ปภ.สรุปปฏิบัติการ 5 วันลุล่วง
ดับไฟป่านครนายก
จัดจนท.เฝ้าระวัง-หวั่นปะทุซ้ำ
ผู้ว่าฯเชียงใหม่รุดลงพื้นที่แม่แตง
สกัดจุดความร้อนลามพื้นที่อุทยานฯ
9จังหวัดเหนือค่าฝุ่นระดับสีแดง
เชียงราย18อภ.PM2.5พุ่ง226มคก.
จิสด้ารายงานปริมาณฝุ่น PM2.5 รายวันพบว่าเกินมาตรฐาน 27 จังหวัด โดย 9 จังหวัดภาคเหนือสาหัส ค่าฝุ่นยังสูงระดับสีแดงสูงสุดที่เชียงรายวัดได้ 226 มคก. 18 อำเภอ คพ.เตือน 17 จว.เหนือระหว่าง 4-10 เมษายนอากาศปิด ค่า PM 2.5 แนวโน้มเพิ่มต่อเนื่อง ด้านปภ.สรุปปฎิบัติการดับไฟไหม้เขาแหลม นครนายก 5 วัน ดับไฟได้แล้วทั้งหมด แต่ยังจัดเวรเฝ้าระวังจุดเสี่ยง ป้องกันไฟปะทุขึ้นมาอีก
เมื่อวันที่ 3 เมษายน สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เปิดเผยผลตรวจสอบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ด้วยแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” พบ 27 จังหวัดของประเทศไทยมีค่า PM 2.5 มากกว่า 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม. โดยเฉพาะ 9 จังหวัดภาคเหนือ ที่เกินค่ามาตรฐานถึงระดับสีแดง วัดค่าฝุ่นได้มากกว่า 90 มคก./ลบ.ม. ซึ่งมีผลต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ ประกอบด้วย เชียงราย PM 2.5 ยังสูงกว่า 226 มคก. เกินมาตรฐานระดับสีแดง 18 อำเภอ พะเยา 9 อำเภอ น่าน 15 อำเภอ เชียงใหม่ 25 อำเภอ แม่ฮ่องสอน 7 อำเภอ ลำพูน 8 อำเภอ ลำปาง 10 อำเภอ ยกเว้น เกาะคา แม่ทะ และ อ.เมืองลำปางอยู่ระดับสีส้ม จ.ตาก 7 อำเภอ ยกเว้น อ.เมืองตากและอุ้มผางอยู่ในระดับสีส้ม จ.แพร่ 8 อำเภอ ขณะที่กรุงเทพมหานครค่าคุณภาพอากาศอยู่ระดับดี
จิสด้ายังระบุด้วยว่า สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังซึ่งมักมากับเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อนคือ ฝุ่น PM 2.5 สถานการณ์จุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่ชายแดนและใกล้เคียง เนื่องจากลมพัดผ่านเข้ามา ประกอบกับภูมิประเทศภาคเหนือของไทยเป็นหุบเขาแอ่งกระทะ
ด้านกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ (คพ.)คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระหว่างวันที่ 4-10 เมษายน กรุงเทพฯและปริมณฑลมีแนวโน้มที่ดี เพราะอากาศเปิดมากขึ้น ลมช่วยพัดพาฝุ่นออกจากพื้นที่ ภาพรวมของพื้นที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน อย่างไรก็ตาม 17 จังหวัดภาคเหนือมีแนวโน้มควรเฝ้าระวังในภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะจังหวัดที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านช่วงวันที่ 4 - 10 และต้องระวังเป็นพิเศษระหว่างวันที่ 6-7 เมษายน เพราะอากาศค่อนข้างปิด
ผู้สื่อข่าวรายงานคืบหน้าสถานการณ์ไฟไหม้ป่าเขาแหลม ต.เขาพระ อ.เมือง จ.นครนายก หลังเจ้าหน้าที่พยายามควบคุมไฟป่าต่อเนื่องมา 5 วัน ประกอบกับมีฝนจากการทำฝนหลวงตกในพื้นที่ ทำให้ควบคุมไฟได้ในที่สุด และทำให้กลุ่มควัน และไฟบางส่วนที่ติดตามตอไม้เริ่มคลี่คลาย จนสามารถยุติภารกิจได้ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา
กระทั่งช่วงเช้าวันนี้ (3 เมษายน) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์ไฟป่า ในพื้นที่จังหวัดนครนายกว่า ปัจจุบันไฟป่าดับลงแล้วทั้งหมด จากการปฏิบัติการอย่างเข้มข้นตลอด 5 วัน สามารถควบคุมและดับไฟป่าลงได้ทั้งหมดแล้ว และลดระดับศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับจังหวัด เป็นศูนย์อำนวยการฯระดับท้องถิ่น เพื่อติดตามเฝ้าระวังต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อความสร้างมั่นใจและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่
