อุตุฯเตือนไทยอากาศแปรปรวน“เหนือ–อีสาน–กลาง รวมถึงกทม.ปริมณฑล”อากาศร้อนถึงร้อนจัด สลับกับพายุฤดูร้อน ถล่ม 15-16 เมษายน มีฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บ ฟ้าผ่า จากนั้น 17-21 เมษายน จะกลับมาร้อนอีกครั้ง เหนือร้อนระอุสุดแตะ 43 องศาไฟป่าจุดความร้อนยังปะทุซ้ำ ทำค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน ควันหนาแน่นทัศนวิสัยแย่ เชียงใหม่ติดอันดับ2อากาศแย่ของโลก ส่วนเชียงราย ผู้ว่าฯขยายประกาศห้ามเผาถึงสิ้นเม.ย.

เมื่อวันที่ 12 เมษายน นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า วิเคราะห์จากแบบจำลองสภาพอากาศช่วงวันที่ 12-14 เมษายน อากาศยังร้อนถึงร้อนจัดในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและภาคกลาง โดยยังมีฝนฟ้าคะนองอยู่บ้างบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออก จากนั้นวันที่ 15-16 เมษายน จะมีพายุฤดูร้อนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงบ่ายถึงค่ำ สลับกับอากาศร้อนและร้อนจัดตอนกลางวัน จึงขอเตือนให้ระวังพายุฝนฟ้าคะนอง โดยเฉพาะงานกลางแจ้งเสี่ยงพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงลูกเห็บ และตั้งแต่วันที่ 17-21 เมษายน อากาศจะกลับมาร้อนอีกครั้งและฝนน้อยลง

15-16เมย.เตือนพายุ-ลูกเห็บ-ฟ้าผ่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันล่วงหน้า ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายนระบุ วันที่ 11-14 และ 17 เมษายน ความกดอากาศต่ำจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีอากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่ ฟ้าหลัว ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นบางพื้นที่ ทำให้ภาคใต้มีฝนน้อย มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ส่วนวันที่ 15-16 เมษายน ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากจีนจะแผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ส่งผลให้ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น ขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าได้บางพื้นที่ เริ่มมีผลกระทบภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนก่อน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่อาจเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง

อ.เถินแชมป์ร้อน42.6องศา

ส่วนผลการตรวจวัดอุณหภูมิสูงสุดเมื่อวันที่ 11 เมษายน พื้นที่ที่อุณหภูมิสูงสุดคือ อ.เถิน จ.ลำปางวัดได้ 42.6 องศาเซลเซียส รองลงมาคือ อ.เมือง จ.หนองคายและอ.เมือง จ.อุดรธานี 41 องศาเซลเซียส ที่อ.เมือง จ.นครสวรรค์และอ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี 40.7 องศาเซลเซียส ขณะที่พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลวัดอุณหภูมิสูงสุดได้ที่อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 40.0 องศาเซลเซียส

ไทยระอุเหนือร้อนที่สุด43องศา

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ไทยอากาศร้อน ฟ้าหลัวตอนกลางวัน และร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก โดยภาคเหนืออากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิสูงสุด 43 องศาเซลเซียส เช่นเดียวกับ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่อากาศร้อนถึงร้อนจัดมีฟ้าหลัว มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจ.นครราชสีมา สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิสูงสุด 41 องศาเซลเซียส

กลาง-กทม.ไม่น้อยหน้า41องศา

ภาคกลาง อากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 41 องศาเซลเซียส กรุงเทพและปริมณฑล อากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 40 องศาเซลเซียส ภาคตะวันออก อากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากที่จ.ชลบุรี จันทบุรี และตราด อุณหภูมิสูงสุด 40 องศาเซลเซียส ส่วนภาคใต้อากาศร้อนกลางวัน มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิสูงสุด 38 องศาเซลเซียส

เหนือ-อีสาน-กลางฝุ่นสะสมมาก

สำหรับสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบนมีการสะสมของฝุ่นละอองหมอกควันในเกณฑ์ปานกลางถึงมาก เนื่องจากการระบายอากาศไม่ดี ส่วนภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ยังคงมีการสะสมน้อย เนื่องจากการระบายอากาศบริเวณดังกล่าวอยู่ในเกณฑ์ดี

เชียงใหม่เผาป่า327จุดสูงสุดรอบปี

ขณะที่สถานการณ์ไฟป่า จ.เชียงใหม่ยังรุนแรง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ยังพบลักลอบเผาต่อเนื่อง โดยช่วงเช้าวันนี้ พบจุดไฟป่าเกิดขึ้นมากถึง 327 จุด ทำให้หมอกควันที่ปกคลุมตัวเมืองไม่ดีขึ้น ทัศนวิสัยยังแย่มองไม่เห็นดอยสุเทพ โดยพื้นที่ต.สุเทพ ต.ศรีภูมิ และ ต.ช้างเผือก ค่า PM 2.5 อยู่ระหว่าง 124–142 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ส่วนอ.เชียงดาวสูงที่สุด 246 มคก./ลบ.ม. สาเหตุมาจากการลักลอบเผาต่อเนื่อง จุดความร้อนวันนี้น่าจะสูงสุดในรอบปี พื้นที่อ.พร้าวมากที่สุด 65 จุด รองลงมา อ.เชียงดาว 62 จุด อ.เวียงแหง 22 จุด อ.แม่แตง 21 จุด อ.สะเมิง 19 จุด และกระจายเกือบทุกอำเภอ ทำให้เว็บไซต์ไอคิวแอร์ ยังจัดอันดับให้เชียงใหม่มีคุณภาพอากาศแย่อันดับ 2 ของโลก

PM2.5ทำป่วยระบบหายใจเพิ่ม3เท่า

วันเดียวกัน นายกเทศมนตรีตำบลแม่แจ่ม อ.แจ่ม จ.เชียงใหม่ นำผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลแม่แจ่ม แจกหน้ากากอนามัยให้ประชาชนในเขตเทศบาลตำบลแม่แจ่มทุกครัวเรือนๆละ 50 ชิ้น และมีนายจักร์ชัย ติตตะบุตร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเทพรัตนเวชชานุกูล เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา มาให้ความรู้ในการป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจ และอันตรายของ PM 2.5 แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบต่อสุขภาพมานานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว ค่า PM 2.5 เช้าวันนี้ ที่ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่มวัดได้สูงถึง 120 มคก./ลบ.ม.

ทั้งนี้ จากข้อมูลผู้มารับบริการด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ ในโรงพยาบาลเทพรัตนเวชชานุกูล เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 – 31 มีนาคม 2566 พบมีผู้ป่วย 2,829 คน เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าของปีที่ผ่านมา และยังพบผู้ป่วยมะเร็งปอดรายใหม่ 5 คน

เชียงรายไฟป่าลาม-แม่สรวยหนักสุด

ขณะที่สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่จ.เชียงราย ยังเกิดขึ้นหลายหลายอำเภอ มีจุดความร้อนหรือ Hot Spot รวม 191 จุด พื้นที่ที่พบมากที่สุดคือ ป่าเขต อ.แม่สรวย 59 จุด อ.เวียงป่าเป้า 43 จุด อ.เมืองเชียงราย 19 จุด เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครระดมกำลังเข้าดับไฟป่าไฟพร้อมทำแนวกันไฟต่อเนื่อง

ด้านนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าฯเชียงราย ผู้บัญชาการศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน จ.เชียงราย(ศบก.)ไฟป่า จ.เชียงรายเรียกประชุมคณะกรรมการศูนย์ฯ เพื่อวางแผนแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานที่ประชุมว่า ช่วงเวลาห้ามเผาพบเกิดจุดความร้อนขึ้นระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์-10 เมษายน 5,259 จุด อยู่ในอันดับ 5 ของ 9 จังหวัดภาคเหนือนับจากน้อยไปหามาก จังหวัดที่พบมากที่สุดคือ แม่ฮ่องสอน 10,423 จุด รวมมีจุดความร้อนสะสม 56,966 จุด พื้นที่ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนแห่งชาติถูกไฟไหม้ไปแล้ว 160,000 ไร่

ขยายประกาศห้ามเผาถึงสิ้นเมย.

ขณะที่สภาพอากาศยังร้อนต่อเนื่อง ไม่มีฝนตกนานหลายสัปดาห์ ดังนั้น นายพุฒิพงศ์และคณะกรรมการศูนย์ฯ มีมติประกาศขยายระยะเวลาประกาศห้ามเผาในที่โล่งไปอีก 15 วัน สิ้นสุดวันที่ 30 เมษายน เพื่อให้มีการควบคุมการเผาและเจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่องต่อไป

กรมควบคุมมลพิษรายงานคุณภาพอากาศประจำวันว่า เขตอ.เมืองเชียงราย มีฝุ่น PM 2.5 วัดได้ 146 มคก./ลบ.ม. ถือว่าเกินมาตรฐาน 11 วันติดต่อกันและตั้งแต่ช่วงประกาศห้ามเผามีค่าเกินมาตรฐานรวม 36 วัน ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ชายแดนไทย-เมียนมา วัดได้ 197 มคก./ลบ.ม. เกินมาตรฐานติดต่อกัน 11 วันและนับตั้งแต่ประกาศห้ามเผารวม 46 วัน ต.เวียง อ.เชียงของ ชายแดนไทย-สปป.ลาว วัดได้ 152 มคก./ลบ.ม. เกินมาตรฐาน 14 วันติดต่อกันและตั้งแต่ประกาศห้ามเผารวม 46 วัน