพอากาศในส่วนประเทศไทยว่า จ.เชียงใหม่ อยู่ในอันดับ 9 ของโลก มีค่าฝุ่น PM 2.5 ถึง 160 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ความเข้มข้น PM2.5 ในเชียงใหม่ขณะนี้เป็น 14.4 เท่าของค่าแนวทางคุณภาพอากาศประจำปีขององค์การอนามัยโลก คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อทุกคนพร้อมกับออกประกาศคำแนะนำป้องกันตัวจากมลพิษทางอากาศในเชียงใหม่ว่า ควรสวมหน้ากากภายนอกบ้าน เปิดเครื่องฟอกอากาศ ปิดหน้าต่าง และควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายนอกบ้าน

ส่วนพื้นที่ฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐานในประเทศไทยพบว่า 10 เมืองมีค่าฝุ่น PM 2.5 มากที่สุด ได้แก่ จ.น่านวัดได้สูงสุด 189 มคก./ลบ.ม. จ.ลำปาง 181 มคก./ลบ.ม. จ.แพร่ 176 มคก./ลบ.ม. Phu Phiang, จ.น่านวัดได้ 176 มคก./ลบ.ม. อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย 172 มคก./ลบ.ม. อ.ลี้ จ.ลำพูน 171 มคก./ลบ.ม. อ.เมือง จ.ลำพูน 171 มคก./ลบ.ม. จ.พะเยา 171 มคก./ลบ.ม. แม่ออน จ.เชียงใหม่ 170 มคก./ลบ.ม. จ.สุโขทัย 168 มคก./ลบ.ม.

วันเดียวกัน นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ประธานคณะกรรมาธิการป้องกัน และบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติ และสาธารณภัย (ปภ.) พร้อมคณะกมธ.ปภ. สภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า จากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคม-มีนาคมของทุกปี จะมีความกดอากาศต่ำและมวลอากาศเย็น จึงทำให้เกิดปัญหามลพิษทางอากาศสูง และกำลังส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน

นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่เกิดขึ้นระยะนี้ และสภาพอากาศแห้งแล้งอาจทำให้เกิดไฟไหม้ป่าได้ง่าย จ.เชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และมีค่าฝุ่น PM 2.5 อยู่ในขั้นวิกฤตติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก และมีผลต่อสุขภาพของประชาชนและนักท่องเที่ยว ทำให้ตนและคณะกมธ.ปภ.เป็นห่วง จึงเดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน ที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน (ส่วนหน้าภาคเหนือ) จ.เชียงใหม่ ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อหารือแนวทางป้องกัน พร้อมดูเรื่องงบประมาณที่ได้รับจัดสรรเพียงพอหรือไม่ และตรวจเช็คความพร้อม อุปกรณ์และเครื่องมือรองรับไฟป่า และจุดฮอตสปอต (ค่าความร้อน)ครอบคลุมหรือไม่ ในเขต จ.เชียงใหม่และภาคเหนือ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือแนวทางป้องกันและจัดสรรงบประมาณสนับสนุนให้เพียงพอ นอกจากนี้ คณะกมธ.ปภ.ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจภาพมุมสูง สภาพพื้นที่และแนวป้องกันไฟป่า ณ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

นายยุทธพงศ์ กล่าวด้วยว่า จากการลงพื้นที่ครั้งนี้ ตนในฐานะประธานคณะ กมธ.ปภ.และคณะ กมธ.ปภ.เห็นว่าปัจจุบันหน่วยงานภาครัฐเตรียมความพร้อมการดับไฟป่าอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีกำลังพลและมีหน่วยอาสาดับไฟป่า เพื่อรับมือจุดฮอตสปอตกระจายครอบคลุม เพื่อร่วมมือแก้ปัญหามลพิษทางอากาศและ PM 2.5 อย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ควบคุมไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายกว่าที่เป็นอยู่คือ ความเข้าใจของชาวบ้านควรหยุดเผา คืนสุขภาพดีในระยะยาว ความพร้อมป้องกันและบรรเทาก่อนเกิดเหตุ เป็นหน้าที่ของ กมธ.ปภ.