นครพนมติดชาร์ตอันดับ 1 ภาคอีสาน พบค่าฝุ่นพิษพุ่งสูง กลืนภูเขาฝั่งลาวหายทั้งแถบ ผลจากเกษตรกรรั้นลอบเผาเพื่อการเพาะปลูก
ปัญหามลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในประเทศไทย ยังแผ่ปกคลุมทั่วทุกภูมิภาค ยกเว้นภาคใต้ โดยศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ประจำวันที่ 11 มีนาคม 2566 ณ เวลา 07.00 น. ภาพรวมปริมาณ PM 2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐานจำนวน 43 จังหวัด ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นจังหวัดนครพนม ในช่วงเช้าเวลา 06.00 น. มีค่าฝุ่น PM 2.5(ค่าเฉลี่ย 24 ชม.) 110 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) เกณฑ์คุณภาพอากาศมีแนวโน้มทรงตัว สำหรับค่าฝุ่น PM10 มีค่า 150 มคก./ลบ.ม.โดยค่าดัชนีคุณภาพอากาศของจังหวัดนครพนม (AQI) อยู่ที่ 220 อยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ ขณะที่ค่ามลพิษในอากาศ โอโซน ค่าไนโตรเจนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ และซัลเฟอร์ไดออกไซด์ อยู่ในเกณฑ์คุณภาพดีมาก
จากการสำรวจพื้นที่ริมแม่น้ำโขง เขตเทศบาลเมืองนครพนม พบว่าหมอกควันปกคลุมกระจายเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะเทือกเขาหินปูนทางฝั่งประเทศ สปป.ลาว ปกติอากาศหรือท้องฟ้าแจ่มใส จะมองเห็นเทือกวิวเขาได้อย่างชัดเจน แต่ถูกหมอกบดบังจนมองไม่เห็น ในขณะที่ประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยว หลังติดตามข่าวสารด้านมลพิษทางอากาศ ส่วนมากจะสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันตนเอง(แมสก์)
ล่าสุดเวลา 10.00 น.ปริมาณค่าฝุ่นพิษเพิ่มสูงขึ้นอีก ตรวจพบ PM 2.5 อยู่ที่ 129 มคก./ลบ.ม. ค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) ขยับมาอยู่ที่ 239 มคก./ลบ.ม.จึงได้แจ้งเตือนประชานตลอดจนนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะเด็กเล็ก คนชรา สตรีมีครรภ์ ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับหัวใจและปอด เสี่ยงต่ออาการกำเริบ เช่น ไอ หายใจลำบาก หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ หัวใจวายเฉียบพลัน และอาการอื่นๆที่เกี่ยวข้อง แนะนำควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งทุกประเภท หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการควรปรึกษาแพทย์
ทั้งนี้ กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ ได้รายงานสถานการณ์และคุณภาพอากาศ ประจำวันที่ 11 มีนาคม 2566 เวลา 10.00 น. จังหวัดนครพนมเป็นพื้นที่สีแดง ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ และเป็นจังหวัดที่มีค่า PM 2.5 และ AQI สูงเป็นอันดับหนึ่งของภูมิภาคอีสาน โดย 90% ปัญหามลพิษทางอากาศแถบชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เกิดจากการเผาป่าโดยน้ำมือมนุษย์ ซึ่งส่วนใหญ่นิยมเผาเพื่อทำทางเดินเก็บหาของป่า เผาเพื่อกระตุ้นการงอกหรือการแตกใบใหม่ของพืชเศรษฐกิจทำเงิน และเผาเพื่อทำการเกษตร เป็นต้น จึงเป็นปัญหาซ้ำซากที่จะเกิดฝุ่นพิษทุกปี ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม แม้จะมีการประชาสัมพันธ์ห้ามเผาหญ้าเพื่อการเกษตร แต่เกษตรกรส่วนมากไม่เชื่อฟัง จึงมีการลอบเผาอยู่เป็นประจำทุกปี - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี