เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2566 เวลา 10.00 น.ที่สนามกีฬาโรงเรียนธารน้ำใจ ต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พร้อมด้วย นายมังกร ยนต์ตระกูล รองหัวหน้าพรรคฯ และทีมงาน เปิดเวทีปราศรัยพบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 4 (ประกอบด้วย อ.นาแก อ.วังยาง อ.ปลาปาก และ ต.บ้านผึ้ง ต.กุรุคุ ต.วังตามัว อ.เมืองนครพนม) ถือว่าเป็นอดีตพื้นที่ถิ่นสหายในการสู้รบ ที่มาของชื่อวีรบุรุษนาแก โดยทั้งนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เมื่อปี 2519 เคยมารับราชการตำรวจประจำ สภ.อ.นาแก (ในขณะนั้น)
ส่วนการปราศรัยครั้งนี้ ได้อ้อนพี่น้องประชาชน ช่วยสนับสนุนลูกพรรค คือ นายชาญชัย คำจำปา ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 นครพนม เบอร์ 9 รวมถึง ผู้สมัครเขตเลือกตั้งที่ 1 นายสังคม สีวังพล เบอร์ 3 เขตเลือกตั้งที่ 2 นายนำชัย กิตติวัชรธงชัย เบอร์ 5 และเขตเลือกตั้งที่ 3 นางเกศราภรณ์ พูลสวัสดิ์ เบอร์ 7 เน้นย้ำนโยบายแก้ปัญหาปากท้อง ปัญหาเศรษฐกิจค้าขาย การพัฒนาการศึกษา รวมถึงการแก้ปัญหาหนี้สินของประเทศ
สำคัญที่สุดพรรคเสรีรวมไทย ได้ประกาศจุดยืนเกี่ยวกับการปราบปรามทุจริต ปราบโกง และพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี และฝากให้ประชาชนสนับสนุนเลือกพรรคเสรีรวมไทย พร้อมผู้สมัครทุกเขต เข้าไปเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะเป็นทางรอดเดียวที่จะยึดอำนาจประชาชนคืนจากรัฐบาลนายกฯตู่ ที่โกงประชาชนมาตลอด ตั้งแต่การเลือกตั้ง รวมถึงการบริหาร ทำให้ประเทศเป็นหนี้สิน นอกจากนี้ ยังได้เน้นให้ประชาชนสนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตย คือ พรรคเสรีรวมไทย และไม่เอาพรรคที่สนับสนุนรัฐบาลนายกฯตู่ ในการปราศรัยหาเสียงครั้งนี้ มีประชาชนมาร่วมรับฟังเกือบ 5,000 คน
ทั้งนี้ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เปิดเผยว่า ในการปราศรัยครั้งนี้รวมถึงภาคอีสาน ยอมรับว่ากระแสเสียงตอบรับดี เพราะเชื่อมั่นในนโยบายพรรคเสรีรวมไทย ที่เน้นปราบโกง ปราบทุจริตคอรัปชั่น พูดจริงทำจริง โดยนโยบายสำคัญที่สุดคือการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การศึกษาลูกหลานเยาวชน การให้สวัสดิการผู้สูงอายุ รวมถึงหนี้สินของประเทศ ถือเป็นจุดยืนที่พรรคเสรีรวมไทย จะต้องเข้าไปเป็นรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
เพราะต้องยอมรับว่า รัฐบาลนายกฯตู่ สร้างหนี้สินให้ประเทศชาติมากกว่า 10 ล้านล้านบาท เป็นการพิสูจน์ความล้มเหลวในการบริหารงานรัฐบาล 8 ปีที่ผ่านมา มาถึงการเลือกตั้งครั้งนี้ เชื่อมั่นว่าประชาชนจะตัดสินใจเลือกฝ่ายประชาธิปไตยเป็นรัฐบาล เพราะเป็นทางรอดของประเทศไทย เชื่อว่าประชาชนจะไม่เลือกฝ่ายรัฐบาลเผด็จการ รวมถึงพรรคที่ร่วมรัฐบาลนายกตู่ มั่นใจพรรคเสรีรวมไทย จะต้องได้ ส.ส.มากกว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมา เคยได้ กว่า 10 ที่นั่ง ครั้งนี้ไม่ตั้งเป้า แต่เชื่อมั่นต้องเพิ่มขึ้น รวมถึงนครพนมจะต้องได้ ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 1 คน ส่วนตนพร้อมที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพราะคนที่จะปราบนายกฯตู่ รวมถึงรัฐบาลเผด็จการได้ ต้องเป็นนายกรัฐมนตรีจากเสรีรวมไทย
วีรบุรุษนาแก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า หากถามถึงเรื่องการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่น ในกลุ่มการเมืองรู้ว่าตนพูดจริงทำจริง เอาผิดมาแล้วหลายราย ไม่เคยรอดสักราย ทั้ง นายสิระ เจนจาคะ รวมถึง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ต้องพ้นตำแหน่งทุกราย เช่นเดียวกันกับสหายแสง ยืนยันไม่มีมวยล้มต้มคนดู เอกสารหลักฐานทุกอย่างเกี่ยวกับการครอบครองที่ดินป่าดงพะทาย ความผิดชัดเจน ยื่นไปยัง ป.ป.ช.ครบทั้งหมด ยืนยันไม่รอด รอแค่ ป.ป.ช.ชี้มูลเท่านั้น
"สำหรับสหายแสงถือว่าหมดอนาคตการเมืองแล้ว ถึงจะลงสนามเลือกตั้ง จะชนะการเลือกตั้งหรือแพ้ ต้องมีความผิด ถือเป็นนโยบายที่ตน รวมถึงพรรคเสรีรวมไทย ต้องทำตรงไปตรงมา เกี่ยวกับปัญหาทุจริตคอรัปชั่น เพราะจะเป็นทางรอดให้ประเทศชาติพัฒนาไปข้างหน้า เนื่องจากปัจจุบันบ้านเมืองไม่เจริญเพราะปัญหาทุจริตคอรัปชั่น" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี