วันที่ 7 มี.ค.66 ช่วงนี้สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดนครพนม ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศ แนวโน้มรุ่นแรงขึ้น ซึ่งอาจมีต้นเหตุที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือเกิดจากการกระทำของมนุษย์ เช่น เกษตรกรเผาป่าพื้นที่การเกษตร ทั้งในพื้นที่และประเทศเพื่อนบ้าน หรืออาจอยู่ในรูปของก๊าซ หยดของเหลว หรืออนุภาคของแข็งก็ได้

ทั้งนี้ มลพิษทางอากาศ คือ ภาวะอากาศที่มีสิ่งเจือปนหรือล่องลอยรวมอยู่ในอากาศที่เราสูดดมเข้าไป แม้อาจจะมองไม่เห็นด้วยตา เช่น ฝุ่นละออง ก๊าซธรรมชาติ หรือมลพิษจากท่อไอเสียของรถยนต์ เป็นต้น ถือว่าเป็นภัยร้ายใกล้ตัวที่สร้างผลกระทบและอันตรายต่อสุขภาพของเราได้อย่างมากมาย หน่วยงานเกี่ยวข้องจึงมีคำแนะนำ ควรงดทำกิจกรรมกลางแจ้ง สวมแมสก์ก่อนออกจากบ้าน เสี่ยงเกิดโรคทางเดินหายใจ เตือนห้ามเผาป่าโดยนำกฎหมายบังคับใช้ เพื่อป้องกันการเผาอันเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ

ยิ่งในช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน ทำให้สภาพอากาศแห้งแล้ง ร้อนอบอ้าว บางวันมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงถึง 35-37 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอชายแดนติดกับแม่น้ำโขง 4 อำเภอ มี อ.บ้านแพง อ.ท่าอุเทน อ.เมืองนครพนม และ อ.ธาตุพนม ขณะนี้ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ โดยจากการตรวจวัดสภาพอากาศ และคุณภาพอากาศของสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครพนม(ทสจ.นครพนม) พบว่าสภาพอากาศในพื้นที่ จ.นครพนม มีค่าฝุ่นละอองมลพิษทางอากาศ PM 2.5 สูงเกินมาตรฐาน จากปกติจะต้องไม่เกิน 50 ไมโครกรัม / ลูกบาศก์เมตร(มคก./ลบ.ม.)  แต่ช่วงนี้กลับพบว่ามีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 สูงประมาณ 70 -100 มคก./ลบ.ม.

โดยพบค่าฝุ่น PM2.5(ค่าเฉลี่ย 24 ชม.) 67 มคก./ลบ.ม. อยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศ เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ และมีแนวโน้มทรงตัว ค่าฝุ่น PM10 มีค่า 94 มคก./ลบ.ม. อยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศ ปานกลาง ขณะที่ ค่าไนโตรเจนไดออกไซด์ และซัลเฟอร์ไดออกไซด์ อยู่ในเกณฑ์คุณภาพดีมาก ที่สำคัญค่าดัชนีคุณภาพอากาศ(AQI) ของจังหวัดนครพนม 142 อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ทั้งนี้ พื้นที่ชายแดนติดกับแม่น้ำโขง มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางเดินหายใจ สาเหตุมาจากผลกระทบจากการเผาป่า และเผาพื้นที่การเกษตร ในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงพื้นที่ใน จ.นครพนม โดยทางหน่วยงานเกี่ยวข้องได้แจ้งเตือนประชาชน ให้เฝ้าระวังติดตามพยากรณ์อากาศต่อเนื่อง งดจัดกิจกรรมในที่แจ้ง และสวมแมสก์ ก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงเป็นโรคทางเดินหายใจ  พร้อมแจ้งเตือนขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ งดการเผาที่เป็นต้นเหตุเกิดมลพิษทางอาการ และได้นำกฎหมายมาบังคับใช้ หากพบการเผาก็จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

นายกิตติ หงษาวงศ์ อายุ 42 ปี ชาวบ้าน จ.นครพนม เปิดเผยว่า ช่วงนี้พบว่าสภาพอากาศริมโขงผิดสังเกต ปกติในช่วงเช้าและช่วงเย็น เวลามาเดินออกกำลังกาย มองเห็นว่าสภาพอากาศท้องฟ้า เหมือนปกคลุมไปด้วยหมอกควัน ปกติหากเรายืนริมฝั่งน้ำโขงในเขตเทศบาลเมืองนครพนม จะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์สวยงาม แต่ในช่วงนี้จะไม่สามารถมองเห็นความสวยงามของธรรมชาติได้ เพราะถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันจึงมองเห็นเทือกเขาฝั่ง สปป.ลาว ขมุกขมัวมองเห็นเลือนลาง

โดยจากการติดตามข่าวสารสภาพอากาศ จึงรู้ว่าไม่ใช่หมอกธรรมชาติ แต่เป็นฝุ่นละอองมลพิษทางอากาศ ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ เสี่ยงเกิดโรคทางเดินหายใจ วิธีป้องกันส่วนตัวในเวลาออกมากลางแจ้ง เช่น เดินออกกำลังกายริมโขง จะต้องสวมแมสก์ตลอด เพราะกังวลว่าจะเกิดโรคทางเดินหายใจ อีกทั้งยังพบว่าช่วงนี้อากาศแปรปรวนร้อนสลับเย็น บางวันรู้สึกเหมือนจะเป็นไข้ ต้องระมัดระวังดูแลสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทางหน่วยที่เกี่ยวข้อง ได้มีคำเตือนถึงกลุ่มเสี่ยง ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หากมีความจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพ เช่น ไอ หายใจลำบาก ตาอักเสบ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นไม่เป็นปกติ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย ควรปรึกษาแพทย์ - 003