ตร.เตือนภัยสงกรานต์
‘โจรไซเบอร์’อาละวาด
ตุ๋นเหยื่อสูญ 619 ล้านบ.
รับแจ้งเหตุพุ่ง 4 พันเคส
“บิ๊กอู๊ด” นำทัพตร.เตือนภัยช่วงสงกรานต์ มีวันหยุดยาว “โจรไซเบอร์” อาละวาดไม่หยุด ตุ๋นเหยื่อโอนเงิน เสียหายจำนวนมาก ชี้รอบสัปดาห์รับแจ้งเหตุผ่านออนไลน์ 4,045 เคส สูญเงินกว่า 619ล้านบาท
เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ แถลงสถิติการรับแจ้งความออนไลน์รอบสัปดาห์และภัยที่เกิดขึ้นใหม่ เพื่อประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ว่าในห้วงวันที่ 26 มีนาคม-1 เมษายน 2566มีผู้แจ้งความ 4,045เคส/มูลค่าความเสียหาย 619,718,786.50 บาท
สำหรับสถิติการรับแจ้งความคดีออนไลน์มากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ 1.คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ 1,761เคส/มูลค่าความเสียหาย 29,322,434.61 บาท 2.คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ 565เคส/มูลค่าความเสียหาย 86,215,154.63 บาท 3.คดีหลอกลวงให้กู้เงิน 412เคส/มูลค่าความเสียหาย 25,532,331.28 บาท 4.คดีข่มขู่ทางทางโทรศัพท์ให้เกิดความกลัวแล้วหลอกให้โอนเงิน หรือคอลเซ็นเตอร์ 354เคส/มูลค่าความเสียหาย 60,282,753.69 บาท และ 5.คดีหลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ 249เคส/มูลค่าความเสียหาย 16,973,048.71 บาท
ขณะที่ภัยออนไลน์ที่น่าสนใจและเกิดขึ้นมากในรอบสัปดาห์ มี3 เรื่อง ดังนี้1.เงินหมดบัญชี แถมเป็นหนี้บัตรเครดิตคดีนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์หาเหยื่อ อ้างว่ามีชื่อค้างอยู่ในระบบเป็นบุคคลที่ยังไม่ได้ชำระภาษีประจำปี และต้องเสียภาษีไม่เช่นนั้นจะต้องเสียภาษีย้อนหลัง จากนั้นคนร้ายให้เหยื่อแอดไลน์ และกดลิงก์เข้าเว็บไซต์กรมที่ดินปลอม ต่อมาให้กดดาวน์โหลดข้อความโฆษณาตรากรมที่ดิน ติดตั้งแอพพลิเคชั่นควบคุมโทรศัพท์ของเหยื่อ หน้าจอเหยื่อปรากฏการทำงานเป็นเปอร์เซ็นต์ และให้รอจนครบ 100% ถ้าครบแล้วระบบจะให้สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันข้อมูลบุคคลและอัพเดทข้อมูล
“ช่วงนี้คนร้ายจะให้โอนเงินค่าธรรมเนียมไปบริจาคมูลนิธิเด็ก เพื่อหลอกดูรหัส แล้วล็อคหน้าจอของเหยื่อ ห้ามเหยื่อปิดเครื่อง อ้างว่าถ้าไม่เสร็จกระบวนการจะถูกเรียกภาษีย้อนหลัง 2-3 หมื่นบาท แล้วคนร้ายได้ทำรายการถอนเงินสดจากบัตรเครดิตมาใส่ในบัญชีธนาคาร(คนร้ายรู้รหัส PIN) เนื่องจากเหยื่อผูกบัตรเครดิตไว้กับแอพฯ ธนาคาร แล้วถอนเงินออกไปจนหมด” พล.ต.อ.สมพงษ์ กล่าว
2.อยากมีรายได้ แต่ได้รายจ่ายคดีนี้คนร้ายอ้างเป็นพนักงาน Shopeeโฆษณารับสมัครงานใน Facebook หรือโทร.หาเหยื่อ ก่อนจะให้แอดไลน์แล้วดึงเข้ากลุ่มไลน์ทำงานที่มีสมาชิกในกลุ่มจำนวนหนึ่งเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ โดยมีหน้าม้าพูดคุยว่าทำภารกิจโปรโมทสินค้าเสร็จสิ้นแล้วได้เงินค่าคอมมิชชั่นจริง เหยื่อหลงเชื่อจึงทำภารกิจโปรโมทสินค้า โดยคนร้ายส่งลิงก์Shopeeของจริงให้เหยื่อกดสั่งสินค้าใส่ตะกร้า จากนั้นคนร้ายให้บันทึกหน้าจอส่งให้ดูพร้อมโอนเงินตามมูลค่าสินค้านั้นๆเข้าบัญชีคนร้าย จากนั้นคนร้ายโอนเงินคืนพร้อมให้ค่าคอมมิชชั่นกลับมาเพื่อหลอกให้เหยื่อคิดว่าได้ค่าคอมมิชชั่นจากการทำงานจริง แล้วคนร้ายก็ให้เหยื่อทำภารกิจต่อไป จนเมื่อสินค้ามีมูลค่าหลักหมื่นหรือหลักแสน คนร้ายจะอ้างว่าเหยื่อทำผิดพลาดต้องโอนเงินเพิ่มเพื่อแก้ไข สุดท้ายก็จะไม่โอนเงินคืน
3.อยากกู้เงินแบบง่ายๆ กลับเสียเงินแบบง่ายๆ เช่นกันคดีนี้คนร้ายสร้างเว็บไซต์บริษัทคันทรี่กรุ๊ปโฮลดิ้งส์ (CGH) ปลอม หลอกให้กู้เงินออนไลน์ดอกเบี้ยต่ำ เมื่อเหยื่อกดเพิ่มเพื่อนไลน์คนร้ายคนที่ 1 ที่แปะมากับเว็บไซต์ปลอม ให้ผู้เสียหายกรอกข้อมูลส่วนตัว แล้วส่งลิงก์ไลน์ให้คุยกับคนร้ายคนที่ 2ที่ส่งสัญญาปลอมให้เหยื่อว่าได้สิทธิกู้เงิน แต่เนื่องจากเป็นลูกค้าใหม่ต้องโอนเงินค้ำประกันก่อน เพื่อแสดงว่ามีความสามารถผ่อนชำระจากนั้นก็จะหลอกว่าต้องจ่ายค่าเบี้ยประกัน ค่าธรรมเนียม หรือทำผิดขั้นตอนที่กำหนดต้องโอนเงินเพิ่มเพื่อแก้ไข ซึ่งคนร้ายจะหลอกให้จ่ายเงินไปเรื่อยๆ และหลอกให้เปิดเผยเลขบัญชีและโอนชำระเงินเป็นค่างวด พร้อมให้บันทึกหน้าจอการโอนเงินส่งให้โดยตั้งเงื่อนไขเข้มงวดไว้หลายข้อ
จากนั้น จะหลอกให้โอนเงินเพิ่ม อ้างว่าต้องโอนผ่านบัญชีที่ลงทะเบียนไว้ โอนเงินเกินเวลาที่กำหนด หรือทำธุรกรรมผิดพลาด แล้วอ้างว่าใส่เลขบัตรประชาชนผิดเป็นเหตุให้เลขบัญชีถูกอายัด ก่อนส่งลิงก์ไลน์ให้ติดต่อถอนอายัดกับคนร้ายคนที่ 3 ที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งคนร้ายคนที่ 3มีการข่มขู่เหยื่อด้วยกฎหมาย และให้เหยื่อส่งรูปบัตรประชาชนให้ สุดท้ายหลอกให้เหยื่อโอนเงินเพิ่มอีก เมื่อรู้ตัวว่าโดนหลอกก็สูญเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก
“ทั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่เดินทางกลับไปเยี่ยมญาติพี่น้องช่วงเทศกาลสงกรานต์ ช่วยกันแจ้งเตือนภัยให้รู้เท่าทัน ไม่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งคนร้ายในโลกออนไลน์ลักษณะดังกล่าว”พล.ต.อ.สมพงษ์ ย้ำทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี