โคราชอ่วมพายุฤดูร้อนพัดถล่มหลายอำเภอ บ้านเรือนพังยับ ส่วน จ.นครพนม พายุซัด 4 อำเภอ บ้านเรือนราษฎรเสียหาย 67หลัง เร่งสำรวจ-ช่วยเหลือ ขณะที่อุดรฯ เสาไฟฟ้าแรงสูงล้ม 16 ต้น เร่งแก้ไข

เมื่อวันที่ 28มีนาคม ที่ จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มในพื้นที่ ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ชาวบ้านในหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบ โดยที่บ้านวังรางใหญ่ หมู่ 6 ต.มะเกลือเก่า อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา นายนพดล คูหัวตลาด อยู่บ้านเลขที่ 88/3 หมู่ 6 ต.มะเกลือเก่า อ.สูงเนิน เล่าถึงเหตุการณ์หลังจากเกิดพายุถล่ม ว่าบ้านเรือนได้รับความเสียหาย โดยในพื้นที่ชุมชนและหมู่บ้านใกล้เคียงได้รับผลกระทบ มีบ้านเรือนเสียหายหลายสิบหลังคาเรือน

นายนพดล เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุไม่ได้อยู่ในบ้าน ออกไปทำธุระที่ไร่ ก่อนที่ลูกชายจะโทรศัพท์มา บอกให้กลับมาดูบ้านเพราะถูกพายุลมลมกระโชกแรงจนพังเสียหาย ซึ่งหลังจากกลับมาเห็นสภาพบ้านแล้ว ก็แทบจะทำใจไม่ได้ แต่ก็ถือว่ายังโชคดีที่ไม่อยู่ในบ้าน เพราะหากอยู่บ้านอาจจะได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ต่างระบุว่าลมพัดแรงมาก พัดทีเดียวยกหลังคาบ้านปลิวข้ามถนนไปทับบ้านหลังอื่นจนพังเสียหายหมด และยังดีที่ไม่มีรถขับผ่านไปมา รวมทั้งจุดที่หลังคาปลิวไปตกก็ไม่มีคนอยู่ ไม่เช่นนั้นก็อาจจะเกิดความสูญเสีย มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

นายนพดล เปิดเผยด้วยว่า อย่างไรก็ดี ภายหลังเกิดเหตุทำให้ตนไม่มีบ้านจะอาศัยอยู่ ต้องแขวนเปลนอนใต้ต้นไม้ข้างบ้านกับสุนัขที่เลี้ยงไว้ โดยทราบว่าช่วงเวลาเดียวกันมีพายุพัดถล่มบ้านชาวบ้านในหมู่บ้านอีกหลายหลังคาเรือน มีทั้งที่เสียหายบางส่วนและเสียหายทั้งหลัง คาดว่าใน ต.มะเกลือเก่า ได้รับความเสียหายมากกว่า 20 หลังคาเรือน ซึ่งเจ้าหน้าที่อบต.มะเกลือเก่า ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายและให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว นอกจากนี้ทราบว่าพื้นที่อื่นๆของ จ.นครราชสีมา ก็เกิดพายุลมแรง มีประชาชนได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าวนับร้อยหลังคาเรือน

วันเดียวกัน นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม พร้อมด้วย นายสมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ ปลัดจังหวัดนครพนม นายเดช บำรุงหงษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.นครพนม ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายจากเหตุพายุลมกระโชกแรง เมื่อช่วงเย็นวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา จนส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย 4 อำเภอ โดย อ.เมือง พื้นที่ ต.อาจสามารถ มีบ้านเรือนเสียหาย 21 หลังคาเรือน พื้นที่ ต.วังตามัว บ้านเรือนเสียหาย 1 หลัง อ.ท่าอุเทน พื้นที่ ต.เวินพระบาท บ้านเรือนเสียหาย 11 หลังพื้นที่ ต.โนนตาล บ้านเรือนเสียหาย1หลัง อ.นาหว้า พื้นที่ ต.เหล่าพัฒนา บ้านเรือนเสียหาย 1หลัง อ.ศรีสงคราม พื้นที่ ต.หาดแพง บ้านเรือนเสียหาย30 หลังรวมบ้านเรือนเสียหาย67หลัง

นายวันชัย กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายใน อ.เมืองอ.ท่าอุเทน ส่วนในพื้นที่อ.นาหว้าอ.ศรีสงคราม ได้มอบหมายให้นายอำเภอในพื้นที่บูรณาการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้นด้านที่อยู่อาศัย และบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ความช่วยเหลือในด้านอื่นๆ เช่น การไฟฟ้าฯ เข้าดำเนินการแก้ไขกรณีไฟฟ้าดับในพื้นที่ประสบภัย พร้อมทั้งมอบนโยบายให้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนซึ่งรอไม่ได้ โดยพื้นที่ ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม ได้ส่งมอบวัสดุซ่อมแซมหลังคาสำหรับครัวเรือนที่ประสบเหตุทันทีภายหลังเกิดเหตุ

ส่วนที่ จ.อุดรธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่ม ส่งผลให้เสาไฟฟ้าแรงสูง 16 ต้น บนถนนนิตโย หมายเลข 22 อุดรธานี-สกลนคร พื้นที่ ต.บ้านยา อ.หนองหาน จ.อุดรธานี หักโค่นเสียหาย นอกจากนี้ยังพบเสาไฟฟ้าส่องสว่าง 3 ต้น ของ อบต.บ้านยา และศาลาพักผู้โดยสารของกรมทางหลวง ด้านหน้าโรงเรียนบ้านธาตุโนนตูม พังเสียหาย รวมถึงบ้านเรือนชาวบ้านใน ต.บ้านยา อ.หนองหาน หลายหลัง ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย

นายปริญญา ศรีลาพัฒน์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหนองหาน เปิดเผยว่า พายุฤดูร้อนพัดถล่มพื้นที่ ต.บ้านยา อ.หนองหาน ทำให้เสาไฟฟ้าแรงสูง 16 ต้น ล้มลงขวางถนนเป็นทางยาวเกือบ 1 กิโลเมตร โชคดีที่ขณะเกิดเหตุไม่มีรถวิ่งบนถนน จึงไม่มีรถและผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ ได้เร่งเก็บกู้และซ่อมแซมแก้ไข โดยปักเสาไฟฟ้าแรงสูงใหม่ คาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 2 วัน ก็จะแล้วเสร็จ สวนกรณีการจ่ายกระแสไฟฟ้าไม่ได้กระทบกับชาวบ้านที่ใช้ไฟ เพราะการไฟฟ้าฯ สามารถจ่ายกระแสไฟให้ได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องเฝ้าระวังพายุที่อาจเกิดขึ้นอีก โดยมีการเตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง หากเกิดกรณีเสาไฟฟ้าโค่นล้ม และขอให้ประชาชนอย่างเข้าไปใกล้จุดเกิดเหตุ พร้อมกับให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ ทันที