เครื่องบินเล็กตก
บ่อกุ้งสมุทรสาคร
เสียชีวิต1/สาหัส1
คาดเครื่องขัดข้อง
ประธานสมาคมเฟรนด์ฟลายอิ้งคลับขับเครื่องบินเล็ก ตกบ่อกุ้งที่สมุทรสาครเสียชีวิต ขณะที่นักบินผู้ช่วยสาวบาดเจ็บสาหัส เบื้องต้น คาดเครื่องยนต์ขัดข้องส่วนสาเหตุทางการ รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
เมื่อเวลา 07.40 น.ของวันที่ 8 มีนาคม 2566 ร.ต.อ.กิจจา คุ้มแก้ว รองสารวัตรสอบสวน สภ.โคกขาม ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกในบ่อกุ้ง พื้นที่ ม.10 ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมชาย ขอค้า ผกก.สภ.โคกขาม พ.ต.ท.ประสพ พันแจ้ง รอง ผกก.สอบสวน สภ.โคกขาม เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานสมุทรสาคร แพทย์เวรจากโรงพยาบาลสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลเอกชัย
ที่เกิดเหตุ พบเครื่องบินเล็กแบบ 2 ที่นั่ง ยี่ห้อ แท็คนั่ม รุ่น P92 ตกอยู่ในบ่อกุ้ง สภาพความเสียหายตัวเครื่องเสียหายแตกเกือบทั้งลำ พบศพผู้เสียชีวิต คือ นายประกิจ ทรัพย์พิพัฒนา อายุ 55 ปี ที่อยู่ 87/2 ม.2 ต.เกราะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรีซึ่งเป็นประธานสมาคมเฟรนด์ฟลายอิ้งคลับ ตั้งอยู่ ม.7 ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ส่วนทางด้านคนเจ็บทราบ ชื่อ นางสาวแสง จันทร์ทิมา อายุ 45 ปี เจ้าหน้าที่นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลสมุทรสาคร
จากการสอบถาม นางหอมหวาน งอกสี อายุ 55 ปี ผู้ช่วยเหลือคนเจ็บ บอกว่าตอนแรกตนได้ยินเสียงผ่านหลังคามาและชนกับต้นมะขามจากนั้นก็ลงไปในบ่อกุ้ง ทีแรกนึกว่าเป็นบ่อของแม่ก็วิ่งไปดูแต่ที่แท้เป็นของตนเอง เห็นน้ำมันมันออกจากเครื่องจำนวนมากและก็มีผู้ชายกับผู้หญิง ยังอยู่ในเครื่องมองแล้วหายใจไม่ออกอีกทั้งตนกลัวเครื่องระเบิดและกลัวคนตายก็เลยตะโกนให้ชาวบ้านใกล้เคียงเขามาช่วย ดยตนกระโดดลงไปเจอผู้หญิง จึงงัดหัวขึ้นก่อนแต่ผู้ชายกว่าชาวบ้านเข้าจะมาช่วยแต่ทางมันลำบากจึงช่วยได้แต่ผู้หญิงโดยตอนช่วยออกมานั้น ต้องใช้มีดตัดเข็มขัดนิรภัยเอาตัวออกมา
ส่วนทางด้านครูการบิน บอกว่าเครื่องบินลำดังกล่าวออกมาจากสนามเบสท์โอเชียนกอล์ฟประมาณ 06.30น.เพื่อจะบินไปจังหวัดเชียงใหม่ แต่ไม่มั่นใจว่าทำไม มาตรงจุดนี้ได้ ซึ่งคิดว่าเครื่องอาจขัดข้อง ส่วนสาเหตุไม่ทราบ คงต้องรอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุมาจากเครื่องยนต์ขัดข้อง ซึ่งจะต้องสอบสวนผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้บาดเจ็บ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
ด้านดร.ณพลเดช มณีลังกา นายกสมาคมการบินนภารักษ์ ในฐานะโฆษกคณะอนุกรรมาธิการแนวทางการส่งเสริมอุตสาหกรรมการบิน สภาผู้แทนราษฎรกล่าวถึงกรณีเครื่องบินตกที่หัวสนามบิน เบสท์โอเชียน จ.สมุทรสาคร มีผู้เสียชีวิต เป็นผู้บังคับเครื่องบิน คือนายประกิจ และน.ส.แสงได้รับบาดเจ็บว่าในอดีตตนเคยขับเครื่องบินไปกับนายประกิจอยู่หลายครั้ง เป็นประธานสมาคมเฟรนด์ฟลายอิ้งคลับ รักในการบินและเปิดการฝึกสอนการบินในนามสมาคม เป็นคนที่บินเก่งมีความสามารถคนหนึ่ง จากที่ตนได้สอบถามผู้อยู่ในเหตุการณ์ ในวันนี้ (8 มี.ค.) เวลา 06.30 น. นายประกิจก่อนที่จะนำเครื่องขึ้นได้นำเครื่องบินมาอุ่นเครื่องด้วยเครื่อง HS-FFA แบบ TECNAM รุ่น P92
โดยผู้อยู่ในเหตุการณ์บอกว่าเครื่องบินเสียงเครื่องยนต์แปลกๆ ก่อนที่จะบินขึ้นจาก Runway 16 ไป 34 ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงเปลี่ยนฤดูหนาวมาฤดุร้อน ทิศทางลมเริ่มเปลี่ยนจาก Runway 16 ไป 34 ทราบว่าพอเครื่องแอร์บอร์น หรือกำลังขึ้น เพียงไม่ถึง 5 นาที ได้ยินเสียงเครื่องตกเสียงดัง ทราบว่าเครื่องบินดังกล่าวได้ตกลงในบ่อกุ้งที่หัวสนามบิน ขาดสามท่อน แต่ด้วยน้ำลึก ทำให้จมอย่างรวดเร็ว ทราบว่านายประกิจติดสายเข็มขัดและเครื่องบินจมลงในน้ำ ส่วน น.ส.แสง ได้รับการช่วยเหลือได้ทัน
ดร.ณพลเดช ระบุว่า จากโศกนาฏกรรมดังกล่าว ต้องเรียนว่า จากที่ได้ศึกษาข้อมูลจากคณะอนุกรรมาธิการฯการบินพบว่าการส่งเสริมและสนับสนุนจากภาครัฐมีน้อยมาก นักบินและผู้ที่สนใจดำเนินกิจการกันไปอย่างตามมีตามเกิด ด้วยข้อกฎหมายที่ล้าหลังและลดโอกาสการพัฒนาของอุตสาหกรรมการบิน
“จากเหตุการณ์นี้หากมีการสนับสนุนจากภาครัฐที่ดี เม็ดเงินของอุตสาหกรรมการบินจะมากกว่านี้ การดูแลรักษาเครื่องยนต์ การพัฒนาคุณภาพสนามบิน หน่วยงานราชการ ก็จะมั่นคงมากกว่านี้ เหมือนในสหรัฐอเมริกาหรือประเทศที่เจริญและมีความรุดหน้าในอุตสาหกรรมทางการบินจะมีเหตุการณ์เครื่องบินตกแทบจะเป็นศูนย์ หากผลักดันเรื่องสนามบินให้มากขึ้น จะส่งผลต่อช่างเครื่องบิน ส่งผลต่อนักบิน ส่งผลต่อการท่องเที่ยวและจะนำเม็ดเงินจำนวนมากมาสู่ประเทศได้”ดร.ณพลเดช ย้ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี