สืบจากมือถือล็อคคอ 2 สมุนแก๊งยาบ้าข้ามชาติพบสูตรใหม่ใช้แบรนด์แอพพลิเคชั่นชื่อดังเกือบ 2 ล้านเม็ด เชื่อเน้นทำตลาดกลุ่มวัยรุ่นเพราะราคาถูก

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 21 เม.ย.66 ที่กองบังคับการควบคุมที่ 1 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (กรมทหารราบที่ 3) ภายในวัดกันตศิลาวาส บ้านสองคอน ต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พล.ต.นรธิป โพยนอก ผู้บัญชาการกำลังสุรศักดิ์มนตรี (ผบ.กกล.ฯ) พร้อมด้วยนายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พล.ร.ต.สมาน ขันธพงษ์ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (ผบ.นรข.) พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม นายนิพพิชฌน์ อติอนวรรตน์ นายอำเภอธาตุพนม พ.ต.อ.ถวิล คำเกษ ผกก.สภ.ธาตุพนม นางนิภาวรรณ ใยบัวเทศ นายด่านศุลกากรนครพนม น.อ.กริช กองศรี หัวหน้าสถานีเรือ นรข.ธาตุพนม นายทหารยุทธการและการข่าว พ.ต.ท.เกษมสันต์ ราชโสภา สารวัตร สถานีตำรวจ 2 อ.ธาตุพนม กองกำกับการ 10 กองบังคับการตำรวจน้ำ พ.ต.ต.พัฒนา เสาวกุล ผบ.ร้อย ตชด.235 และ ร.อ.ธนโชติ ณ นคร ผู้บังคับกองร้อยทหารราบ กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง แถลงการณ์ตรวจยึดยาบ้าล็อตใหญ่ที่ลักลอบลำเลียงมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน 

โดยสามารถจับกุมสมุนแก๊งค้ายาบ้าข้ามชาติ 2 รายมี นายวีรพงษ์ ชื่อเล่นพงษ์ หรือ ล้าน อายุ 43 ปี พร้อมนายชัยธวัช อายุ 33 ปี ทั้งคู่เป็นชาวบ้านคับพวง หมู่ 4  ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ตรวจยึดของกลางเป็นยาบ้า จำนวน 1.8 ล้านเม็ดคาดเป็นยาบ้าสูตรใหม่ ที่ยังไม่เคยมีการจับกุมมาก่อน อีกทั้งยังมีการออกแบบโลโก้เหมือนเป็นแพคเกจใหม่ โดยมีตราสัญลักษณ์ในห่อกันชื้นเป็นกระดาษไขสีเหลืองอ่อน ลักษณะโลโก้คล้ายภาษาอังกฤษตัวเจ (J) เหมือนโลโก้แอพพลิเคชั่นดังติ๊กต๊อกใต้โลโก้ดังกล่าวระบุปี 2023 เชื่อเป็นยาบ้าสูตรใหม่เน้นขายในกลุ่มวัยรุ่น ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ โดยผลิตแถวแนวตะเข็บชายแดนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ตรงข้ามภาคเหนือของไทย ก่อนที่จะมีการลำเลียงเข้ามาทางพื้นที่ชายแดนลาวแถบภาคอีสานของไทย รวมถึง จ.นครพนม เนื่องจากสภาพพื้นที่เอื้ออำนวย สะดวกในการขนส่งข้ามแม่น้ำโขงแล้วลำเลียงเข้าพื้นที่ตอนใน โดยส่วนใหญ่จะใช้การลักลอบขนทางเรือหาปลา แฝงตัวทำทีเป็นชาวประมงท้องถิ่น 

ลักษณะการลำเลียงของขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติจะนำมาพักไว้ในบ้านของสมุนที่อยู่แถวริมแม่น้ำโขง รอจังหวะเหมาะก็จะซุกใส่รถยนต์ที่ออกแบบเพื่อซุกซ่อนยาเสพติดโดยเฉพาะ ส่งขายในพื้นที่ตอนในอีสาน รวมถึงใช้ประเทศไทยเป็นเส้นทางผ่านไปยังต่างประเทศเพื่อเพิ่มมูลค่า

นอกจากนี้จากการตรวจสอบเม็ดยาบ้าพบว่ามีเป็นสีส้มมีตัวอักษร WY แต่มีขนาดเม็ดเล็กลงจากที่เคยจับกุมมาก่อน คาดว่าลดปริมาณเพื่อลดต้นทุน มีราคาซื้อขายตามแนวชายแดน ประมาณเม็ดละ 5 -10 บาท หากทะลักเข้าพื้นที่ตอนในของไทยจะมีราคาซื้อขายประมาณเม็ดละ 20 -30 บาท อีกทั้งมีการทำการตลาดกับกลุ่มเยาวชนและกลุ่มแรงงานที่มีกำลังซื้อต่ำ และเป็นยาบ้าที่นำสารจากยาฆ่าแมลงเป็นสารตั้งต้น แทนแอมเฟตามีนเพื่อลดต้นทุน

สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง วางกำลังหน่วยงานความมั่นคงลงพื้นที่ลาดตระเวนสกัดจับกุมตรวจยึด ขณะกลุ่มคนร้ายลักลอบขนมาทางเรือหาปลาติดเครื่องยนต์ บริเวณริมโขงในพื้นที่บ้านคับพวง หมู่ 4 ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พร้อมจับกุมผู้ต้องหาคือนายวีรพงษ์ อายุ 43 ปี ก่อนขยายผลจับกุมผู้ต้องหาอีกรายที่หลบหนี แต่ดันทำโทรศัพท์มือถือตกในที่เกิดเหตุ และขยายผลจับกุมเพื่อนร่วมแก๊ง คือ นายชัยธวัช อายุ 33 ปี นำตัวไปสอบสวนหาข้อเท็จจริง

เบื้องต้นนายวีรพงษ์ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่นำโทรษฃศัพท์ที่พบในที่เกิดเหตุมาตรวจสอบ เครื่องแรกเป็นของนายวีรพงษ์จริงเพราะมีบัตรประชาชนอยู่ในเคส อ้างว่ามาหาปลาอยู่ใกล้บริเวณ เห็นเจ้าหน้าที่มากันเยอะเลยตกใจถอดรองเท้าวิ่งหนี แต่ถูกจับกุมได้ในเวลาต่อมา ขณะที่โทรศัพท์อีกเครื่องหนึ่งทราบภายหลังว่าเป็นนายชัยธวัช เพราะทั้งสองเครื่องมีการโทรหากันถี่มาก จึงติดตามไปจับกุมตัวนายชัยธวัชได้ที่บ้าน และเปิดปากรับสารภาพว่าได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 20,000 บาทจากนายทุน โดยร่วมกับนายวีรพงษ์ทำหน้าที่ประสานงานลักลอบนำยาบ้ามาพักรอการส่งต่อไปขาย ส่วนนายวีรพงษ์ยังปากแข็งไม่ยอมรับสารภาพ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการสอบสวนขยายผล ติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมาย 

ด้าน พล.ต.นรธิป โพยนอก ผบ.กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ยอมรับว่า ในช่วงนี้พื้นที่ชายแดนอีสานมีการทะลักนำเข้ายาบ้ามากขึ้น และมีการขนลำเลียงจำนวนล็อตใหญ่ หลักแสนถึงหลักล้านเม็ด เนื่องจากการข่าวพบว่า มีออเดอร์สั่งนำเข้าจากไทยจำนวนมาก รวมถึงใช้เส้นทางจากไทย ผ่านไปขายต่างประเทศเพิ่มมูลค่า ในส่วนของเรื่องราคาถูกลง มีการทำการตลาดเพิ่มขึ้น จึงมีการลักลอบขนในจำนวนมาก เพื่อให้ได้มูลค่าเป็นเงินสูง คุ้มกับการขนส่ง

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง นอกจากจะประสานความร่วมมือตามแนวชายแดน รวมถึงสร้างความร่วมมือกับชาวบ้าน แจ้งเบาะแสเป็นแหล่งข่าว ยังได้สร้างความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึง สปป.ลาว สร้างความร่วมมือในการสกัดกั้นจับกุมปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ทำให้มีการจับกุมได้มากขึ้น ในส่วนของจังหวัดชายแดน ได้มีการเพิ่มมาตรการคุมเข้มตั้งแต่ผู้เสพไปถึงผู้ค้า พร้อมขยายผลถึงนายทุน เพื่ออายัดทรัพย์ เพื่อตัดวงจรการค้า สำหรับต้นทางยาเสพติดยาบ้า ส่วนใหญ่จะนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ตรงข้ามชายแดนภาคเหนือ นำเข้ามาทางประเทศเพื่อนบ้านชายแดนอีสาน เพราะมีพื้นที่เอื้ออำนวยสะดวกในการขนส่ง จึงต้องมีการเข้มงวดสกัดกั้นปราบปรามจับกุมต่อเนื่อง เน้นหาเบาะแส แหล่งข่าวเป็นสำคัญ - 003