ปภ.ยังระบุด้วยว่า สำหรับการปฏิบัติการทางอากาศ มีการใช้เฮลิคอปเตอร์ 5 ลำ เป็นของปภ. 2 ลำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) 2 ลำ กองทัพบก (ทบ.) 1 ลำ และเครื่องบินแบบปีกติดลำตัว ฟิกวิง จากกองทัพอากาศ (ทอ.) 1 ลำ รวมการปฏิบัติทางอากาศในการดับไฟป่าจ.นครนายก เที่ยวบินสะสม 516 เที่ยว รวมใช้น้ำดับไฟป่า 713,000 ลิตร รวมถึงมีการใช้โดรนของสมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ สำรวจพื้นที่ทางอากาศ และตรวจสอบผลปฏิบัติการดับไฟป่าว่าดับลงหรือไม่ เพื่อนำมาวางแผนในการปฏิบัติงาน
สำหรับการปฏิบัติการทางภาคพื้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ระดมเจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร รวมถึงรถดับเพลิง รถดับไฟป่า รถบรรทุกน้ำ เครื่องมืออุปกรณ์ร่วมปฏิบัติการเดินเท้าดับไฟ ทำแนวกันไฟ และถึงแม้ไฟจะดับลงแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยังคงเตรียมอุปกรณ์และจัดเวรยามเฝ้าระวังพื้นที่จุดเสี่ยง ป้องกันไฟปะทุขึ้นมาอีก
ที่จ.เชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดและ เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟป่า ที่อุทยานแห่งชาติศรีลานนา อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ หลังเกิดไฟป่าปะทุลุกลามกระจายหลายจุดอย่างรวดเร็ว ในพื้นที่ป่าห้วยแม่กัวะ ต.แม่หอพระ อ.แม่แตง สาเหตุจากชาวบ้านเผาป่า ล่าสัตว์ และเก็บเห็ด พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าเต็งรัง มีเชื้อเพลิงและยังเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ นายนิรัตน์สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในอ.แม่แตงทำบัญชีผู้เลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ป่า เพื่อควบคุมการเผาป่าจากผู้เลี้ยงสัตว์ ที่จะเผาป่าเพื่อให้เกิดหญ้าระบัด ซึ่งเป็นวิถีปศุสัตว์แบบเก่า ที่ต้องการอาหารให้สัตว์ในพื้นที่ พร้อมวางแผนนำกำลังพลเข้าดับไฟป่า ไม่ให้ไฟแตกตัวขยายเป็นวงกว้าง
ส่วนสถานการณ์ไฟป่าพื้นที่ป่าห้วยเรือน เขตอุทยานแห่งชาติศรีลานนา อ.พร้าว เจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าเข้าไปกว่า 8 ชั่วโมงกว่าจะถึงจุดเกิดไฟ ต้องเข้าไปพักค้างเพื่อควบคุมสถานการณ์ใกล้ชิด ทั้งนี้ จากไฟป่าที่เกิดขึ้นขณะนี้ทำให้จังหวัดเตรียมประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉินอัคคีภัยไฟป่า ในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติศรีลานนา เพราะคาดการณ์ สถานการณ์ยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติได้ง่าย แนวโน้มจะมีไฟลุกไหม้รอบอุทยานฯ เนื่องจากเชื้อเพลิงสะสมมีอยู่จำนวนมาก
สำหรับไฟป่าในพื้นที่ดอยสุเทพ บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า อ.แม่ริม เฮลิคอปเตอร์ยังบินทิ้งน้ำดับไฟจนคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่พื้นที่โดยรอบดอยสุเทพจุดอื่น ยังต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะสภาพอากาศร้อนจัด มีคนเข้ามาล่าสัตว์ ทำให้เกิดไฟขึ้นมากในป่าหลังดอยสุเทพ บริเวณบ้านปง อ.หางดง ต.โป่งแยง และ ต.แม่แรม อ.แม่ริม สถานการณ์ขณะนี้จังหวัดไม่สามารถเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ไปดับไฟป่าจุดอื่นได้ เพราะทุกพื้นที่ยังต้องเฝ้าระวังเข้มงวด จึงประสานขอกำลังคนจากจังหวัดต่างๆมาช่วยดับไฟป่า ด้านกอ.รมน.ได้ส่งกำลังทหารเข้าสนับสนุนการปฏิบัติงานในจุดต่างๆอีกทาง รวมถึงกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ส่งทีมเสือไฟมาเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนกำลังในพื้นที่ต่อสู้กับไฟป่าในจ.เชียงใหม่ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี