จับ‘ดร.เอก ฅนปั้นดิน’ แอบอ้างรองนายกฯ ฝากเข้ารับราชการ ตุ๋นเงิน 14 ล้าน
9 เมษายน 2566 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2565 ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาล ร่วมกับชุด PCT 5 ออกลาดตระเวนออนไลน์จนพบความเดือดร้อนของประชาชนซึ่งเคยถูกคนร้าย ชื่อ “ดร.เอก ฅนปั้นดิน” อ้างตนว่าสามารถฝากเข้ารับราชการองค์การบริหารปกครองส่วนท้องถิ่นได้ สนิทกับรองนายกรัฐมนตรี เหยื่อหลงเชื่อจ่ายเงิน 3 แสน แล้วหนีหาย โดยได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน และศาลได้พิจารณาออกหมายจับแล้ว เหตุเกิดวันที่ 3 กันยายน 2560 ซึ่งปัจจุบันยังไม่สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้
จากการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดของผู้ต้องหาเพิ่มเติมของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. และชุด PCT5 ทราบว่าคนร้ายคือนายวรพนธ์ หรือเอก มีหมายจับที่ยังต้องการตัวเพื่อดำเนินคดีอยู่ 6 หมายจับ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT5 กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ ฯรีบทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว
ต่อมาวันที่ 8 เมษายน 2566 เวลาประมาณ 13.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT 5 , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. และ ส.ต.อ.ประกิจ ภูมิวงศ์ ผบ.หมู่ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. และชุด PCT5 ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมนายวรพนธ์ อายุ 40 ปี อยู่หมู่ 1 ต.ดอนยายหอม อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม ดร.กิตติมศักดิ์ วรพนธ์ กุลสืบ หรือ “ครูเอก ฅนปั้นดิน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ จ.133/2561 ลงวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ.2561 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกงทรัพย์” โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าตลาดละแมเมืองใหม่ ต.ละแม อ.ละแม จ.ชุมพร
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยรับว่าตนเรียนจบปริญญาตรีคณะครุศาตร์ สาขาโยธา , ปริญญาโทคณะบริหารการศึกษา มีทักษะในการพูดเชิงโน้มน้าว เป็นวิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับภาวะผู้นำ การทำงานเป็นทีม รับจัดกิจกรรม Team Building , Walk Rail ฝึกอบรมสัมมนาและพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ทักษะ ความสามารถ โดยเน้นจัดสัมมนาในรูปแบบกิจกรรมบันเทิงเชิงสาระตรงตามวัตถุประสงค์และค่านิยมขององค์กรต่างๆ และรับทำพิธีบวงสรวงต่างๆ เช่น พิธีบายศรู่ขวัญ ปฐมนิเทศ ปัจฉิมนิเทศนักเรียน นักศึกษาฯลฯ มีประสบการณ์การทำงานด้านนี้กว่า 15 ปี
นอกจากนี้ ให้การว่าตนมีพฤติการณ์ชักชวนหาคนที่สนใจเข้ารับราชการซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกศิษย์ หรือผู้ซึ่งเคยเข้ารับการอบรมกับตน ตลอดจนบุคคลที่นับถือศรัทธาตนผ่านการบอกต่อปากต่อปากของคนที่นับถือตน ว่าสามารถฝากบรรจุเข้ารับราชการในหน่วยต่าง ๆ ได้ เช่น สอบบรรจุนายสิบทหารบก , นายสิบตำรวจ , ข้าราชการครู และหน่วยราชการอื่น ๆ อีกหลายหน่วยงาน โดยเรียกเก็บเงินกับบุคคลที่สนใจต่อหัว รายละ 200,000 – 300,000 บาท โดยอ้างว่าสามารถวิ่งเต้น โดยตนอ้างใช้เส้นสายของนักการเมืองระดับรองนายกรัฐมนตรีฝากเข้ารับราชการ มีผู้ร่วมขบวนการซึ่งอ้างว่าเป็นคนทำหน้าที่ติดต่อกับรองนายกรัฐมนตรี และข้าราชการระดับสูงให้ช่วยวิ่งเต้นได้ ชื่อนายเสกสรร โดยมีการแบ่งผลประโยชน์ที่ได้จากเหยื่อแต่ละรายกัน คือ ตนเองได้ 20 เปอร์เซ็นต์ นายเสกสรร ได้ 80 เปอร์เซ็นต์ จากการตรวจสอบประวัตินายเสกสรร พบว่าเคยถูกจับกุมในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน” มาแล้ว เมื่อปี 2562
สำหรับประวัติ นายวรพนธ์ หรือ “ครูเอก ฅนปั้นดิน” ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปวัฒนธรรมไทย เคยดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีมวิทยากรฅนปั้นดิน, ประธานฝ่ายกิจกรรม สหพันธ์คนดนตรีแห่งประเทศไทย, ผู้ช่วยผู้ตรวจการประจำสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ, เลขานุการองค์กรการมีส่วนร่วมภาคประชาชนตามรัฐธรรมนูญ, คณะกรรมการองค์กรปลูกปัญญาเรียนรู้ชุมชนท้องถิ่น เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังเคยได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่น ด้านอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยย่านปทุม , รางวัลธรรมลักษณ์ศิลา คนดีแบบอย่างของชาติ, รางวัลศิษย์ดีเด่น คนดีศรีพอเงิน, รางวัลลูกผู้มีความกตัญญูอย่างสูง, รางวัลผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ, รางวัลบุคคลดีของแผ่นดิน สาขาบุคคลผู้เป็นต้นแบบต่อสังคมดีเด่น จนภายหลังเป็นวิทยากรฝึกอบรม จัดสัมมนา พิธีกร และรับจัดพิธีกรรมตามงานมงคลต่างๆ เช่น พิธีบวงสรวง พิธีบายศรีสู่ขวัญ ทำขวัญนาค ทำขวัญบ่าวสาว
ที่ผ่านมาก่อเหตุในลักษณะนี้มาตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน 2560 ถึง มกราคม 2561 มีผู้เสียหายที่หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อประมาณเดือนละ 10 ราย มูลค่าความเสียหายของผู้เสียหายแต่ละรายประมาณ 200,000 ถึง 300,000 บาท มูลค่าความเสียหายกว่า 14 ล้านบาท เงินที่ได้มานำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และค่าใช้จ่ายในการหลบหนีเมื่อรู้ตัวว่ามีหมายจับตั้งแต่ปี 2561
จากการตรวจสอบข้อมูลประวัติการกระทำความผิดของผู้ต้องหาในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า ณ ปัจจุบัน นายวรพนธ์ กุลสืบ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับที่ยังต้องการตัวเพื่อดำเนินคดีรวม จำนวน 6 หมายจับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการประสานแจ้งให้พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบในส่วนของหมายจับที่ยังต้องการตัวเพื่อดำเนินคดี ดำเนินการอายัดตัวผู้ต้องหาต่อพนักงานสอบสวน สภ.สวนพริกไทย เป็นที่เรียบร้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.สวนพริกไทย จ.ปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ บางส่วนในรูปแบบโปรไฟล์ที่ดี แบบนี้เป็นวิทยากร ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย ควรใช้ความสามารถที่ตนมีสมัครสอบแข่งขันเข้าทำงานโดยสุจริต ควรมีสติ หากพบเห็นสิ่งผิดปกติสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบาย ผบ.ตร.
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี